6 สภาพอากาศ กับการหากินของปลา และช่วงเวลาตกชะโด

การหากินของปลา จะมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับสภาพอากาศ ซึ่งก็มีทฤษฎีมากมายให้ทดลอง ให้ศึกษา และผมเองได้ไปอ่านเรื่อง เรื่องของสภาพอากาศกับการหากินของปลา ที่เขียนโดยน้าป่า โดยได้เขียนไว้ใน siamfishing ซึ่งพอผมอ่านแล้วถือว่าน่าสนใจลองอ่านกันดู

การจะดูสภาพอากาศว่าปลาจะออกหากินแบบไหน ในสภาพอากาศอย่างไรนั้น ตามตำรา วิทยาศาสตร์นั้น ความกดอากาศหรือน้ำหนักของอากาศเราจะใช้ บารอมิเตอร์ นั้นมีหน่วยวัดเป็น มิลลิเมตรปรอท แต่เราออกตกปลาแต่ละครั้งคงไม่มีใครลงทุนพก บารอมิเตอร์ หรอกนะ แต่นักตกปลาใช้การแหงนหน้าดูเมฆบนท้องฟ้า สำหรับลักษณะเมฆที่ผมจะบอกต่อไปนี้ผมขอใช้ตัวเลขแทนละกัน จะแบ่งสภาพอากาศออกเป็น 6 แบบ

สภาพอากาศแบบที่ 1

Advertisements

สภาพอากาศแบบนี้ความกดอากาศจะสูงหรือสูงมาก นั่นหมายความว่า ท้องฟ้าจะไม่มีเมฆเลย เรามองไปบนท้องฟ้า จะเห็นแต่ แสงแดด และท้องฟ้าแค่นั้นแหละ ปลาในสภาพอากาศแบบนี้จะหากินอยู่ตามหน้าดิน หรือหลบซ่อนอยู่ร่มเงาต่างๆ ความกระตือรือร้นในการล่าเหยื่อก็จะต่ำ ส่วนการใช้เหยื่อปลา ก็ควรใช้เหยื่อปลอมที่ตัวเล็กๆ เคลื่อนไหวช้าๆ เล็งไปตามร่มเงา หรือ ในระดับน้ำลึกไปเลย

สภาพอากาศแบบที่ 2

ความกดอากาศแบบที่2 ก็จะสูงแต่สูงรองลงมาจากแบบที่ 1 คือเมื่อเราแหงนหน้ามองท้องฟ้า ก็จะเห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้าเหมือนเดิมนะแหละ แต่จะเริ่มมีเมฆบางๆ ปลาในลักษณะอากาศแบบนี้ก็จะหลบๆซ่อนๆ อยู่ตามร่มเง่า ไม่ก็ในที่น้ำลึกเหมือนกับแบบที่ 1 แต่ คราวนี้ปลาจะตื่นตัวในการหาอาหารมากขึ้น ยอมที่จะมางับเหยื่อที่ลากห่างจากที่หลบซ่อนมากขึ้น เหยื่อที่แนะนำให้ใช้ก็เช่น เหยื่อที่เป็นพวกโลหะ แวววาว เช่น สปินเนอร์เบท สปูน แต่การลากเหยื่อยังคงลากในความเร็วต่ำอยู่นะ

สภาพอากาศแบบที่ 3

ลักษณะนี้ เมื่อท่านนักตกปลาแหงนหน้าไปมองเมฆ เมฆจะเยอะ แต่ไม่ถึงกับครึ้ม แสงแดดยังคงส่องลงมาอย่างปกติ ซึ่งจะเหมือนแบบ 2 แบบแรก คือ สภาวะปกติ การออกหากินของปลาก็จะเป็นปกติไมมีอะไรพิเศษ ส่วนการใช้เหยื่อก็แล้วแต่โชค สรุปก็คือสภาพอากาศแบบนี้ จะไม่มีผลใดๆกับการหากินของปลา

สภาพอากาศแบบที่ 4

Advertisements

สภาพอากาศลักษณะนี้ บนท้องฟ้าก็จะเต็มไปด้วย เมฆเกาะตัวเป็นก้อนใหญ่ๆ แสงอาทิตย์ถูกบดบังบ้างเป็นช่วงๆ จากก้อนเมฆที่ลอยไปลอยมา พฤตติกรรมของปลาในสภาพอากาศลักษณะนี้ก็จะ เริ่มมีความก้าวร้าวหรือกระตือรือร้นมากขึ้น จะขยับตัวมาในระดับน้ำตื้นๆ บริเวณที่เป็นร่มเงาก็จะ ดุดันมากขึ้น เหยื่อที่แนะนำให้ใช้ เป็นเหยื่อทำงานในระดับความลึกกลางจนถึงเหยื่อผิวน้ำ สีสันต้องคัดแบบแสบตานิดนึง ความเร็วลากเหยื่อก็ต้องไว เพราะปลาล่าเหยื่อจะตื่นตัวมากขึ้นนั่นเอง

สภาพอากาศแบบที 5

จะเป็นแบบครึ้มฟ้าครึ้มฝน เมฆจะลอบตัวมาบังแสงอาทิตย์ พฤตติกรรมก็จะออกแนวก้าวร้าวขึ้นมา มากกว่าแบบที่ 4 จะเริ่มเข้าบริเวณน้ำตื้นมากขึ้น ออกห่างจากบริเวณที่เป็นร่มเง่าอย่างสิ้นเชิง เหยื่อที่ใช้ก็สีสันสะดุดตา ความเร็วในการลากเหยื่อก็มากขึ้นเพื่อนเป็นการยั่วยุปลาให้พุ่งเข้ามางับเหยื่อด้วยความโกรธมากกว่ากัดเป็นอาหาร

ครึ้มฟ้าครึ้มฝน

 

สภาพอากาศแบบที่ 6

สภาพแบบนี้ไม่ต้องมองอะไรหรอก เพราะฝนจะเริ่มลงแล้ว หลบเถอะหลบเข้าร่มก่อน ปลาก็เหมือนกัน ปลาก็จะกลับมาอยู่ในระดับน้ำลึก การล่าเหยื่อก็จะเป็นแบบที่ 1 เลย พอฝนหยุดตก สภาพอากาศก็จะกลับมาเป็นแบบที่ 5 ซึ่งดีที่สุดสำหรับการตกปลา

สำหรับบทความนี้ กระผมก็ไม่ได้มาอวดเก่งอะไรหรอกนะ แค่มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน สำหรับผู้ที่รู้หรือรับทราบมาก่อนแล้วคงไม่ว่าอะไรนะครับ บทความฉบับนี้กระผมได้อ่านจาก นิตยสารหนังสือตกปลา เย่อกับปลา ไม่แน่ใครอ่านบทความนี้ใช้อาจจะทำให้ท่านเป็นเซียนตกปลาไปโดยปริยายเลยก็ได้นะใครจะไปรู้

 

เพิ่มเติมโดยน้าอู๊ดปากลำฯ การตกชะโด (siamfishing)

Advertisements

เวลาผมออกตีชะโด อันนี้ขอเน้นที่ชะโดนะครับไม่พูดถึงปลา ช่อน กระสูบ สิ่งแรกเลยที่ผมตัดสินใจว่าจะเกิดทริป

1. ฤดูฝน ฤดูฝนบ่งบอกถึงว่าจะเข้าใกล้ฤดูวางไข่ ชะโดจะเริ่ม จับคู่ กัดรัง สะสมอาหาร เฝ้ารังดูแลไข่ และเป็นครอก

2. น้ำเต็มอ่างหรือเขื่อนหรือยัง หน้าแล้งปลาจะเหมือนหายตัวไปเลย พอน้ำเริ่มขึ้น ทุกอย่างจะเริ่มดำเนินตามกฎแห่งธรรมชาติ น้ำขึ้น หญ้าก็รก ที่ทำรังและที่หลับภัยก็มากขึ้นด้วย

3. ถ้าเป็นไปได้ ข้างขึ้น ข้างแรม อันนี้ผมก็เข้าใจว่ามีผลสูง ผมจะเลือกออกทริปช่วงคืนเดือนมืด เดือนมืดมักจะประสบความสำเร็จมากกว่าสำหรับผม

4. สภาพอากาศของแต่ละวัน วันที่ผมว่าตกปลาดีที่สุดคือ วันที่ฝนโปรยโรยอ่อนทั้งวัน และหลังฝนตกหนักๆแล้วฟ้าครึ้มไม่มีแดด และวันที่แดดอ่อนๆตามลำดับ

5. ช่วงเวลาในแต่ละวัน ช่วงที่ผมมักจะได้ปลาง่ายที่สุด ดีที่สุด คือเช้ามืด แสงแรกของดวงอาทิตย์ เป็นช่วงที่ปลาพึ่งออกจากรังนอน ความระมัดระวังตัวยังต่ำ เปรียบเป็นคนก็คือกำลังงัวเงีย หิว เจออะไรกินหมด กินแบบไม่เลือกเท่าไร กับช่วงก่อนตะวันตกดินกำลังจะหมดแสง
5.1 ผมแบ่งเวลาตีชะโดผมเป็นแบบนี้ แสงแรกตะวันเริ่มขึ้นขอบฟ้า-อย่างมาก11โมง หลังจากนั้นผมขี้เกียจ ไม่ตกแล้ว เข้าร่มเลย ยกเว้นตามครอกติดพันอยู่ ช่วงที่สองคือ 3-4โมงเย็นจนถึงฟ้ามืด ทำไมถึงว่า3-4โมงเย็นอันนี้ผมดูที่ข้อ 4 ว่าจะออกตกช้าหรือเร็ว

6. สีของเหยื่อ อันนี้ก็หลายแนวทางการใช้ ของแต่ละคนไป โปรฝรั่งบางคนบอกว่าฟ้าสดใสใช้สีสดๆ ฟ้ามืดใช้สีมืดๆตาม เรื่องสีนี่ไม่มีอะไรตายตัว ผมยังว่าความลึกของเหยื่อนั้นก็สำคัญไม่แพ้สี มีอยู่บ่อยคนั้งไปที่ผมเจอ คือซื้อเหยื่อมาเยอะๆ เหมามาเพราะถูก เลยเอาสีที่ไม่ชอบแบ่งให้ไต๋ ไต๋ดันบอกกินโคตรดีพี่ 555 ซวยไป

– เอาส่วนตัวผมเองก่อน ผมจะแบ่งสีเหยื่อที่ศรัทธาเป็นสองโทน 1 สีเสมือนจริง 2 สีฉูดฉาดไปเลย เริ่มตกก็จะเริ่มโทนไหนก่อนก็แล้วแต่ชอบ ถ้ารู้สึกว่ามันกินช้า มันไม่กินก็เปลี่ยนโทนสี
– ความลึกของเหยื่อก็มีผลมากเวลาตามปลาครอก ทำไม่ถึงว่ามีผม เพราะเราตามครอกเราก็รู้อยู่แล้วว่าปลามันควรอยู่ตรงจุดไหน ตีไปเปลี่ยนสีก็แล้วทำไมมันไม่กิน ทีนี้เราก็มาไล่ที่ความลึก-ห่าง พ่อ แม่มันบางทีตกใจอยู่ห่างลูกมาก-น้อยต่างกัน บางตัวอยู่ห่างแบบไกล บางตัวอยู่ห่างแบบลึก ยกตัวอย่างเคสนึงรุมตีครอกกัน 2 ลำ 4 คัน คนนึงใช้ดำลึกมาก คนนึงดำกลางน้ำ คนนึงผิวน้ำ ปลาเข้ากัดผิวน้ำหลายทีมากแต่ไม่ติด คนที่สีเลยเปลี่ยนใช้ดำตื้น สองสามไม้เท่านั้น ปลากัดเต็มฉะนั้นเหยื่อควรเตรียมไว้หลายแบบ

1 ผิวน้ำ
2 ดำ 1 เมตร
3 ดำ 2-3 เมตร
4 ดำ 3-5 เมตร
5 ดำ 6-9 เมตร
6 เหยื่อยางหรือสปินเนอร์เบท ที่จมเร็วและช้า นั่นคือหนักตั้งแต่ 1/2OZ-1OZ หรือกว่านั้น

หลักๆ ก็มีเท่านี้นอกนั้นก็ปลีกย่อยเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ และ ความชอบส่วนตัว และมีส่วนสำคัญมากๆ อีกเรื่อง  คือความละมุนละม่อมในการเข้าหมาย ต้องเงียบไม่ให้ปลาตกใจ และไม่แรกที่ตีใส่หมายๆ นึงสำคัญ กะตีไปในมุมที่คิดว่าเด็ดที่สุดก่อน อย่าตีติดหญ้า หรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะถ้าติดปุ๊บ ถึงแม้จะมีปลาอยู่ตรงนั้นแต่โอกาสของเราก็จะหมดไปทันที นั่นคือ เข้าหลักที่น้าหลายท่านว่าไว้ ตีไว ตีไกล ตีแม่น ได้เปรียบ การตกปลาไม่มีอะไรตายตัว อย่าไปเครียด แค่สนุกกับงานอดิเรกของเราพอ

อ่านเรื่อง 25 ทริก สำหรับ 100 ทริป ตอน สายเบ็ดตกปลา

Advertisements
แหล่งที่มาTaptawan ป่า