เครื่องบินที่พวกเขาต้องควบคุมนั้นเป็นเครื่องร่อนขนาดเล็กที่มี “ส่วนนำทาง” ในกรวยจมูก และสิ่งที่มันนำติดตัวไปก็คือหัวรบระเบิด แต่สิ่งนี้ต้องการความช่วยเหลือในการค้นหาเป้าหมาย เนื่องจากไม่มีผู้ควบคุมที่เป็นมนุษย์
หากทำตามโครงการนี้ การมีนักบินที่เป็นมนุษย์มันก็คงเหมือนกับนักบิน Shinpū Tokubetsu Kōgekitai หรือ “kamikaze” ของหน่วยจู่โจมพิเศษญี่ปุ่น ซึ่งลงมายังเป้าหมายพร้อมกับเครื่องบินและตายไปพร้อมกัน
แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการคือระเบิดโดยตรงที่สามารถทิ้ง และไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้โดยไม่ต้องเสี่ยงชีวิตพลเรือน ..สกินเนอร์ไม่ต้องการเสี่ยงชีวิตมนุษย์ เขามองไปที่นกพิราบตัวเล็กๆ เพื่อดูว่าจะสามารถควบคุมมันได้หรือไม่ แรงบันดาลใจเบื้องหลังความคิดของเขา เกิดขึ้นเมื่อเขาเห็นฝูงนกบินอยู่ข้างรถไฟที่เขานั่งอยู่
“ทันใดนั้น ฉันเห็นพวกมันเป็น ‘อุปกรณ์’ ที่มีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมและความคล่องแคล่วเป็นพิเศษ” History Net รายงาน สกินเนอร์กล่าว “พวกมันไม่สามารถนำทางขีปนาวุธได้หรือ? คำตอบของปัญหารอฉันอยู่ที่สวนหลังบ้านของฉันเองหรือเปล่า”
แนวคิดของ Project Pigeon นั้นเกิดขึ้นด้วยความสงสัย และเพื่อทำเรื่องนี้เขาได้รับเงินช่วยเหลือ 25,000 ดอลลาร์ จากคณะกรรมการวิจัยการป้องกันประเทศ จากนั้นเขาได้สร้างห้องนักบินของนักบินนกพิราบ ซึ่งมีฉากกั้นสามจุดที่ซ่อนอยู่ในกรวยจมูก
ด้วยการล่อด้วยเมล็ดพืชแสนอร่อย เขาใช้การปรับสภาพของนกอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อฝึกนกพิราบให้รู้จักเป้าหมายและจิกไปที่มัน แนวคิดก็คือถ้านักบินนกพิราบทั้งสามกำลังจิกไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือวิถีทางที่ขีปนาวุธจะต้องมุ่งหน้าไป การเปลี่ยนทิศทางของขีปนาวุธจะอำนวยความสะดวกด้วยสายเคเบิลที่ติดอยู่กับหัวของนกซึ่งจะบังคับทิศทางด้วยกลไก