เหตุที่มันถูกเรียกว่า “แม่ที่เลวร้ายที่สุดของธรรมชาติ” เป็นเพราะมันจะไม่เลี้ยงลูก แต่เลือกที่จะวางไข่ในรังของนกอีกสายพันธุ์อื่น เพื่อให้เจ้าบ้านดูแลการฟักไข่ การให้อาหารและการเลี้ยงจนเติบโต ..โดยนกกาเหว่าตัวเมียจะสามารถเลียนแบบไข่ของเจ้าบ้านได้ นกกาเหว่า สามารถเลียนแบบจนแยกไม่ออก แม้แต่มนุษย์ก็ตาม (ดังคลิปท้ายเรื่อง)
และจากบทความหนึ่งของต่างประเทศได้เขียนเอาไว้ว่า.. “นกกาเหว่าตัวผู้สามารถผสมพันธุ์กับนกเพศเมียหลายตัวที่วางไข่ด้วยสีที่ต่างกัน โดยยีนของตัวผู้จะไม่มีผลกระทบต่อสีของไข่ที่ผลิตขึ้นมา มันเป็นกุญแจสำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่มีสีที่แตกต่างจากไข่ของเจ้าบ้าน ลดความเสี่ยงที่จะถูกปฏิเสธไข่โดยเจ้าบ้านเช่นกัน”
แต่มันไม่ใช่เพียงแค่แม่นกกาเหว่าเท่านั้นที่ร้าย ความจริงลูกนกกาเหว่าก็มีความสามารถในการแย่งชิงตั้งแต่เกิด ความจริงมันถูกเรียกว่า “ปรสิต” ลูกนกจะเกิดก่อนลูกของเจ้าบ้าน แข็งแรงก่อน และมันจะเริ่มทำลายไข่ของเจ้าบ้านจนกว่าจะเหลือแต่มัน …สุดท้ายแม่นกต้องเลี้ยงลูกนกกาเหว่าเท่านั้น
นกกาเหว่าสลับไข่ได้อย่างไร?
เมื่อนกกาเหว่าตัวเมียเลือกรังแล้ว มันจะใช้เวลาในการเฝ้ามองอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้แน่ใจว่าจะสลับไข่ได้สำเร็จ มันเป็นเรื่องของเวลาด้วย หากสลับไข่ผิดเวลา มันจะเสี่ยงที่ไข่ของเจ้าบ้านจะฟักก่อน และมันจะส่งผลต่อขั้นตอนที่ลูกนกกาเหว่ายึดรัง
นกกาเหว่าจะวางไข่ในตอนบ่ายหรือตอนหัวค่ำ ซึ่งต่างจากนกส่วนใหญ่ นกเจ้าบ้านจะวางไข่ในตอนเช้าและจะอยู่ใกล้รังหลังจากวางไข่ในช่วงระยะหนึ่ง เมื่อนกเจ้าบ้านออกไปจะทำให้นกกาเหว่ามีโอกาสแลกเปลี่ยนอย่างลับๆ
“หากนกกาเหว่าตัวอื่นมาถึงรังนี้ก่อน ดูเหมือนว่านกกาเหว่าอีกตัวจะแยกแยะระหว่างไข่ของเจ้าบ้าน กับไข่ของนกกาเหว่าตัวอื่นไม่ได้ และหากเป็นเช่นนี้ มันอาจลงเอยด้วยไข่นกกาเหว่าหลายตัวในรัง
ในแต่ละปี นกกาเหว่าสามารถวางไข่ได้ถึง 50 ฟองในรังต่างๆ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดจะฟักออกมาสำเร็จ ในขณะที่นกเจ้าบ้านมีวิวัฒนาการมาเพื่อวางไข่ที่มีลวดลายที่ยากจะปลอมแปลง พวกมันก็มีวิวัฒนาการวางไข่ปลอมเช่นกัน
วิธีพิเศษที่ทำให้ไข่นกกาเหว่าฟักก่อน
ไข่นกกาเหว่าต้องฟักตัวเป็นเวลา 11-13 วัน ซึ่งสัมพันธ์กับระยะฟักตัวไข่ของเจ้าบ้าน แต่เพื่อให้แน่ใจว่าไข่ของมันจะฟักออกมาก่อน นกกาเหว่าจะมีกลยุทธ์อื่นเพิ่มเติมนั้นคือ
นกส่วนใหญ่ วางไข่ 24 ชั่วโมงหลังการตกไข่ นั้นก็คือหลังจากที่ไข่ได้รับการปฏิสนธิ ไข่จะเดินทางผ่านท่อนำไข่ซึ่งจะมีการเติมไข่ขาวและเปลือกเพื่อสร้างไข่ และเมื่อถึงเวลาวางไข่ ตัวอ่อนที่มองด้วยกล้องจุลทรรศน์จะมีเซลล์ประมาณ 10,000 เซลล์
อย่างไรก็ตาม นกกาเหว่าจะเก็บไข่ไว้และฟักไข่ภายในตัว นานกว่าปกติถึง 24 ชั่วโมงก่อนจะวางไข่ อุณหภูมิร่างกายของนกกาเหว่าอยู่ที่ประมาณ 40°C ในขณะที่ไข่นอกร่างกายจะถูกฟักที่อุณหภูมิประมาณ 36°C อุณหภูมิที่สูงกว่านี้หมายความว่าเมื่อนกกาเหว่าวางไข่ มันจะมีค่าเท่ากับการเริ่มต้นของพี่น้องบุญธรรม 31 ชั่วโมง .. นั้นคือไข่นกกาเหว่าจะฟักก่อนแน่นอนอย่างน้อย 1 วัน
แนวคิดเรื่องการฟักไข่ภายในได้รับการหยิบยกขึ้นมาโดยนักสะสมไข่ในศตวรรษที่ 18 และ 19 ซึ่งต้องแปลกใจที่เห็นการพัฒนาของตัวอ่อนขั้นสูงของนกกาเหว่าเมื่อเป่าไข่ แต่ถูกปฏิเสธโดยชุมชนวิทยาศาสตร์เป็นเวลาเกือบ 200 ปี จนกระทั่งพวกเขาสามารถทดลองและได้รับการยืนยัน
“คลิปด้านล่างนี้ เป็นขั้นตอนของนกกาเหว่า ตั้งแต่มันเฝ้ามองเจ้าบ้าน ลูกนกเกิด และจัดการกับคู่แข่งในรังจนหมด และสุดท้ายแม่นกเจ้าบ้านยังต้องเลี้ยงลูกนกกาเหว่าจนโต แม้ว่าขนาดตัว รูปร่างและสีจะต่างกันอย่างชัดเจน”