ในปี ค.ศ. 1939 รัฐบาลอังกฤษได้จัดตั้งคณะกรรมการป้องกันสัตว์แห่งชาติ (National Air Raid Precautions Animal Committee) เพื่อตัดสินใจว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงเมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้น
ความกลัวคือในขณะที่รัฐบาลถูกบังคับให้ปันส่วนอาหาร ผู้คนจะแบ่งปันอาหารของพวกเขากับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา หรือปล่อยให้พวกสัตว์เลี้ยงตายด้วยความหิวโหยอย่างไร้มนุษยธรรม
สุดท้ายพวกเขาตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดนั้นคือ “กระตุ้นให้ผู้คนทำลายสัตว์เลี้ยงที่มีสุขภาพดีของพวกเขาอย่างเร็วที่สุด” โดยคณะกรรมการป้องกันสัตว์แห่งชาติได้แจกจ่ายแผ่นพับให้กับประชาชน
ในแผ่นพับที่แจกจ่ายให้กับประชาชน พวกเขาแนะนำว่าทุกคนที่มีสัตว์เลี้ยงควรพิจารณาที่จะย้ายพวกมันไปที่ชนบท หรือ “ถ้าคุณไม่สามารถดูแลพวกมันได้ ทางที่ดีคือทำลายพวกมันซะ”
แม้ว่าข้อความจะเน้นอย่างชัดเจนว่าควรหาบ้านใหม่สำหรับสัตว์เลี้ยงก่อน แต่ก็ถูกชักจูงไปในทางที่รุนแรง นั้นเพราะแผ่นพับมีภาพที่เต็มไปด้วยปืนพร้อมป้ายกำกับเขียนไว้ว่า “เครื่องมือมาตรฐานในการทำลายสัตว์เลี้ยงอย่างมีมนุษยธรรม”
เมื่อมีการประกาศสงคราม เจ้าของสัตว์เลี้ยงได้เข้าแถวในจุดที่เป็นเหมือนจุดรับทำลายสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รักของพวกเขา “เจ้าหน้าของเราถูกเรียกร้องให้ปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่มีความสุขนี้ จะไม่มีวันลืมโศกนาฏกรรมในสมัยนั้น” ผู้ก่อตั้ง People’s Dispensary for Sick Animal กล่าวถึงเรื่องราวในเวลานั้น
เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำงานได้ในเวลากลางคืนตามคำสั่งปิดไฟ และเมื่อสุสานที่เหมาะสมหมดลง พวกเขาเลือกที่จะเผาศพ และยังมีสัตว์เลี้ยงกว่าครึ่งล้านตัวก็ถูกฝังอยู่ใต้ทุ่งหญ้าเดียวกัน โดยรวมแล้วมีสัตว์เลี้ยงมากกว่า 750,000 ตัวถูกฆ่าตาย