สายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตจะถูกประกาศว่าสูญพันธุ์หลังจากไม่มีการพบเห็นมาหลายปี แม้มีโอกาสพบเพียงเล็กน้อย แต่บางคนก็มีความหวัง อย่างเช่น นกหัวขวาน Ivory billed ครั้งหนึ่งเคยเป็นนกหัวขวานขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกา มันถูกพบครั้งสุดท้ายในปี 1944 ในรัฐหลุยเซียนา และสูญพันธุ์อย่างเป็นทางการในปี 1967
จนในปี 2004 นักท่องเที่ยวพายเรือคายัคได้รายงานว่าเค้าพบนกหัวขวานที่เหมือนนกหัวขวาน Ivory billed แต่หลังจากมีการระดมคนค้นหามันหลายครั้ง สุดท้ายก็ได้รับการสรุปว่าไม่ใช่นกหัวขวาน Ivory billed แต่ก็ยังมีคนที่พยายามค้นหาพวกมันเพราะยังหวังว่ามันยังหลงเหลือ
คลิปด้านล่างเป็นนกหัวขวาน Ivory billedที่ถ่ายได้ที่รัฐหลุยเซียนาในปี 1935
นอกจากนี้ยังมีสายพันธุ์อื่นๆ ที่แทบไม่ได้รับการศึกษาเลย เช่นหอยแมลงภู่น้ำจืดหลายชนิดก็พบเห็นเพียงไม่กี่ครั้งก่อนจะหายไป ในเวลาไม่นานนี้มีหอยแมลงภู่น้ำจืด 8 ชนิดได้สูญพันธุ์ไปแล้ว
“ฉันไม่คิดว่าเราจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงสิ่งที่ต้องสูญเสียไป” Tyler Hern นักชีววิทยาจาก Erwin National Fish Hatchery ในรัฐเทนเนสซีกล่าวกับทาง New York Times หอยแมลงภู่พวกนี้มีความลับที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
นกส่วนใหญ่และพืชที่อยู่ในการประกาศสูญพันธุ์ล่าสุดนั้นมาจากฮาวาย นั้นน่าจะเป็นเพราะระบบนิเวศของเกาะที่มีความเสี่ยงมากกว่า และยังมีค้างคาวผลไม้อีกด้วย แม้กฎหมายว่าด้วยสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในปี 1973 จะเป็นประโยชน์ต่อพืชและสัตว์ป่า แต่สปีชีส์อีกหลายชนิดสูญหายไปจำนวนมากก่อนที่กฏหมายจะออกมา.. ซึ่งมันก็สายไป
“กฏหมายคุ้มครองพวกนี้มันมาไม่ทันเวลา สัตว์หลายชนิดต้องจากไปก่อน มันเป็นโศกนาฏกรรม” Noah Greenwald ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อความหลากหลายทางชีวภาพกล่าว
นับตั้งแต่กฎหมายคุ้มครองสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์ได้ประกาศใช้เมื่อเกือบ 50 ปีที่แล้ว ทำให้สัตว์มากกว่า 50 ชนิดในสหรัฐอเมริกาที่เคยเกือบสูญพันธุ์ได้กลับมาฟื้นจำนวนอีก อย่างเช่น นกอินทรีหัวล้าน นกกระทุงสีน้ำตาล และวาฬหลังค่อม นับตั้งแต่การประกาศครั้งล่าสุด มีสัตว์ 11 ชนิดที่สูญพันธุ์อย่างเป็นทางการ ทั่วโลกมีสัตว์อีก 902 ชนิดที่ได้รับการบันทึกว่าสูญพันธุ์และอีกหลายชนิดกำลังเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในอีกทศวรรษต่อไป