แม้ว่าถ้ำลาวาแห่งนี้จะดูโบราณ แต่อายุของมันก็ไม่ได้ถึงล้านปี แต่มันเกิดขึ้นเมื่อราว 400 – 800 ปีก่อน มันเป็นถ้ำที่ได้รับแสงแดดเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย เป็นถ้ำที่กักเก็บแร่ธาตุและก๊าซที่เป็นพิษ รวมทั้งเชื่อจุลินทรีย์ที่แปลกประหลาดที่พบได้เฉพาะในถ้ำแห่งนี้
โดยปกติแล้วถ้ำที่เต็มไปด้วยความร้อนใต้พิภพ มันควรจะเป็นที่ๆ มีความหลากหลายของจุลินทรีย์น้อยและมีความอุดมสมบูรณ์ที่ต่ำ ..อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่บริเวณที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรงขนาดนี้ กลับเต็มไปด้วยแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์ที่ซับซ้อนอย่างมาก
การค้นพบที่น่าสนใจที่สุดอย่างหนึ่งคือ แบคทีเรียที่รู้จักกันในชื่อคลอโรเฟล็กซี่ (Chloroflexi) นักวิจัยอธิบายว่าแบคทีเรียชนิดนี้ดูเหมือนจะทำหน้าที่เป็น “ฮับ” ของสิ่งมีชีวิต ที่มีบทบาทสำคัญในเครือข่ายที่พึ่งพาอาศัยกันของจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ
ดร.รีเบคก้า ดี เพรสคอตต์ ผู้เขียนคนแรกจาก NASA Johnson Space Center กล่าวว่า “การศึกษานี้ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ ที่แบคทีเรียสายเลือดโบราณ เช่น Phylum Chloroflexi อาจมี ‘งาน’ หรือบทบาททางนิเวศวิทยาที่สำคัญที่เรายังไม่เข้าใจ
คลอโรเฟล็กซี่ (Chloroflexi) เป็นกลุ่มของแบคทีเรียที่มีความหลากหลายอย่างยิ่ง มันมีบทบาทที่แตกต่างกันมากมายในสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง แต่ในตอนนี้พวกมันไม่ได้รับการศึกษาที่ดี ดังนั้นเราจึงไม่รู้ว่า พวกมันทำอะไรในชุมชนที่อยู่ในถ้ำนี้ นักวิทยาศาสตร์บางคนเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า “สสารมืดของจุลินทรีย์” หรือ “จุลินทรีย์ที่มองไม่เห็นหรือไม่ได้ศึกษาในธรรมชาติ”