เรื่องราวของปลาแค้ยักษ์ และการค้นหาปลากินคนแห่งแม่น้ำกาลี

ปลาแค้ยักษ์เป็นปลาที่อยู่ในสกุลบากาเรียส (Bagarius) ซึ่งในโลกใบนี้มีปลาในสกุลนี้อยู่ 5 ชนิด ทั้งหมดอาศัยอยู่แถวๆ เอเชียใต้และเอเชียตะวันออก ส่วนในประเทศไทยเคยคิดว่ามีอยู่ 3 ชนิด แต่ในปี 2021 พวกมันได้รับการศึกษาโดยละเอียด จนได้แยกประชากรที่พบในแม่น้ำสาละวินออกมาเป็นอีกชนิด ด้วยเหตุนี้ปลาแค้ที่มีขนาดถึง 2 เมตรในประเทศไทยจึงมี 2 ชนิด และเมื่อรวมทั้งหมด ประเทศไทยจึงมีปลาแค้อยู่ 4 ชนิด ...ต่อไปจะเป็นเรื่องราวของปลาแค้ยักษ์ และปลากินคนแห่งแม่น้ำกาลี ส่วนเรื่องของปลาแค้ยักษ์ที่พบในไทยทั้ง 2 ชนิดจะอยู่ช่วงท้ายนะครับ

ปลาแค้

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวปลากินคนแห่งแม่น้ำกาลี

Advertisements

เรื่องราวของปลากินคนในแม่น้ำกาลี (Kali River) ที่อยู่ในประเทศอินเดียและเนปาล เริ่มต้นขึ้นในช่วงปี 1998 – 2007 มันเป็นช่วงที่เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้นในบริเวณแม่น้ำแห่งนี้ เมื่อมีรายงานว่าชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำถูกสัตว์ลึกลับลากลงไปกินในน้ำ และการโจมตีที่น่ากลัวแบบนี้ก็เกิดขึ้นถึง 3 ครั้ง

ครั้งที่ 1 เกิดขึ้นในเดือนเมษายน ปี 1998 เป็นเด็กหนุ่มอายุ 17 ปี ที่กำลังว่ายน้ำเล่นในแม่น้ำใกล้กับหมู่บ้าน ทันใดนั้นเขาก็ถูกอะไรบางอย่างดึงลงไปในน้ำต่อหน้าแฟนสาวของเขาและเพื่อนๆ โดยคนที่อยู่ใกล้เด็กหนุ่มคนดังกล่าวก็พยายามช่วยแต่ก็ไม่ทัน หลังจากการค้นหาอยู่ 3 วัน กินพื้นที่ประมาณ 5 กิโลเมตร แต่ก็ไม่เจอแม้แต่ศพ

ครั้งที่ 2 เดือนกรกฏาคม ปี 1998 เป็น 3 เดือนหลังจากการโจมตีครั้งแรก มีเด็กชายผู้โชคร้ายอีกคนถูกบางอย่างดึงลงไปต่อหน้าต่อตาพ่อของเขา พ่อของเด็กชายพยายามดำลงไปช่วยแต่ก็ไม่พบร่าง มันเป็นอีกครั้งที่ไม่เจอศพของผู้ที่ถูกโจมตี

ครั้งที่ 3 เกิดขึ้นในช่วงปี 2007 เมื่อเด็กหนุ่มอายุ 18 ปี ซึ่งเป็นชาวเนปาล ได้ลงไปเดินเล่นในแม่น้ำที่ลึกแค่หัวเข่า เขาได้ถูกอะไรบางอย่างโจมตีและลากหายลงไปในแม่น้ำ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือจะเห็นอะไรบางอย่าง เขาเล่าว่ามันเหมือนกับหมูสีน้ำตาล และก็เหมือนกับสองครั้งแรก ที่ผู้ที่ถูกโจมตีนั้นหายสาบสูญ

หลังการโจมตีอันน่ากลัวนี้ ได้มีการสืบค้นว่าตัวอะไรอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งนักชีววิทยาชาวอังกฤษ เจเรมี เวด (Dr. Jeremy Wade) ได้เดินทางไปยังประเทศอินเดียถึงสองครั้ง ครั้งแรกในปี 2005 และอีกครั้งในปี 2009 โดยเป้าหมายของเขาคือการสืบค้นในบริเวณที่มีการหายตัวไปทั้งสามครั้ง และตัวเขาเองก็ได้ดำลงไปสำรวจที่ก้นแม่น้ำอีกด้วย และหลังจากการสำรวจอยู่นาน จึงทำให้เขาพอจะระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ 3 ชนิด

ผู้ต้องสงสัยรายแรกคือ “จระเข้”

มีความเป็นไปได้มากที่จะเป็นจระเข้ ซึ่งในอินเดียเป็นบ้านของจระเข้ 3 ชนิด และ 2 ใน 3 นั้นก็มีประวัติในการทำร้ายมนุษย์ แต่ปัญหาคือ จระเข้น้ำเค็มนั้นปกติจะไม่เข้ามาลึกในแผ่นดิน และบริเวณแม่น้ำกาลีที่เกิดเหตุนั้นก็อยู่ไกลจากทะเลมาก ที่สำคัญยังมีอากาศเย็นซึ่งไม่เหมาะกับจระเข้อีกด้วย ส่วนจระเข้อีกชนิดคือจระเข้อินเดีย ที่อาจจะมาถึงแถวนี้ได้ แต่ก็ไม่เคยมีรายงานการพบในเขตนี้มาก่อน ส่วนตะโขงนั้นถ้าไม่โดนรบกวนจริงๆ จะไม่โจมตีมนุษย์ และอาหารหลักของพวกมันก็คือปลา ซึ่งทำให้ตัดมันออกไปได้เลย

ผู้ต้องสงสัยรายที่สองคือ “ฉลามหัวบาตร”

ฉลามหัวบาตรถือเป็นผู้ต้องสงสัยรายสำคัญ เพราะฉลามหัวบาตรนั้นสามารถปรับตัวให้เข้ากับน้ำจืดได้ บางตัวสามารถปรับตัวให้อยู่ในน้ำจืด 100 % มีรายงานว่าฉลามหัวบาตรในแม่น้ำอเมซอน สามารถเข้าไปในแผ่นดินได้ลึกหลายร้อยกิโลเมตร นอกจากนี้มันยังเป็นฉลามที่มีรายงานทำร้ายคนมากที่สุด ทำให้มันเป็นผู้ต้องสงสัยตัวสำคัญ แต่ก็มีข้อแย้งว่าในการโจมตี 3 ครั้งนั้น ไม่มีใครเห็นครีบของฉลามโผล่มาเลย

ผู้ต้องสงสัยรายที่สามคือ “ปลาแค้ยักษ์”

Advertisements

ปลาแค้ยักษ์ ถือเป็นผู้ต้องสงสัยที่มีความเป็นไปได้มากสุด นั้นเพราะในขณะสำรวจเมื่อเวดดำน้ำลงไปที่ก้นแม่น้ำ เขาได้พบกับปลาแค้ยักษ์จำนวนมากอาศัยอยู่ที่ก้นแม่น้ำ ปลาแค้ยักษ์นี้พบได้ในเอเซียใต้และเอเซียตะวันออกรวมถึงในประเทศไทยด้วย ปลาพวกนี้มักจะอยู่ตามก้นแม่น้ำและมีขนาดยาวมากถึง 2 เมตร ซึ่งชาวบ้านได้เล่าว่า พวกมันอาจจะเคยได้กินซากศพของคนที่ทำพิธีในแม่น้ำ จนทำให้พวกมันติดใจเนื้อคน

จากปากคำของพยานเหยื่อรายที่สาม ที่บอกว่าเหมือนกับหมูสีน้ำตาล ปลาแค้ยักษ์ก็มีลักษณะตรงตามนั้น มันเป็นปลาที่มีสีน้ำตาล แต่ปลาพวกนี้ควรจะกินได้แค่เด็กตัวเล็กๆ มันเป็นไปได้ยากมากที่จะกินคนที่โตแล้ว ถ้าจะทำได้มันต้องเป็นปลาแค้ขนาด 3 เมตรขึ้นไป และอีกอย่างปลาพวกนี้เป็นปลาที่หากินตามท้องน้ำ มันไม่ค่อยขึ้นมาหาอาหารบนผิวน้ำ …จึงไม่สามารถฟันธงได้ว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นปลาแค้ยักษ์

และนอกจากผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 แล้ว ยังเคยมีอีกทฤษฏีคือวังน้ำวน ที่ดูดคนเหล่านั้นลงไป แต่ก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไร นั้นเพราะเหยื่อรายแรกนั้นจมน้ำต่อหน้าแฟนและเพื่อนๆ ซึ่งไม่มีใครเห็นน้ำวนเลย แถมรายที่ 3 ก็โดนลากจากน้ำตื้นแค่เข่าเท่านั้น จึงทำให้ทฤษฏีนี้โดนปัดตกไป

สุดท้ายก็ผ่านมาประมาณ 16 ปี นับจากการโจมตีครั้งสุดท้าย เป็นไปได้ว่าสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่เป็นต้นเหตุนี้อาจจะตายไปแล้ว หรือไม่ก็ย้ายที่ไปยังแหล่งอาหารใหม่ก็เป็นได้ …สรุปคือเรื่องราวปลากินคนแห่งแม่น้ำกาลี ยังคงเป็นปริศนาต่อไป

ปลาแค้ยักษ์ ที่พบในไทยคืออะไร?

ปลาแค้ยักษ์ หรือ ปลาแค้ควาย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า บากาเรียส ลิกา (Bagarius lica) เป็นปลาน้ำจืดที่อยู่ในวงศ์ปลาแค้ และเป็นหนึ่งในปลาแค้ 4 ชนิดที่พบได้ในประเทศไทย โดยปลาแค้ยักษ์เคยใช้ชื่อว่า บากาเรียส ยาเรลลี (Bagarius yarrelli) ซึ่งเป็นชื่อที่ถูกใช้กันอย่างกว้างขวางมานานแล้ว

แต่ในรายงานฉบับใหม่พบว่าชื่อ บากาเรียส ยาเรลลี (Bagarius yarrelli) มีชื่อพ้องกับปลาแค้ ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bagarius bagarius จึงทำให้ ปลาแค้ขนาดใหญ่ที่พบในประเทศไทย รวมถึงประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง แหลมมลายู เกาะสุมาตราและบอร์เนียว ทั้งหมดต้องมาใช้ชื่อ บากาเรียส ลิกา (Bagarius lica)

cr. Dr.Chaiwut Grudpan

ทั้งนี้ปลาแค้ยักษ์เป็นปลาที่ยาวได้ถึง 2 เมตร มีหัวที่ใหญ่และโหนกขึ้นสูงกว่าปลาแค้สาละวิน ซึ่งเป็นปลาแค้ที่มีขนาดใหญ่และมีความคล้ายกับปลาแค้ยักษ์มาก โดยปลาแค้ยักษ์จะมีก้านครีบอกยื่นออกมาแค่ถึงฐานครีบท้อง ในขณะที่ปลาแค้สาละวินจะยื่นไปจนเกือบถึงรูทวาร

ปลาแค้ยักษ์เป็นปลาขนาดใหญ่ ที่ชอบอยู่ในบริเวณแก่งน้ำที่ไหลแรงและมีหินขนาดใหญ่ มักจะดักรอกินปลาและสัตว์น้ำขนาดเล็ก ปัจจุบันปลาชนิดนี้มีจำนวนลดลงอย่างมาก เนื่องจากถิ่นที่อยู่ของพวกมันถูกรบกวน โดยเฉพาะการสร้างเขื่อนในแม่น้ำขนาดใหญ่ จนเป็นเหตุให้น้ำท่วมแก่งหิน และยังกีดขวางเส้นทางอพยพของปลา น้ำขึ้นลงก็ไม่เป็นไปตามฤดูกาล สุดท้ายก็ถูกจับกินและเป็นปลาที่นิยมตกเป็นเกมกีฬา ในขณะที่ปลาขนาดเล็กมักถูกจับส่งตลาดปลาสวยงาม

ในส่วนของปลาแค้สาละวิน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า บากาเรียส สาละวิน (Bagarius sp.Salween) จัดเป็นปลาแค้ขนาดใหญ่ที่ยาวได้ถึง 2 เมตร มีลักษณะคล้ายกับปลาแค้ (Bagarius bagarius) ที่พบในเอเชียใต้ โดยปลาแค้สาละวินจะมีส่วนหัวที่แบนราบและยาวกว่า

ปลาแค้ยักษ์ (Bagarius lica) จะมีก้านครีบอกที่ยื่นยาวไปจนเกือบถึงรูทวาร และมีจุดเริ่มต้นของครีบก้นอยู่หน้าครีบไขมันเล็กน้อย ปัจจุบันถือว่าพบได้ไม่ยากในแม่น้ำสาละวินและแม่น้ำสาขาอย่างเช่น แม่น้ำเงาและแม่น้ำเมย

สุดท้ายเรื่องของปลากินคนในแม่กาลี ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปจนถึงทุกวันนี้ จนถึงขนาด เจเรมี เวด มาเองก็ยังทำได้เพียงระบุตัวผู้ต้องสงสัย แต่ทั้งหมดก็ถือว่าเป็นไปได้ยากที่จะกินคนที่โตแล้วเข้าไปได้อย่างง่ายดาย ส่วนใครที่คิดว่าเป็นปลาหรือตัวอะไรแปลกๆ ที่อยู่ใต้น้ำ ก็ลองคอมเมนท์กันมานะครับ

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements