1. มิชชันนารีคริสเตียน บุกรุกเกาะและถูกสังหารในปี 2018
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2018 นาย John Allen Chau มิชชันนารีชาวอเมริกัน ได้เดินทางไปที่เกาะเซนทิเนล และถึงแม้เกาะแห่งนี้จะเป็นเขตต้องห้าม แต่ Chau ก็เข้าไปจนได้ จากนั้นไม่นานเขาก็ถูกฆ่าด้วยธนู เหตุการณ์นี้มีชาวประมง 6 คน ที่อยู่รอบๆ เกาะอ้างว่าเห็นชนเผ่าเซนติเนล ลากศพไปฝังไว้บนชายหาด
แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีภารกิจอะไรที่จะนำศพคืนมา เนื่องจากการขึ้นเกาะโดยไม่ให้เกิดการปะทะมันเป็นเรื่องยากมาก และชนเผ่าเซนติเนล ก็ไม่มีภูมิต้านทานโรคสมัยใหม่เหมือนกับคนบนแผ่นดินใหญ่ มันเสี่ยงเกินไปหากพวกเขาติดโรคและตาย เพราะพวกเขาเหลือไม่ถึง 200 คนด้วยซ้ำ ..”ศพของ Chau จึงถูกทิ้งไว้ที่เกาะ”
2. ในศตวรรษที่ 19 นักสำรวจชาวอังกฤษ เคยลักพาตัวชนเผ่าเซนติเนล
ในเดือนมกราคม 1880 นักสำรวจชาวอังกฤษ ได้นำเรือเข้าจอดที่เกาะเซนทิเนลเหนือ พวกเขาต้องการสำรวจพื้นที่เกาะ และคิดจะลักพาตัวคนบนเกาะอีกด้วย อย่างไรก็ตามพวกเขาพบเพียงหมู่บ้านร้างเท่านั้น แต่หลังจากค้นหาอยู่หลายวัน พวกเขาก็ได้พบกับชนเผ่าเซนติเนล 6 คน ด้วยเหตุนี้จึงลักพาตัวคนทั้งหมดขึ้นมาบนเรือ และพาไปเมืองพอร์ตแบลร์
หลังจากนั้นไม่นานชนเผ่าเซนติเนลที่ดูสูงวัย 2 คนก็เสียชีวิต เด็กอีก 4 คนรอดชีวิต สุดท้ายพวกอังกฤษก็ตัดสินใจคืนคนที่เหลือกลับเกาะ และผู้นำการสำรวจที่ชื่อ มอริซวิดัล พอร์ตแมน ก็ตัดสินใจว่าการสำรวจเกาะแห่งนี้ไม่เหมาะสม จึงไม่มีการขึ้นไปสำรวจเกาะเซนทิเนลเหนืออีกต่อไป
3. การเยี่ยมชมเกาะเซนทิเนลเหนือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
นักสำรวจจำนวนหนึ่งพยายามติดต่อกับชนเผ่าเซนติเนล อย่างไรก็ตามความพยายามส่วนใหญ่จบลงด้วยหายนะ ยกตัวอย่างเช่นในช่วงปี 1980 ชนเผ่าเซนติเนลหลายคนเสียชีวิตระหว่างการสู้รบเล็กๆ กับผู้บุกรุกที่เรืออับปางและหลงขึ้นมาบนเกาะ
เพื่อระงับอันตรายเหล่านี้ ในปี 1997 ประเทศอินเดียได้สั่งห้ามการเข้าชมเกาะทุกกรณี และรัฐบาลบังคับใช้รัศมี 3 ไมล์รอบเกาะเป็นเขตต้องห้าม เพื่อไม่ให้มีการเข้าใกล้เกาะเซนทิเนลเหนือตลอดเวลา
4. พวกเขาเป็นศัตรูกับภารกิจช่วยเหลือฉุกเฉินหลังเหตุการณ์สึนามิ ปี 2004
ในปี 2004 หลังเกิดแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย จนทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่และสังหารผู้คนในพื้นที่ชายฝั่งในหลายประเทศ หลายคนกังวลว่าชนเผ่าเซนติเนล จะตายจากเหตุการณ์นี้ เพราะคลื่นสูงหลายเมตรได้สร้างความเสียหายให้กับแนวปะการังและป่าที่อยู่บนเกาะก็ถูกทำลายลง
หลังจากนั้นไม่นาน รัฐบาลได้ส่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจเหนือพื้นที่เกาะ เพื่อประเมินความเสียหายของเกาะ แต่ชนเผ่าเซนติเนลได้ระดมยิงธนูใส่วัตถุบินได้ จึงเห็นได้ชัดว่าชาวเกาะยังมีชีวิตรอด …เจ้าหน้าที่จึงยกเลิกภารกิจช่วยเหลือ
5. พวกเขาอยู่มานานหลายหมื่นปี
ชนเผ่าเซนติเนล อาศัยอยู่ในสถานที่ห่างไกลที่สุดแห่งหนึ่งในโลก บ้านของพวกเขา “เกาะเซนทิเนลเหนือ” เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอินเดียในอ่าวเบงกอล หมู่เกาะเหล่านี้หลายเกาะมีความสวยงาม แต่คนพื้นเมืองเรียกเกาะนี้ว่าบ้าน …นักมนุษยวิทยาเชื่อว่า ชนเผ่าเซนติเนลอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ มานานกว่า 60,000 ปี โดยพวกเขาแทบจะไม่มีการติดต่อโลกภายนอกเลย ..พวกเขาแทบไม่เปลี่ยนแปลงไปจากตอนนั้น
6. ภาษาของพวกเขาลึกลับ
ชนเผ่าเซนติเนล มีภาษาเป็นของตัวเอง มันเป็นภาษาที่มีความเป็นส่วนตัวมาก แม้แต่ชาวพื้นเมืองจากเกาะใกล้เคียงก็ยังไม่คุ้นเคยกับภาษาของชนเผ่าที่โดดเดี่ยวนี้ …Dharmendra Kumar หัวหน้าตำรวจอันดามันผู้หนึ่ง ตั้งข้อสังเกตว่า มันเป็นเรื่องยากที่จะสื่อสารกับเพื่อนบ้าน เขากล่าวว่า “มีอุปสรรคด้านภาษามาก เพราะไม่มีใครรู้หรือพูดภาษาเซนทิเนล”
7. พวกเขาอาจมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอมาก
ชนเผ่าเซนติเนล จะอยู่ได้ไม่นานหากพวกเขามีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลภายนอก ดูเหมือนพวกเขาจะไม่มีภูมิคุ้มกันเชื้อโรค แม้แต่โรคเล็กๆ น้อยๆ อย่างโรคที่ไม่เป็นอันตรายสำหรับคนนอกอย่างไข่หวัด ก็อาจเป็นอันตรายถึงขนาดทำให้พวกเขาสูญพันธุ์ได้ แม้จะเป็นเพียงแต่การจับมือกันก็ตาม
ก็อย่างที่เห็นชนเผ่าเซนติเนล แม้จะดุร้าย แต่หากไม่ได้รับการปกป้องการอินเดีย พวกเขาเองก็มีโอกาสรอดจากการสูญพันธุ์น้อย แม้แต่ตอนนี้ก็เหมือนการนับเวลาถอยหลัง เพราะชนเผ่าเซนติเนลมีจำนวนแค่หลักสิบคนหรืออย่างมากก็ 300 คนเท่านั้นเอง