ถ้ำเพนเทลี (Penteli cave) หรืออีกชื่อคือ Davelis Cave ตามที่เรียกกันทั่วไป เป็นถ้ำที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าสนโบราณบนเขา Mount Pentelicus ที่ด้านหลังของถ้ำยาว 60 เมตร และสูง 20 เมตร มีอุโมงค์เครือข่ายซึ่งหนึ่งในนั้นนำไปสู่บ่อน้ำใต้ดิน อุโมงค์อื่นตามประเพณีเล่าว่าจะนำไปสู่นรก แม้ว่าถ้ำจะดูไม่ลึกลับนักจากภายนอก แต่ถ้ำแห่งนี้เป็นที่ตั้งของเหตุการณ์แปลกประหลาดมากมาย เช่น การพบเห็นเงาคล้ายผี ยูเอฟโอ และสิ่งเหนือธรรมชาติอื่นๆ
ตั้งแต่สมัยโบราณถ้ำแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ไม่น่าจะมีอยู่บนโลก มันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเทพแพน (เทพปกรณัม) และ นิมฟ์ (Nymph) เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Panaipolion มีการพบสิ่งประดิษฐ์ในถ้ำ มีวาดภาพเทพเจ้า พบช่องต่างๆ ถูกตัดเข้าไปในกำแพง และมีซุ้มประตูที่มีแอ่งน้ำที่ไม่ทราบจุดประสงค์
หลังจากการมาถึงของศาสนาคริสต์ ถ้ำแห่งนี้ก็ยังคงเป็นสถานที่ความสำคัญทางจิตวิญญาณ และถูกใช้เป็นที่หลบภัยของคริสเตียนหรือนักบวชที่โดดเดี่ยวหรือต้องการอยู่ตามลำพัง
ตามรายงานบางฉบับ โบสถ์ตรงทางเข้าถ้ำสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 มันเป็นสองโบสถ์ที่เชื่อมต่อกัน ภายในโบสถ์หลังหนึ่งมีข้อความที่แปลกตาบางอย่างซึ่ง คาดว่าถูกสลักเอาไว้โดยนักบวชที่เข้ามาอาศัย การออกแบบที่ไม่ธรรมดาของโบสถ์ทำให้เกิดการคาดเดาว่า จริงๆ แล้วโบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในยุคแรก ในประวัติศาสตร์คริสเตียน โดยพวกนอกรีตหรือกลุ่มอื่นของศาสนาคริสต์
จนในช่วงศตวรรษที่ 19 ถ้ำแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงโด่งดัง เนื่องจากลือกันว่าถูกใช้เป็นรังของ Davelis ซึ่งเป็นโจรที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จากการขโมยของคนรวย และชื่อของ Davelis Cave อาจถูกตั้งมาจากคนๆ นี้
เรื่องราวเกี่ยวกับอาถรรพณ์?
ถ้ำแห่งนี้เคยเป็นแหล่งรวมของปรากฏการณ์ประหลาด โดยในศตวรรษที่ 19 ผู้คนอ้างว่าได้ยินเสียงลึกลับมาจากทางเดินของถ้ำ บางคนก็จะได้ยินเพลงที่ไม่มีที่มา ความแปลกประหลาดของถ้ำยังถูกเสริมด้วยสภาพแวดล้อมที่น่ากลัว โดยถ้ำนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่โดดเดี่ยวและรายล้อมไปด้วยป่าสนที่ดูน่ากลัว
พวกเขารายงานว่าการสืบสวนทั้งหมด ถูกขัดขวางโดยการทำงานผิดปกติของอุปกรณ์เทคโนโลยีที่พวกเขาใช้ เช่น กล้องและไฟฉาย ตลอดจนพฤติกรรมแปลกประหลาดของผู้ตรวจสอบ (เหมือนผีสิง)
เรื่องราวของถ้ำเพนเทลี กลายเป็นเรื่องแปลกมากขึ้นไปอีก เมื่อในปี 1977 กลุ่มคนงานและช่างเทคนิคที่อ้างว่ามาจากองค์กรที่ไม่รู้จัก วางลวดหนามไว้รอบๆ ถ้ำ และเริ่มทำงานในถ้ำด้วยระเบิดและรถตักหิน เมื่อมีคนท้องถิ่นพยายามเข้าไปในถ้ำ พวกเขาก็ถูกทหารยามที่กลุ่มองค์กรที่ไม่รู้จักขัดขวาง
ทฤษฎียอดนิยมเกี่ยวกับตัวตนขององค์กรนี้ อาจเป็น NATO รัฐบาลสหรัฐฯ หรือ กองทัพกรีก หลายคนคาดเดาว่าพวกเขากำลังสร้างบังเกอร์นิวเคลียร์หรือสถานที่จัดเก็บอาวุธนิวเคลียร์ หรือแม้แต่ทฤษฎีเปิดพอร์ทัลเพื่อเดินทางข้ามมิติก็ยังมี
ในปี 1983 องค์กรที่ไม่รู้จักหายตัวไปอย่างลึกลับ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้จากไปอย่างไร้ร่องรอย เพราะทิ้งอุปกรณ์บางส่วนเอาไว้เบื้องหลัง โบสถ์และเครือข่ายถ้ำธรรมชาติก็ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง นอกจากนี้ มีการสร้างทางเดินคอนกรีตขึ้นมาหลายแห่ง แม้ว่าบางส่วนดูเหมือนจะสร้างเสร็จเพียงครึ่งเดียว ไม่ว่าวัตถุประสงค์ขององค์กรนี้จะเป็นอย่างไร จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาบรรลุเป้าหมายแล้วหรือยัง
เคยมีรายงานคู่สามีภรรยาเดินทางผ่านถ้ำแห่งนี้ และมองจากไกลๆ พวกเขาพบรถจอดอยู่ปากถ้ำ ซึ่งบริเวณนั้นไม่มีทางที่นำรถไปจอดได้ คู่สามีภรรยาผ่านถ้ำอีกหลายวัน ก็ยังเห็นรถจอดอยู่ที่เดิม จนพวกเขาตัดสินใจเข้าไปดูใกล้ๆ พวกเขาพบว่ารถที่จอดอยู่ค่อนข้างแปลก มันไม่มีร่องรอยความเสียหายใดๆ รวมถึงร่องรอยล้อรถ
หลังจากที่ภรรยามองเข้าสำรวจในพุ่มไม้รอบๆ รถ เธอก็เริ่มกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เธอเล่าว่าเธอเห็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างวงรีสีขาว มีความยาวประมาณ 60 ซม. มีดวงตาเรืองแสงขนาดใหญ่สองดวง แต่สามีไม่เห็นสิ่งมีชีวิตนั้น แต่เขาก็เห็นพุ่มไม้ขยับและเกิดเสียงกรอบแกรบ ราวกับว่าสัตว์เพิ่งเคลื่อนผ่านไป
และนี่คือเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับ ถ้ำเพนเทลี (Penteli cave) หรืออีกชื่อคือ Davelis Cave ความจริงปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ อย่างผี หรือ UFO อะไรพวกนี้ แทบจะไม่มีหลักฐาน แต่สิ่งที่หลงเหลือทางกายภาพของถ้ำก็ยังคงมาให้เห็นจนถึงทุกวันนี้