ความเป็นมาของภาพ
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 1990 นักปีนเขาสองคนในเมืองคาลไวน์ สกอตแลนด์ มองขึ้นไปท้องบนฟ้า พวกเขามองเห็นวัตถุบินได้รูปเพชรขนาดใหญ่ พวกเขารีบถ่ายภาพยูเอฟโอเอาไว้ทั้งหมดหกภาพอย่างรวดเร็ว แต่ภาพถ่ายเหล่านั้นไม่เคยถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ
ตามที่เดอะมิเรอร์รายงาน นักปีนเขาได้มอบภาพเนกาทีฟให้กับหนังสือพิมพ์ Daily Record ของสกอตแลนด์ จากนั้นจึงส่งพวกภาพไปที่กระทรวงกลาโหมของอังกฤษ
เมื่อถึงจุดนั้นภาพก็หายไป! เดวิด คลาร์ก (David Clarke) นักข่าวชาวอังกฤษ กล่าวว่า “ภาพไม่เคยปรากฏให้เห็นอีกเลย ตั้งแต่มาถึงกระทรวงกลาโหม แต่กระทรวงกลาโหมบอกว่า พวกเขาส่งคืนไปที่ Daily Record แต่ Daily Record บอกว่าพวกเขาไม่เคยได้รับและพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น?”
การตามหาภาพนับสิบปี
อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณความมุ่งมั่นของคลาร์ก ภาพถ่ายหนึ่งในคาลไวน์จึงถูกค้นพบอีกครั้งหลังจากหายไปเมื่อ 32 ปีก่อน .. ตามรายงานของ Newsweek คลาร์กตามหาภาพคาลไวน์มานานถึง 13 ปี
จนกระทั่งในที่สุดเขาก็พบว่าลินด์เซย์ (Craig Lindsay) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองกองทัพอากาศยังคงมีสำเนาอยู่ ..ปรากฏว่าลินด์เซย์เก็บภาพต้นฉบับไว้ และมันยังอยู่ในซองบันทึกประจำวัน “หวังว่าวันหนึ่งจะมีคนมาหา”
หลังจากที่ลินด์เซย์ได้รับภาพถ่ายจากบันทึกประจำวัน เขาก็ส่งไปยังกระทรวงกลาโหม ..คลาร์กก็เขียนว่า “จากนั้นกระทรวงกลาโหมในลอนดอนก็ขอให้เขาไปรับภาพเนกาทีฟ ดังนั้นเขาจึงกลับไปที่ Daily Record เพื่อขอให้ Daily Record ส่งภาพเนกาทีฟไปลอนดอน และนั่นก็เป็นเวลาที่ภาพหายไป” ..สุดท้ายลินด์เซย์ตกลงที่จะมอบภาพถ่ายให้กับคลาร์กและวินนี่ จาก UAP Media UK
นักปีนเขาสองคนคือใคร?
ในขณะที่การค้นพบและการกู้คืนภาพถ่าย ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำหรับการวิจัยยูเอฟโอ แต่ตัวตนของนักปีนเขาที่ถ่ายภาพนี้ รวมทั้งอีกห้าคนยังไม่ทราบข้อมูล
ตามบันทึกเหตุการณ์ที่นักปีนเขาสองคนให้มาในปี 1990 (บันทึกประจำวัน) ..ชายสองคนทำงานเป็นพ่อครัวในโรงแรมแห่งหนึ่งใน Pitlochry บริเวณที่ราบสูงสก็อตแลนด์ ในตอนเย็นของเดือนสิงหาคม พวกเขาตัดสินใจไปเดินเล่นบนเนินเขาใกล้เมืองคาลไวน์ แต่แล้วพวกเขาเห็นยูเอฟโอเคลื่อนตัวไปในอากาศอย่างเงียบๆ
มีเครื่องบินทหารผ่านยูเอฟโอไปด้วย ดูเหมือนจะชะลอตัวลงเพื่อมองใกล้ๆ ก่อนจึงจะบินออกไป “พวกเขาเห็นสิ่งนี้บนท้องฟ้าและทำให้พวกเขากลัว” คลาร์กกล่าว “พวกเขาวิ่งเข้าไปในป่าเพื่อหลบ และพวกเขาได้ยินเครื่องบินลำนั้นหายไปที่หุบเขา
จากนั้นสองนาทีต่อมาเครื่องบินก็กลับมาและเริ่มวนไปรอบๆ วัตถุที่ไม่รู้จัก ..แล้วพวกเขาก็ถ่ายรูป” ทว่าถึงแม้ภาพถ่ายจะมีความชัดเจนและได้รับความสนใจจากสื่อ แต่ชายเหล่านั้นไม่เคยออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะ