เบาบับ ‘ต้นไม้กลับหัว’ ต้นไม้ขั้นเทพในแอฟริกา

เบาบับ (Adansonia digitata) เป็นหนึ่งในต้นไม้ที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก ในพื้นที่มันมักถูกเรียกว่า "upside-down" หรือต้นไม้กลับหัว เนื่องจากลำต้นมีลักษณะคล้ายรากแก้วและกิ่งก้านคล้ายกับรากฝอย และมันจะไม่มีใบอยู่เลยนานถึง 8 เดือน ความมหัศจรรย์ของต้นเบาบับอีกอย่างคือ สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในพื้นที่กันดารแห้งแล้ง เนื่องจากมีบริเวณกลางลำต้นขนาดใหญ่ที่ใช้เก็บกักน้ำไว้กับตัวได้อย่างมหาศาล

Advertisements

เบาบับ (baobab) หรือ Adansonia digitata เป็นไม้ยืนต้นที่โคนบวมพองออก มองคล้ายขวดแชมเปญ ใช้สะสมน้ำ กิ่งก้านสาขาบิดเบี้ยวไปมา ทรงคล้ายราก ชาวแอฟริกาเชื่อว่าต้นไม้ชนิดนี้ถูกพระเจ้าสาปแช่ง จึงต้องเอารากชี้ฟ้า และทำให้เป็นที่รู้จักในอีกชื่อว่า “ต้นไม้กลับหัว”

มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของแอฟริกา ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีปลูกในเกาะชวาและฟิลิปปินส์ บาวบาบเป็นพืชสมุนไพรในแอฟริกา ผลมีแคลเซียมมากกว่าผักโขม มีสารต้านอนุมูลอิสระ และมีวิตามินซีมากกว่าส้ม

Advertisements

เป็นต้นไม้ที่มีอัตราการเจริญเติบโตโดยน้ำใต้ดิน หรือปริมาณน้ำฝน ส่วนอายุสูงสุดของมันไม่เป็นที่แน่ชัด แต่คาดว่าจะมีอยู่ราว 1500 ปี แม้ต้นไม้ชนิดนี้จะดูน่ากลัวหรือมีตำนานความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ แต่สำหรับคนในพื้นที่มันคือ “ต้นไม้สารพัดประโยชน์” เนื่องจากเป็นแหล่งอาหาร น้ำ ยา หรือที่พักพิง

เบาบับมักจะเติบโตแบบโดดเดี่ยว แต่ก็ใหญ่โตและโดดเด่น โดยเฉพาะในทุ่งหญ้าสะวันนาหรือป่าละเมา เบาบับเป็นต้นไม้ผลัดใบ ใบไม้จะร่วงในฤดูแล้ง และไม่มีใบเป็นเวลานานถึงแปดเดือน

ความต้องการผลเบาบับ?

เนื่องจากเบาบับเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ มีวิตามินอี และมีสารประกอบจากพืชบางชนิดที่ออกฤทธิ์ต้านการติดเชื้อ และต้านอนุมูลอิสระ “มันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ โปรตีน และยังมีสารประกอบที่ช่วยบำบัดการเจ็บป่วย ซึ่งเมื่อเอามารวมกันแล้วก็ทำให้กลายซูเปอร์ฟรุตที่น่าทึ่งมาก”

โดยความต้องการผลเบาบับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดย ซาราห์ เวนเตอร์ (Sarah Venter) นักนิเวศวิทยา ซึ่งเปิดบริษัทอีโคโปรดักส์ (Ecoproducts) ที่สนับสนุนให้ผู้หญิงแอฟริกาใต้มีรายได้จากการดูแลต้นเบาบับ หรือที่รู้จักกันว่า “ผู้พิทักษ์ต้นเบาบับ”

Advertisements

พวกเขาเผยข้อมูลว่า ความต้องการผงเบาบับซึ่งได้จากเม็ดเบาบับนั้นเพิ่มมากขึ้นทุกปี มานับตั้งแต่ปี 2003 โดยมีตลาดใหญ่อยู่ที่ยุโรป สหรัฐฯ และแคนาดา

ผงแห้งๆ ในกะลาเม็ดเบาบับเป็นที่ต้องการสูง และถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่เติมกลิ่นในเครื่องดื่มอัดลม ไอศครีม ช๊อกโกแลต ไปจนถึงเหล้าจีน และเครื่องสำอาง

ความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้ จะส่งผลดีลงไปถึงผู้พิทักษ์ต้นเบาบับ ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทนในการดูแลต้นไม้มหัศจรรย์นี้ตามความสูงของต้นไม้ที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับค่าตอบแทนเซ็นติเมตรละกว่า 600 บาท และพวกเธอจะได้รับค่าตอบแทนไปเรื่อยๆ จนกว่าต้นเบาบับจะสูงถึง 3 เมตร ซึ่งหลังจากนั้นต้นไม้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกอย่างน้อย 1,000 ปี

Advertisements

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements