และยังมีปลากะพงขาวขนาด 20-30 ก.ก. ที่ชาวประมงดักด้วยตาข่ายลอยปลากระพงอยู่เสมอในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงปากเกร็ด-อยุธยา แม่น้ำบางประกงหรือที่ปากน้ำประแสร์ก็มีคนเคยได้อยู่เสมอ แต่หากสมัยนี้คงหาได้ยากมากแล้ว
ปลากะพงขาว ปลาเกมสำหรับนักตกปลาทุกประเภท
ปลากะพงขาวเป็นปลาล่าเหยื่อที่จัดเป็นเกมฟิชระดับแนวหน้าของกีฬาตกปลา ด้วยรูปร่างที่ปราดเปรียว รวมทั้งสัดส่วนที่เอื้ออำนวยต่อการพุ่งเข้าชาร์จเหยื่อ ทำให้ปลากะพงขาวจัดเป็นนักล่าตัวฉกาจ ปกติปลากะพงขาวจะอาศัยอยู่ในบริเวณกระแสน้ำไม่เชี่ยว ไม่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงๆ แต่มักจะไปเป็นคู่ๆ
ในเขตชายฝั่งจะพบตามสันดอนตามปากอ่าว ปีกรั๊ว ปีกโป๊ะ หรือตามกร่ำ นักตกปลากระพงขาวมักจะวางเบ็ดในบริเวณที่น้ำมีสีขาวนวลดู คล้ายผิวน้ำจืด ไม่ขุ่นไม่ใสและไม่เป็นละออง แระแสน้ำไหลเอื่อยๆ เพราะทำเลแบบนี้แหล่งรวมของสัตว์น้ำที่เป็นอาหารอันโอชะของมันผ่านไปมาเช่น กุ้ง ปลา กระบอกและลูกปลากุเรา นอกจากนี้ปลากะพงขาวยังชอบอยู่ในที่พื้นดินเป็นโคลนน้ำกร่อย ไม่ชอบอยู่ที่น้ำเค็มเกินไป หรือจืดสนิทก็ไม่ค่อยชอบเช่นกัน โดยมากอยู่ในระดับน้ำลึกประมาณ 2-8 เมตร
ปัจจุบันมีผู้นำปลากระพงขาวมาเพาะเลี้ยงในน้ำจืดเป็นจำนวนมาก จนพบแพร่หลายตามแม่น้ำ ลำคลอง บึงหรืออ่างเก็บน้ำบางแห่ง ปลากะพงขาวที่อาศัยอยู่ในเขตน้ำจืดสนิทชอบอยู่ตามเสา พืชใต้น้ำหรือตามขอนไม้เพื่อซ่อนตัวระวังภัย อำพรางมิให้เหยื่อรู้ตัว แน่นอนว่าในบ่อตกปลาหลายแห่งได้นำพันธุ์ปลากะพงขาวมาปล่อยไว้เพื่อให้นักตกปลาได้ตกกันเช่น
ปลากะพงขาวเป็นนักล่า ที่มีสัญชาตญาณในการระแวงภัยสูง เห็นอะไรผิดสังเกตุมันจะไม่ยอมแตะต้องเหยื่อ เพราะฉะนั้นการตกปลากะพงขาว นั้นจะต้องพิถีพิถันในการนำเสนอเหยื่อเพื่อให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ในยามปกติปลากะพงขาวมักจะแอบซุ่มออกบริเวณที่เป็นตอไม้โคนเสาหรือพงอ้อกอแขมเพื่อดักรอเหยื่อ
ในตอนกลางวัน ปลากะพงขาวจะอาศัยอยู่ในส่วนลึกหรืออยู่กลางน้ำ แต่พอความมือเข้ามาแทนที่มันก็จะวนเวียนออกล่อเหยื่อใกล้ตลิ่งมากขึ้น การฮุบเหยื่อของปลากะพงขาวเป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากรูปร่างของมันทำให้พุ่งตัดน้ำได้ดี ปากจะงับเข้ากลางตัวปลาเหยื่อเคราะห์ร้ายในขณะเดียวกันก็จะฮุปเพื่อกลืนเหยื่อเข้าปาก ส่งผ่านไปให้ซี่ฟันที่ซ่อนอยู่ในเหงือกช่วยย่อย ปลาเหยื่อที่ถูกกะพงขาวชาร์จนั้นจะมีเพียงรอยถลอกของเกล็ดหรือเนื้อตัวเป็นรอยจ้ำไม่มากนัก เนื่องจากฟันปลากะพงขาวนั้นเล็กและละเอียด ฟันที่สากละเอียดรอบปากจึงทำหน้าที่คอยจับยึดเหยื่อไม่ให้ดิ้นหลุดมากกว่าการบดเคี้ยว
เพดานปากด้านในประกอบขึ้นด้วยกระดูกแข็งยากที่คมเบ็ดจะเกี่ยวทะลุได้ แต่ขอบปากของกระพงขาวกลับเป็นพังผืดที่ยืดหยุ่นได้และเหนียวซึ่งตัวเบ็ดมักจะเกี่ยวโดนบริเวณนี้ และในกรณีที่ใช้ลีดเดอร์เป็นสายเอ็นโมโนฟิลาเม้นท์ขนาดเล็กๆ เช่นสายขนาด 15-20 ปอนด์
ปลาอาจจะกลืนเหยื่อเข้าลึกโดยไม่ระแวง ตัวเบ็ดอาจจะติดบริเวณเหงือกหรือลำคอด้านในการปากปลากะพงขาวยิ่งใช้ลีดเดอร์เล็กมากเท่าไร โอกาสที่ปลาจะติดเบ็ดก็มีมากเท่านั้น แต่นั่นก็จะหมายถึงว่าโอกาสที่สายลีดเดอร์จะถูกบาดขาดก็มีมากขึ้นเช่นกัน
การตกปลากะพงขาวด้วยเหยื่อเป็น
การตกปลากะพงขาวทำได้หลายวิธี เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอนู่กับว่าแหล่งน้ำที่เราจะไปตกและจากสาเหตุที่ปลากระพงขาวอาศัยอยู่ทั้งน้ำจืด น้ำกร่อยและบริเวณชายฝั่งทะเลซึ่งเป็นน้ำเค็ม จึงทำให้การตกปลากะพงของแต่ละแหล่งน้ำแตกต่างกันออกไป เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจกระผมจะขอแบ่งออกเป็นหัวข้อง่ายๆ ดังนี้
ปลากะพง บริเวณชายฝั่ง
กะพงขาวที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลในบ้านเรานั้นเท่าที่มีการตกกันได้จะอยู่ไม่ห่างฝั่งมากนัก บริเวณชายฝั่งทะเลที่มีป่าชายเลนขึ้นปกคลุม หรือบริเวณชายฝั่งที่มีซากโป๊ะหรือสิ่งปรับกหักพังอยู่ใต้น้ำมีข้อสังเกตุอยู่ประการหนึ่งชายฝั่งทะเลที่อยู่ใกล้กับปากแม่น้ำ ปลากะพงขาวจะชุกชุมเป็นพิเศษเนื่องจากในวงจรชีวิตของปลากระพงจะมีการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานไปมาระหว่างน้ำจืดกับน้ำเค็มเสมอ
แหล่งตกปลากะพงขาวบริเวณชายทะเลใกล้กรุงหน่อยก็ แหลมแท่นซึ่งอยู่ถัดจากหาดบางแสน จังหวัดชลบุรีในวันหยุด จะเห็นคนตกกระจำ หรือบริเวณเกาะลอย อำเภอศรีราชาปลากะพงขาวที่ตกได้จากบริเวณชายฝั่งจะมีขนาดตัวไม่โตมากนัก เหยื่อที่ใช้ได้ผลก็คือ กุ้งเป็น
การตกปลากะพงขาว จะต้องเตรียมถังใส่น้ำที่มีปั๊มลมเพื่อจะได้เก็บกุ้งไว้นานๆ ถ้าจะให้สะดวกล่ะก็ไห้แวะซื้อกุ้งเป็นจากนากุ้งในรละแวดนั้นก่อนไปตกปลา หรือถ้าใครมีแหปากเล็กๆ ก็ลองทอดหาลูกปลากระบอกเก็บไว้ตกกะพงขาว
ว่ากันว่านอกจากกุ้งเป็นแล้วเหยื่อปลากระบอกเป็นๆ ที่ว่ายดิ้นอยู่ในน้ำก็สามารถทำให้ปลากะพงขาวเห็นแล้วแทบคลั่งเหมือนกัน อุปกรณ์ที่ใช้ตกปลากะพงตามชายฝั่งควรให้สายขนาด 10-15 ปอนด์คันเบ็ดให้ยาวเข้าไว้เป็นดี เพราะบางครั้งเราต้องเหวี่ยงเหยื่อให้พ้นจากแนวหินแอ็คชั่นปาน-แข็ง คันขนาด 7-10 ฟุตกำลังเหมาะมือ
ถ้าบริเวณที่ตกเต็มไปด้วยกองหินหรือแนวปะการัง ให้ผูกตะกั่วแยกออกมาจากสายเอ็นเส้นหลักโดยใช้สายเอ็นที่มีขนาดเล็กกว่าผูกติดกับตะกั่ว เพื่อว่าจะได้ไม่เสียลูกหมุนและตัวเบ็ดเมื่อตะกั่วเกิดติดหิน การตกปลาตามชายฝั่งจะต้องเร็ว เมื่อปลาติดเบ็ดต้องรีบโยกคันเพื่อเก็บสายอย่างรวดเร็ว มิฉะนั้นปลาอาจจะพาสายไปพาดกับหินด้านล่าง ซึ่งจะเป็นสาเหตุทำให้สายขาดได้ง่าย ช่วงที่ตกปลากะพงขาวได้ดีที่สุดคือช่วงหัวน้ำขึ้น เพราะลูกปลาและสัตว์น้ำขนาดเล็กจะว่ายหาอาหารอยู่ริมฝั่งโดยมีกระพงขาวตามเข้ามาคอยดักเขมือบลูกปลาเล็กเหล่านี้อีกชั้นหนึ่ง
ปลากะพง บริเวณปากแม่น้ำ
การตกปลากะพงขาวในบริเวณปากแม่น้ำที่เชื่อมติดกับท้องทะเลนั้น บางครั้งก็กินแดนไปครอบคลุมบริเวณป่าโกงกางหรือบริเวรป่าชายเลน นอกจากจะเหวี่ยงเหยื่อจากริมฝั่งแล้ว การลอยเรือตกก็เป็นอีกวิธีหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมของบรรดาพานเบ็ดกระพงมืออาชีพ ปลากะพงขาวที่ตกได้จากบริเวณนี้ในอดีตเคยมีขนาดใหญ่ เท่าที่เคยตกกันได้ด้วยสายเบ็ด มีขนาดตัวละ 20-30 กก. นั้นเคยปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ
เดือนที่ตกปลากะพงขาวดี ตามปากน้ำในฝั่งอ่าวไทยได้แก่
เดือนเมษายน-ตุลาคม แต่จะชุกชุมในช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายน
ส่วนทางฝั่งมหาสมุทรอินเดียก็จะตรงกับเดือนมีนาคม-กรกฎาคม
ในช่วงเดือนดังกล่าวจะเป็นฤดูที่พ่อแม่ปลาที่สมบูรณ์เพศและมีขนาดใหญ่จะเคลื่อนย้ายจากแหล่งน้ำกร่อยไปรวมตัวกันบริเวณปากแม่น้ำที่มีระดับความเค็ม 28-32 ppt ปลากะพงขาวดังกล่าวจะรวมฝูงเป็นกลุ่มเล็กๆ 5-10 ตัว ในระดับความลึก 5-10 เมตร นักตกปลาคนไหนมีเทอร์โมมิเตอร์ก็อย่าลืมพกติดตัวไปด้วยแล้วลองวัดอุณหภูมิดู กะพงขาวจะรวมกลุ่มกันอยู่ที่อุณหภูมิประมาณ 27-29 องศาเซลเซียส โดยมีปลาตัวผู้เคลื่อนย้ายเข้ามาในแหล่งดังกล่าวก่อนตัวเมีย
เหยื่อที่ใช้ได้ผลยังคงเป็นกุ้งและลูกปลากระบอก บางครั้งปลาหมอเทศก็ใช้ได้ผล ในช่วงหัวน้ำขึ้นเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการตกปลากะพงขาว การตกปลาในตอนกลางคืนผมว่าจะดีกว่าตอนกลางวันก็ขอให้เป็นช่วงเช้ามืดหรือช่วงเย็นโพล้เพล้ ถ่วงตะกั่วและหย่อนเหยื่อข้ามแคมเรือลึกประมาณ 5-8 เมตร
การลอยเรือตกปลากระบงขาวนั้นเป็นเกมส์ที่ท้าทายนักตกปลาพอดูทีเดียว ผมว่ามันให้อรรถรสสนุกและเป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้น เนื่องจากปลาในบริเวณนั้นมักจะมีขนาดใหญ่ลีดเดอร์ที่ใช้ควรเป็นสายเอ็นโมโนฟิลาเม้นท์ขนาด 30-50 ปอนด์เทสท์ส่วนจะใช้สายเอ็นที่มีขนาดแรงดึงขวางใต้น้ำมากนัก ยกเว้นในบริเวณดังกล่าวมีซากโป๊ะหรือกร่ำค้างคาอยู่ แต่ถ้าจะให้สนุกสายเอ็นขนาด 8-12 ปอนด์กรอใส่รอกสัก 200-300 หลา
ลึกเข้ามาจากปากแม่น้ำสายใหญ่ซึ่งมักจะต่อเชื่อมด้วยลำคลองที่น้ำกร่อยท่วมถึงหรือบ้างก็เป็นแอ่งน้ำขังแซมด้วยป่าแสมป่าโกงกาง รวมทั้งแอ่งน้ำหรือวังน้ำในนาเกลือ บริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งตกปลากระพงขาวที่ดีเหมือนกัน
สภาพแวดล้อมใต้น้ำอันเกิดจากกิ่งก้านของไม้โกงกาง รากต้นลำพูกลายเป็นแหล่งอำพรางตัวและหลบซ่อนภัยของปลากระพงอย่างดี ปัจจุบันการเพาะเลี้ยงปลากะพงขาวในกระซังตามริมแม่น้ำซึ่งอยู่ในเขตน้ำกร่อยได้รับความนิยมมากในช่วงบางท้องที่จะเห็นกระชังปลากระพงขาวเรียงรายยาวเหยียดไปทั้งคุ้งน้ำ
นักตกปลากะพงขาวที่ดีจะต้องคอยสังเกตว่า บริเวณไหนที่มีการเลี้ยงปลากะพงขาวกันมากนัจะมีปลากระพงขาวให้ตกกัน เพราะระหว่างการขนย้ายปลาบางส่วน จะเล็ดลอดหรือตกหล่นในน้ำหรือบางครั้งกระชังที่ใช้เลี้ยง ปลากะพงเกิดรั่วหรือพังทำให้ปลากะพงหลบหนีออกไปได้ ยิ่งถ้ารู้ว่ากระชังปลากะพงขาวใครแตก ไปลอยเรือเบ็ดกะพงขาวแถวนั้นเถอะรับรองได้ตวัดเบ็ดกันเพลินแน่
ปลากะพง บริเวณน้ำจืด
นับรวมทั้งแม่น้ำลำคลองในช่วงที่ลึกเข้ามาในแผ่นดินจนสภาพน้ำแทบจะจืดสนิท ปลากระพงขาวที่เข้ามาอาศัยอยู่ในน้ำจืดมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ปลากะพงน้ำจืด อยู่รวมกับปลาน้ำจืดทั่วๆ ไป ลึกเข้าไปสนแม่น้ำเจ้าพระยาจากปากเกร็ดนนทบุรีไปจนถึงอยุธยา มีชาวประมงที่ยังยืดอาชีพลอยขายกระพงขาวอยู่ เคยมีคนจับกระพงขาวขนาด 10-20 กก. ได้ด้วย บางครั้งก็จับได้พร้อมกับปลาม้า ปลากะพงที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำจืด จะมีสีบริเวณลำตัวค่อนข้างขาว สันหลังมีสีเข้มเพียงเล็กน้อย
บางครั้งมองคล้ายปลาเผือกไป ในช่วงที่กระแสน้ำไหลเอื่อยๆ ไม่เชี่ยว เป็นช่วงที่ตกปลากะพงขาวได้ดี ส่วนเหยื่อที่ใช้นั้นก็เป็นลูกปลาสร้อยปลาตะเพียน ปลาบัว ฯลฯ แต่ โอกาสที่จะได้ตัวมีน้อยมากเพราะปัจจุบันในแม่น้ำแทบทุกสายจะเต็มไปด้วยตาข่ายหลายร้อยหลายพันผืนขึงดักโยงยางเต็มพรืดไปหมดก่อนจะเหวี่ยงเบ็ดลงเหยื่อต้องคอยสังเกตทุ่นโฟมสีขาวที่ใช้พยุงตาข่ายได้ดี มิฉะนั้นบรรดานักตกปลาอาจจะได้เย่อตาข่ายผืนใหญ่แทนการเย่อกับปลา
คราวนี้เราก็จะวกมาถึงการตกปลากะพงขาวที่อาศัยอยู่ตามบ่อหรือบึงกันบ้างเพราะปรากฏว่าในปัจจุบัน มีเจ้าของบ่อตกปลาหลายแห่งนำพันธุ์ปลากระพงขาวมาปล่อยในบ่อตกปลาเพื่อให้นักตกปลาได้เย่อกันเอาล่ะถ้าเราสืบทราบว่าบ่อนี้มีกระพงขาว เราจะตกมันได้อย่างไร ..?
ตกกะพง 2 วิธีหลักๆ ?
ถึงแม้จะมีวิธีการตกปลากะพงในแหล่งน้ำปิด จะมีมากมาย แต่จริงๆ แล้วจะสามารถแบ่งออกได้เพียง 2 วิธีเท่านั้น
1. ตกโดยใช้เหยื่อธรรมชาติเช่นลูกปลาหรือกุ้ง
2 คือใช้เหยื่อปลอม
การตกปลากะพงขาว ด้วยเหยื่อธรรมชาติ
อย่างที่รู้อยู่ว่ากระพงขาวเป็นปลาที่มีสัญชาตญาณระแวงภัยสูง เสียงดังหรือความพลุกพล่านในบ่อตกปลา จึงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะกับการตกปลากระพงขาวเท่าไร เมื่อเป็นเช่นนี้นักตกปลาจะต้องเลือกเวลาในช่วงเช้า แต่ตอนเย็นยามอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าแสงจะค่อยๆ ซีดหายไป จะเป็นเวลาที่ตกกะพงขาวได้ดีเช่นกั้น
แน่นอนว่าจุดดีๆ ก็ต้องเป็นบริเวณที่มีเสาไม้ใต้น้ำหรือใกล้มุมเสาเรือน หรือถ้าบ่อตกปลาแห่งใดเปิดตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงเวลากลางคืนก็เป็นช่วงที่ตกปลากะพงได้ดี เพราะทั่วทั้งบ่อจะเต็มไปด้วยความสงบเงียบ ฝูงปลาเล็กน้อยจะมาอออยู่ริมตลิ่ง การตกปลากะพงขาวก็ทำได้โดยเหวี่ยงเหยื่อใกล้ตลิ่งห่างฝั่งไม่เกิน 5-10 เมตร
ในบ่อที่มีระดับความลึกแตกต่างกันมาก ตั้งแต่ 2-5 เมตร หรือกว่านั้นจะทำให้การตกปลากะพงขาวออกรสชาติมากขึ้น เพราะเทคนิคในการตกปลากระพงใตตอนเหยื่ออยู่ได้นานไม่จำเป็นต้องเช็คเหยื่ออยู่ได้แค่ 20-30 นาทีก็จะตายหมด
นักตกปลาก็จะต้องเปลี่ยนวิธีตกโดยการใช้ทุ่นลอยคอยพยุงเหยื่อให้ลอยตัวสูงขึ้น หรือเหวี่ยงเหยื่อไปยังบริเวณที่มีระดับน้ำตื้นกว่าเพื่อให้ปลาเหยื่อได้รับออกซิเจนมากขึ้น ในจุดที่เป็นมุมอับพื้นน้ำนิ่งมีฟองฟอดลอยเกลื่อนไปหมด แสดงว่าสภาพน้ำไม่ค่อยดีและออกซิเจนในน้ำจะมีน้อย จะว่าไปแล้วบางครั้งผมเองก็เอาตัวเองเข้าวัดสิ่งเหล่านี้เหมือนกันคือถ้าอากาศดี ลมพัดเอื่อยๆ เย็นสบายหายใจโล่งจมูก
วันนั้นจะเป็นวันที่ปลา กินเบ็ดดีเป็นพิเศษ เหยื่อที่ใช้ตกปลากะพงขาวตามบ่อตกปลานั้นมีอยู่หลายชนิดด้วยกันต้องหมั่นสังเกตว่ารอบๆ ขอบบ่อจะมีลูกปลาอะไรอาศัยอยู่เช่นถ้าพบแต่ปลานิบก็ให้ใช้ลูกปลานิลนั้นแหละเกี่ยวตก โอกาสที่ปลาจะฉวยเหยื่อนั้นมีสูง แต่ก็มีบางครั้งหมือนกันที่ผมใช้ลูกปลาคาร์ฟสีแสดแสบตาตกซึ่งก็ได้ผลไม่แพ้กัน ลูกปลาตเพียนก็ใช้เป็นเหยื่อได้ดีเพราะลำตัวเป็นสีเงินสะท้อนแสงในน้ำเห็นได้ชัด แต่ก็มีข้อเสียอยู่นิดหนึ่งตรงที่ว่าลูกปลานิลซึ่งแข็งแรงกว่าอยู่ได้นานกว่า เหยื่อที่ใช้ตกกระพงขาวนอกจากลูกปลาและกุ้งแล้ว เนื้อปลาที่เพิ่งจะแล่สดๆ ก็ได้ผลเหมือนกัน แต่สู้อย่างแรกไม่ได้
การตกปลากะพงขาว ด้วยเหยื่อปลอม
เหยื่อหลายชนิดที่ใช้ตกปลากะพงขาวได้ผลเช่น สปินเนอร์ สปูน จิ๊ก และปลั๊ก เหยื่อปลั๊ก หรือเหยื่อปลาปลอมเป็นเหยื่อปลอมประเภท ดูจะเหมาะที่สุด และ ยี่ห้อดูจะเป็นที่นิยมคงเป็น ราพาล่า หรือจะเลือกของญีปุ่น ของไทยทำ ก็แล้วแต่ชอบ
ในการตกปลากะพงขาวการใช้สายช็อคเป็นลวดโลหะ เป็นสิ่งที่เกินความจำเป็น ใช้สายเอ็นหรือฟูลโร ขนาด 20-30 ปอนด์ หรือหากปลาตัวใหญ่ก็ใช้ใหญ่ขึ้น ผูกติดกับเหยื่อจะให้แอ็กชั่นที่ดีกว่า แต่ถ้าใครกลัวว่าชะโดจะมาฉวยเหยื่อแทนกระพงขาวจะใช้ช็อคลวดก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด ในการใช้งานเหยื่อ การสร้างแอคชั่น สามารถดูจากลิงค์
พื้นฐานการสู้ปลา
กะพงขาวเมื่อติดเบ็ดนั้นจะชอบกระโดขึ้นสู้เหนือน้ำ เพื่อสะบัดสิ่งแปลกปลอมออกจากปาก การสู้ปลาที่ดีในช่วงนี้คือตั้งคันให้สูงและรักษาความตึงของสายให้ตลอด โดยใช้แอ็คชั้นของคันเบ็ดช่วย ลีลาการสู้เบ็ดของกระพงขาวนั้นจะดุเดือดพอสมควร
แต่ก็มีบางสำนักบอกให้สู้โดยการกดปลายคันต่ำไว้ ต่ำแทบลงไปในน้ำเลย ด้วยเหตุผลที่ว่าลดโอกาสที่ปลากะพงจะกระโดดขึ้น ..แต่ผมใช้วิธีตั้งคันสู้ เพราะถึงแม้ปลากระโดดอาจไม่ใช่เรื่องดี เพราะทำให้หลุดได้ แต่มันก็ทำให้ปลาหมดแรงเร็วเช่นกัน ปกติมันโดดได้ 2 – 4 ครั้งเท่านั้น เท่าที่ผมตกปลามา โดด 3 ครั้งก็ถือว่าเป็นปลาที่อึดมากล่ะ
นับตั้งแต่การกระโดดสะบัดและดิ้นตูมตามหรือมุดหัวกระชากสายหนีลูกเดียว เรียกว่ามีครบทุกรส เพราะฉะนั้นคนตกจะต้องเตรียมตัวรับสถานการณ์ดังกล่าว พยายามใช้คันเบ็ดบังคับปลาให้ได้ พอได้จังหวะก็ให้รีบดึงปลาขั้นผิวน้ำให้ได้ ถ้าส่วนหัวของปลาพ้นน้ำเมื่อไรก็มีโอกาสได้ตัวสูงละ
รอกควรตั้งน้ำหนักเบรกเอาไว้เต็มพิกัด เท่าที่สายจะรับไหว อย่าเซ็ทแดรกอ่อนจนเป็นสายหวาน จะทำให้ปลากระพงขาวกระชากสายพาหนีไปพันกับสิ่งกีดขวางใต้น้ำได้ เมื่อดึงปลาเข้ามาในระยะใกล้ตัวถ้าไม่มีสวิงให้ใช้มือซ้ายจับคันเบ็ด
แล้วดึงปลาให้เข้าใกล้ตัวโดยที่ปลาลอยอยู่เรี่ยๆ ผิวน้ำ ใช้นิ้วโป้งมือจับริมปากล่างของปลาจะกัดหรือฟันปลาจะบาดมือเอา บีบนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ให้แน่นพร้อมกับยกปลาขึ้นจากน้ำ ปลาจะสะบัดนิดหน่อย ถ้าจับให้แน่นด้วยปลาจะไม่หลุด วิธีนี้ผมเคยใช้กับปลากระพงนับตัวไม่ถ้วน ปลาขนาด 6-7 กก. ก็สามารถใช้มือเดียวจับยกขึ้นมาได้พอมาในระยะหลังถึงจะมีสวิงแต่ผมก็มักจะไม่ค่อยได้ใช้ เราะการจับปลากะพงขาวโดยวิธีนี้กลับเป็นส่วนประกอบอย่างหนึ่งที่สำคัญของการจับปลากะพง
คลิปวิธีใช้เหยื่อเจิร์กเบทกับบ่อปลา พร้อมรีวิวเจ้านิลน้อย
อ่านเรื่อง >> ปลากะพง และวิธีเลี้ยง