“ฉันทำงานด้านประวัติศาสตร์มาหลายปี แต่ฉันไม่เคยเข้าไปยังโรงแรมที่มีเรื่องราวน่าขนลุกเกิดขึ้นมากมายที่นี่” Hadley Meares เจ้าของช่องเรื่องเล่า Underbelly LA สำหรับฉันแล้ว ที่นี่มันคือที่ๆ ถูกสาป
โรงแรมเซซิลเป็นที่ๆ รวบรวมเรื่องราวน่าขนลุกเอาไว้มากมาย รวมถึงคดีที่โด่งดังของ Elisa Lam นักท่องเที่ยววัยรุ่นชาวแคนดาที่มาพักก่อนจะหายตัวอย่างปริศนาและพบเป็นศพในถังน้ำของโรงแรม
จากความฝันอันสวยงามและหรูหรา กลายเป็นฝันร้ายจากนรก
จุดเริ่มต้นของโรงแรมเซซิลต่างจากปัจจุบันมาก ถูกสร้างขึ้นในปี 1924 มันคือเพชรแห่งย่านดาวน์ทาวน์ของเมือง ตบแต่งด้วยพื้นหินอ่อนที่ล็อบบี้ รูปปั้นและกระจกแก้วอันสวยงาม สิ่งนี้คือความสวยงามอันหรูหรา แต่หลังจากนั้นมันกำลังจะกลายเป็นฝันร้าย
หลังจากเปิดตัวได้ไม่กี่ปี ก็เกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในช่วงยุค 30 จนทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป หลังจากตลาดหุ้นล่มในปี 1929 มันได้กระทบเขตดาวน์ทาวน์ของ LA อย่างรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณที่โรงแรมเซซิลตั้งอยู่ และหลังสงครามโลกครั้งที่สองจบลง แถวนั้นยิ่งแย่ลงไปอีก จากโรงแรมหรูหราระดับ 4 ดาว เซซิลได้กลายเป็นโรงแรมราคาถูกสำหรับคนไร้บ้าน อาชญากร และคนสูงอายุ
จากช่วงปี 1940 ถึง 1960 การฆ่าตัวตายกลายเป็นเรื่องปกติของที่มี มีคนที่ตายในห้องพักจากหลายๆ สาเหตุ ทั้งจากยาพิษ ยิงตัวตาย หรือกรีดข้อมือ และยังไม่นับคนที่กระโดดจากหน้าต่างหรือดาดฟ้าอีก เคยมีคนเดินถนนเล่าว่า มีผู้หญิงที่โยนลูกที่เพิ่งเกิดออกจากหน้าต่างก่อนจะฆ่าตัวตายตามเด็กไป
ในปี 1946 Goldie Osgood หรือฉายา “หญิงผู้ดูแลนกพิราบแห่งจตุรัสเพอร์ชิ่ง” ได้ถูกฆาตกรรมอย่างทารุณและคดีของเธอก็ยังไม่ถูกปิดจนทุกวันนี้ อดีตโอเปอร์เรเตอร์ได้ฉายานี้มาจากการที่เธอมักให้อาหารนกพิราบแถวนี้เป็นประจำ
ที่นอนประจำของฆาตกรต่อเนื่อง
ความมืดมนยังคงอยู่ที่นี่ ริชาร์ด รามิเรซ (Richard Ramirez) ฆาตกรต่อเนื่องได้อาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้หนึ่งอาทิตย์ มันเป็นระหว่างการฆาตกรรมของเขาในช่วงยุค 80 เขาได้ฉายาว่า “นักล่ายามค่ำคืน” Ramirez ได้ถูกตั้งข้อหาว่าฆ่าคน 13 คน นี่ยังไม่นับคนที่ถูกทำร้ายร่างกายอย่างทารุณอีก
Ramirez มักจะอยู่ปะปนกับผู้อาศัยในเขต Skid Row จากข้อมูลที่ได้มา หลังจากเขาฆ่าเหยื่อเขามักจะทิ้งเสื้อผ้าเปื้อนเลือดในถังขยะของโรงแรม ซึ่งในตอนนั้นไม่มีใครสนใจในเรื่องนี้เลย
นิสัยของ Ramirez นั้นบ้างครั้งเขาถึงขนาดไปนั่งเล่นในบ้านของเหยื่อ นั้งกินขนมและยังขโมยเงินกับของมีค่าแม้แต่อวัยวะของเหยื่อด้วย
“แค่คิดว่าหมอนั้นกลับมาที่ห้องพักที่โรงแรม พร้อมลูกตาและกระดูกของเหยื่อ นั้นทำให้ขนลุกมากๆ” ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่เขาทำจริงๆ หลังจากฆ่า Maxine Levenia หญิงอายุ 44 ปี โดยการยิงและแทงจนตายในปี 1985 ..สุดท้ายแล้ว Ramirez ก็ถูกจับได้ เขาถูกตัดสินให้ประหารชีวิต แต่แล้วเขากลับตายเพราะมะเร็งในปี 1989
ฆาตกรต่อเนื่องคนใหม่
หลังจาก Ramirez ตาย ก็ได้มีฆาตกรต่อเนื่องคนใหม่ แจ็ค อันเตอร์เวเกอร์ (Jack Unterweger) มาเข้าพักที่นี่ สาเหตุที่เขาเลือกที่นี้เป็นไปได้ว่า ต้องการตามรอย Ramirez และโรงแรมก็เหมาะกับการซ่อนตัว
สุดท้ายแล้ว Jack ถูกจับกุมได้และถูกตัดสินโทษจำคุก 23 ปี แต่จริงๆ แล้วติดแค่ 15 ปี เพราะความฉลาดของเขาและประพฤติดีในคุก แต่ทว่าหลังจากได้รับการปล่อยตัวแล้วเขาได้ออกนอกประเทศและเริ่มฆาตกรรมอีกครั้ง โดยเขาได้ฆาตกรรมโสเภณีอย่างน้อย 3 คน เขาถูกจับกุมที่ออสเตรียและถูกตัดสินโทษที่นั้น แต่ทว่าเขาได้ฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอในห้องขัง
“ในปี 2013 โรงแรมเซซิลได้กลายเป็นสถานที่ๆ รวมเรื่องราวน่ากลัวและสยดสยองซึ่งยากจะลืมเลือนได้ และมันไม่จบง่ายๆ”
คดีปริศนาของ Elisa Lam ที่โด่งดัง
Elisa Lam นักศึกษาอายุ 21 ปีจาก แวนคูเวอร์ แคนดา ถูกรายงานว่าหายตัวไปในเดือนกุมภาพันธุ์ ปี 2013 เธอได้อาศัยอยู่ในโรงแรมเซซิล ในส่วนที่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (โรงแรมนี้มีส่วนที่เป็นห้องส่วนตัวของแขกปกติและแบบ Low Cost ที่ห้องหนึ่งแบ่งหลายคนและใช้ห้องน้ำร่วมกัน)
ในช่วงกลางเดือน ผู้เข้าพักได้รายงานว่าน้ำไหลอ่อนและมีกลิ่นแปลกๆ เหมือนมีเมือกออกมา ช่างได้ขึ้นไปตรวจสอบถังน้ำของตึกและพบกับร่างของ Elisa ในนั้น วีดิโอจากกล้องวงจรปิดในลิฟท์ได้ถ่ายติด Elisa ซึ่งคาดว่าเป็นภาพสุดท้ายของเธอตอนที่ยังมีชีวิต
ปัจจุบันนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าศพของ Elisa ไปอยู่ในถังน้ำได้อย่างไร เพราะประตูดาดฟ้านั้นถูกล็อค และไม่มีใครตอบได้ว่าฝาถังน้ำที่หนักแบบนั้นถูกปิดเองได้อย่างไร
“การที่โทรศัพท์ของเธอนั้นหายไป หรือตำรวจไม่เคยแถลงข่าวหรือรายงานว่าเจอมันเลย มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะฉันคิดว่าโทรศัพท์นั้นน่าจะบอกอะไรเราได้”
สุดท้ายคดีของ Elisa Lam นั้นถูกจัดให้เป็นอุบัติเหตุจากการจมน้ำ แต่ก็ยังไม่สามารถตอบข้อสงสัยของพฤติกรรมแปลกๆ ของเธออได้
คลิปสุดท้ายของ Elisa Lam
จากเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นที่นี้ทำให้มีหลายคนสงสัยว่า ที่นี้ “โรงแรมเซซิล” ถูกสาป หรือไม่ก็มีสิ่งเหนือธรรมชาติสิงสู่ เพราะจากประวัติศาสตร์ที่มีคนตายมากมายในที่แห่งนี้ ทำให้สงสัยว่าอาจจะมีสิ่งที่ไม่ใช่คนอยู่ในโรงแรมนี้ก็เป็นได้
โรงแรมเซซิลยังมีรายงานเรื่องเหนือธรรมชาติที่นั้น ทั้งการได้ยินเสียงแปลกๆ รอยเลือดที่พอกลับมาดูก็หายไปเอง ทำให้มีนักล่าผีจำนวนมากมาพิสูจน์ที่นี้ และโรงแรมนี้ยังได้เป็นแรงบันดาลใจให้ซีรีย์ American Horror Story ซีซั่น 5 อีกด้วย
ปัจจุบัน เซซิลได้ปิดไปแล้ว แต่ได้มีแผนที่จะรีโนเวทและเปิดใหม่อีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม ปี 2021 โดยแบ่งเป็นห้องโรงแรมและห้องเช่าสำหรับอาศัยระยะยาว การปรับปรุงใหม่ยกชุดครั้งนี้อาจจะช่วยลบรอยเลือดและเรื่องราวน่าสยดสยองในที่แห่งนี้ก็เป็นได้ แต่อาจจะมีบางอย่างที่ยังรอคอยเหยื่อเคราะห์ร้ายอีกก็เป็นได้
