เหตุการณ์ฉลาม ‘จู่โจมมนุษย์’ ครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์

เรื่องนี้อยู่ในช่วงเดียวกับ "โศกนาฏกรรมจากจระเข้ครั้งใหญ่ที่สุดของโลก" แต่ครั้งนี้ผู้เสียหายคืออเมริกา เป็นเหตุการณ์ฉลามจู่โจมมนุษย์ และมันเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เลยด้วยซ้ำ มันเกิดขึ้นกับเรือยูเอสเอส อินเดียนาโปลิส ที่กำลังมีภารกิจลับสุดยอด เรื่องราวจะเป็นยังไง ผมจะเอามาให้ดูได้อ่านกัน

ฉลามจู่โจมมนุษย์

เรือยูเอสเอส อินเดียแนโพลิส (USS Indianapolis “CA-35”) คือ เรือลาดตระเวนหนักชั้นพอร์ตแลนด์ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่เมืองอินเดียแนโพลิส รัฐอินดีแอนา ใช้งานวันแรกเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1931

“การจมของเรือลำนี้ นำไปสู่การสูญเสียชีวิตในคราวเดียว ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กองทัพเรือสหรัฐ”

“ภารกิจลับสุดยอด”

Advertisements

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 หลังจากเดินทางอย่างเงียบๆ เพื่อส่งระเบิดปรมาณูลูกแรก ไปยังฐานทัพอากาศสหรัฐ ทีเนียน (Tinian) คาดว่าจะเป็นระเบิดที่ชื่อลิตเติลบอย (Little Boy) ที่เอาไปทิ้งที่เมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 6 สิงหาคม 1945

ในระหว่างเดินเรือกลับฐานทัพเรือที่ฟิลิปปินส์ เรือยูเอสเอส อินเดียแนโพลิส ถูกโจมตีด้วยตอร์ปิโดของเรือดำน้ำจักรวรรดิญี่ปุ่น I-58 ส่งผลให้เรือจมลงอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 12 นาที

ลูกเรือ 1,196 คน จมไปพร้อมกับเรือ 300 คน เหลือประมาณ 900 คน ที่สามารถรอดออกจากเรือได้ แต่เพราะเรือจมลงเร็วเกินไป ทำให้ไม่สามารถเตรียมเรืออพยพได้ทัน ลูกเรือแต่ละคนต้องใช้เสือชูชีพลอยคอกลางทะเล เกาะแขนลอยเป็นแพมนุษย์

และเนื่องจากเป็นภารกิจลับสุดยอด การค้นหาจึงช้ามาก ถึงขั้นอาจได้รับคำสั่ง “จะไม่มีคำสั่งสละเรือ จะไม่มีการขอกำลังสนับสนุน จะไม่มีร้องขอการกู้ภัยทางทะเลใดๆ”

ทหารที่รอดชีวิตต้องเจอกับเรื่องราวที่น่ากลัว นอกจากพวกเขาจะต้องต่อสู้กับ สภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิต่ำเกินไป การขาดน้ำ ขาดอาหาร หรือถูกพิษจากน้ำเค็ม แต่สิ่งที่สั่นประสาทพวกเขาคือฝูง “ฉลาม” ที่เข้ามาจู่โจมอย่างดุเดือด

มันฆ่าลูกเรือที่ละคนสองคน โดยที่ลูกเรือแต่ละคน ไม่สามารถช่วยตนเองได้เลย ฉลามมองเห็นพวกเขาเป็นเหยื่อที่ล่าง่ายกว่าลูกแมวน้ำซะอีก

จนถึงวันที่ 3 เครื่องลาดตระเวนของสหรัฐฯ พบแพมนุษย์ของทหารที่รอดชีวิตจากเรืออินเดียนาโปลิสจำนวนมาก กำลังลอยอยู่กลางทะเล ท่ามกลางฝูงฉลามนับร้อยๆ ตัว!

นักบินจึงรีบวิทยุขอให้กู้ภัยทางทะเลเป็นการด่วน แต่ทว่าพิกัดของลูกเรือที่ลอยคอนั้น อยู่ห่างจากชายฝั่งมากเกิน ทำให้หน่วยกู้ภัยทางทะเลต้องใช้เวลาอีก 1 คืน กว่าจะมาถึงตำแหน่งของลูกเรือ

จนถึงวันที่ 4 หน่วยภัยได้มาช่วยลูกเรือที่ลอยคออยู่ แล้วพบว่า มีผู้รอดชีวิต เพียง 317 คน จาก 1,196 คน ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากหลายสาเหตุ เช่นการถูกโจมตีโดยฉลามฝูงใหญ่, จมน้ำ, ขาดน้ำ, และภาวะอุณหภูมิต่ำเกินไป นอกจากนี้ยังมีอาการทางจิตตามมาเช่น ภาพหลอน พูดจาไม่รู้เรื่องและฝันถึงเหตุการณ์ร้ายในวันนั้นด้วย

Advertisements

“เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์กองทัพเรือสหรัฐฯ ว่าเป็นการสูญเสียลูกเรือไปมากที่สุดในสงครามจากเรือเพียงลำเดียว ซากเรือถูกพบอยู่ก้นทะเลฟิลิปปินส์ในปี 2001”

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements
แหล่งที่มาsmithsonianmag.com