ในปี ค.ศ. 1923 แฟรงก์ เอช.เมลแลนด์ นักเดินทางได้บันทึกไว้ในหนังสือบันทึกการเดินทางตนชื่อ In Witchbound Africa เขาได้พูดถึงสัตว์ประหลาดที่บินได้ ซึ่งได้พบมันในหนองน้ำว่า ..เป็นสัตว์ที่ดุร้าย น่ากลัว สามารถโจมตีเรือขนาดเล็กได้ มันมีลำตัวสีแดง ความยาวเมื่อกางปีกเต็มที่อยู่ราวๆ 1.2-2 เมตร
จากภาพสเก็ตของ พบว่ามันมีลักษณะคล้ายเทอโรซอร์ แต่ลักษณะโดยละเอียดนั้นชาวพื้นเมืองที่เล่าให้เมลแลนด์ฟังไม่มั่นใจ เพราะแทบไม่มีใครที่เห็นสัตว์ตัวนี้ใกล้ ๆ แล้วรอดชีวิตกลับมาได้
จนในปี ค.ศ. 1956 วิศวกรชื่อ เจ.พี.เอฟ. บราวน์ ได้เห็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง 2 ตัว ที่บินได้ ใกล้ทะเลสาบบังเวอูลู ประเทศแซมเบีย โดยเขาบอกว่ามันบินช้าๆ และเงียบมาก ..จากการสังเกตุก็พบว่ามันมีความยาวปีกประมาณ 1 เมตร และมีความยาวหาง 1.3 เมตร ส่วนหัวมีลักษณะแคบและคล้ายสุนัข
หลังจากนั้นอีกหนึ่งปี ก็มีรายงานจากโรงพยาบาลท้องถิ่น ว่ามีการโจมตีมนุษย์โดยนกขนาดใหญ่ ที่บริเวณทะเลสาบบังเวอูลู เมื่อได้ถามถึงลักษณะของนกที่โจมตี ผู้ได้รับบาดเจ็บก็อธิบายรูปร่างของมัน จนได้ทราบว่านกตัวนี้มีลักษณะคล้ายเทอโรซอร์อีกเช่นกัน แต่รูปสเก็ตไม่อาจจะนำออกสู่สาธารณะได้ และปัจจุบันไม่มีใครทราบว่ารูปสเก็ตนี้อยู่ที่ไหน
สุดท้าย.. มีการสันนิษฐานว่า สัตว์ประหลาดบินได้ที่เรียกว่า “คองกามาโต” อาจเป็นนกหาปลาขนาดใหญ่ จำพวกนกกระสา ตัวที่ใกล้เคียงที่สุดอาจเป็น นกกระสาหน้าผากเหลือง (Ephippiorhynchus senegalensis) หรือ นกกระสาปากพลั่ว (Balaeniceps rex) ซึ่งเป็นนกขนาดใหญ่ที่มีกรามแข็งแรง และเป็นนกที่หายากของแอฟริกา