B-25 ชนตึกเอ็มไพร์สเตท
เรื่องราวเกิดขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม 1945 เบ็ตตี้ ลู โอลิเวอร์ (Betty Lou Oliver) หญิงที่น่าสงสารคนนี้ทำงานเป็นพนักงานดูแลลิฟต์ มันเป็นวันทำงานธรรมดาของหญิงสาวอายุ 20 ปี
เป็นช่วงเดือนสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 และเครื่องบินทิ้งระเบิด B-25 ได้เริ่มปฏิบัติภารกิจพื้นฐานซึ่งเกี่ยวข้องกับการนำทหารจากแมสซาชูเซตส์ไปยังสนามบินลาการ์เดียในนิวยอร์กซิตี้
ดูเหมือนว่าสมิธจะสับสนทิศทางเพราะหมอก แทนที่เขาจะเลี้ยวซ้ายหลังจากอาคารไครสเลอร์อย่างที่ควรเป็น สมิธกลับเลี้ยวขวา มันทำให้เขาอยู่ท่ามกลางตึกระฟ้าของเมือง ในขณะที่ตึกเอ็มไพร์สเตท (Empire State Building) ซึ่งในตอนนั้นเป็นตึกสูงที่สุดในโลก “สมิธ บินชนระหว่าง ชั้น 78 – 80 มันทำให้สมิธและลูกเรืออีก 2 คน กับประชาชน 11 คนที่อยู่ในอาคารเสียชีวิต”
เบ็ตตี้หญิงที่โกงความตาย
ขณะที่กัปตันสมิธ นำเครื่องบินเข้าไปชนตึกเอ็มไพร์สเตท เบ็ตตี้ ได้ทำงานอยู่ชั้น 80 ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลลิฟท์ อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้เธอต้องตกลงมาจากชั้น 80 มันทำเกิดแผลไฟไหม้รุนแรง กระดูกเชิงกราน-หลังและคอหักอีกด้วย
เธอได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เห็นได้ชัดว่าเธอยังรอดชีวิตเมื่อเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลช่วยเธอ จากนั้นพวกเขาก็วางเธอบนลิฟต์เพื่อจะส่งไปที่ชั้นล่าง … แน่นอนว่าเธอคิดว่าเธอรอดแล้ว และนี่คือการโกงความตายครั้งแรกของเธอ
เจ้าหน้าวางเบ็ตตี้บนเปลและพาเธอเข้าไปในลิฟต์ชั้น 79 เป็นเรื่องน่าเสียดายที่พวกเขาไม่รู้ว่าสายเคเบิลที่ยึดลิฟต์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการชนของเครื่องบิน ..ทันทีที่พวกเขาวางเบ็ตตี้ลง สายเคเบิลก็ขาด จากนั้นร่างของเบ็ตตี้ก็พุ่งลงไปที่ด้านล่างของปล่องลิฟต์ เธอคิดว่าต้องตายอย่างแน่นอน เพราะลิฟต์พุ่งไปที่พื้นอย่างรวดเร็ว
อีกในไม่กี่วินาทีเธอก็จะตาย เธอไม่มีโอกาสบรรลุเป้าหมายในชีวิตและยังไม่มีสามีด้วยซ้ำ แต่เป็นเรื่องเหลือเชื่อ เบ็ตตี้รอดจากเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นการโกงความตายครั้งใหญ่ มันเป็นครั้งที่สองของวัน ดูเหมือนเธอได้ใช้โชคทั้งหมดที่เธอมีแล้ว “ลิฟต์ตกลงไปทั้งหมด 75 ชั้น ซึ่งมีความสูงประมาณ 1,000 ฟุต ในความเป็นจริงเบ็ตตี้ไม่น่าจะรอด”
“จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พวกเขาพบสายเคเบิลที่ยาวมากกว่าพันฟุตที่หักและขาด พวกมันมากองรวมกันอยู่ที่พื้นด้านล่าง มันทำตัวเหมือนเบาะอากาศ และช่วยให้ลิฟต์ตกกระแทกพื้นเบาลง .. แต่ความจริงก็ไม่น่าจะรอดอยู่ดี”
หลังผ่านเรื่องนี้ไป เบ็ตตี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอใช้เวลาแปดเดือนในการฟื้นฟูร่างกาย และมีชีวิตอยู่ต่ออีก 54 ปี เธอมีลูกสามคน หลานอีกเจ็ดคน เบ็ตตี้เสียชีวิตในฟอร์ต สมิธ รัฐแอริโซนา เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 1999 เธออายุ 74 ปี
