นกอากิกิกิ (ʻakikiki) คืออะไร?
นกอากิกิกิ (ʻakikiki) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า โอรีโอมิสทิส แบร์ดี (Oreomystis bairdi) เป็นนกเพียงชนิดเดียวที่เหลืออยู่ของสกุล โอรีโอมิสทิส (Oreomystis) และเป็นเพื่อนร่วมเกาะของนกที่ชื่อว่า คาไวอิโอโอ (Kauaʻi ʻōʻō) ซึ่งเพิ่งจะประกาศการสูญพันธุ์ไปทั้งสกุลเมื่อไม่นานมานี้ …กดเพื่ออ่าน Kauaʻi ʻōʻō
นกอากิกิกิเป็นนกขนาดเล็ก ที่ยาวได้ประมาณ 13 เซนติเมตร หนัก 12 – 17 กรัม มีขนสีเทาหรือสีน้ำตาลอ่อนด้านบนและด้านล่างจะเป็นสีขาว ในวัยเด็กจะมีวงแหวนสีขาวที่ตาขนาดใหญ่ พอโตขึ้นจะค่อยๆ จางหายไป ขาและปากเป็นสีชมพู่ มีหางที่สั้นเมื่อเทียบกับนกชนิดอื่นบนเกาะ
นกอากิกิกิ มีถิ่นกำเนิดบนเกาะคาไว (island of Kauaʻi) ซึ่งเป็นหนึ่งในเกาะของหมู่เกาะฮาวาย มีพื้นที่ 1,456 ตารางกิโลเมตร โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2566 (2023) นักวิจัยประกาศว่ามีนกอากิกิกิ เหลือเพียง 5 ตัวเท่านั้น
และจากการศึกษาล่าสุด นักชีววิทยาภาคสนามจากโครงการฟื้นฟูนกป่าของคาไว ได้ประกาศว่า “นกชนิดนี้จะเป็นสายพันธุ์ที่จะหายไปภายในสิ้นปีนี้” เนื่องจากไฟไหม้ใหญ่ที่เพิ่งเกิดขึ้น ส่งผลให้ในตอนนี้ไม่พบนกชนิดนี้แล้ว
ภัยคุกคามต่อนกทั้งเกาะ
สาเหตุหลักที่ทำให้นกชนิดนี้เข้าใกล้การสูญพันธุ์ก็คือ การตัดไม้ทำลายป่า จนทำให้ถิ่นอาศัยของนกอากิกิกิลดลงเหลือเพียงเศษเสี้ยว จากเดิมที่มีน้อยมากอยู่แล้ว ต่อมาเพราะการมาถึงของผู้คนได้นำพาเอาหนูเข้ามา ซึ่งหนูเหล่านี้ได้ทำลายไข่และกินตัวอ่อนของนกอย่างต่อเนื่อง
แต่! ปัญหาที่ยากจะแก้ไขคือ “ยุง” ซึ่งเป็นยุงที่ขึ้นมาบนเกาะเมื่อปี พ.ศ.2369 (1826) พวกมันเป็นนักล่าและยังแพร่กระจายไข่มาลาเรียในนก เป็นเหตุให้นกเกือบทั้งเกาะต้องตาย แต่โชคยังดีเล็กน้อย ที่ยุงและปรสิตจะเจริญเติบโตได้เฉพาะในอุณหภูมิที่อบอุ่นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้นกที่รอดชีวิตจากยุงจะเป็นนกที่อาศัยอยู่ที่ความสูงกว่า 1 พันเมตรเท่านั้น …มาถึงตรงนี้ถิ่นอาศัยของนกจึงเหลือเศษเสี้ยวของเศษเสี้ยวเท่านั้น …นี่ยังไม่นับไฟป่าที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในฮาวาย
ยังสามารถช่วยนกชนิดนี้ได้หรือไม่?
วิธีการช่วยเหลือนกอากิกิกิไม่ให้สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาตินั้น “ไม่มี” เพราะมันสายเกินไปแล้ว ส่วนนกในโครงการฟื้นฟู “ยังไม่มีวิธีที่ดีเลย” ในตอนนี้ทำได้เพียงสร้างที่หลบภัยให้กับพวกมัน ในขณะที่สภาพแวดล้อมของนกชนิดนี้กำลังพังทลาย
ปัจจุบันมีความพยายามจำลองสภาพแวดล้อมให้กับนกชนิดนี้ มีทั้งกิ่งไม้ ใยแมงมุม ทำแม้แต่การพ่นหมอกควัน เพื่อเลียนแบบรูปแบบของป่าฝนของเกาะคาไว และยังเพาะพันธุ์แมลงที่นกชอบกินเอาไว้ในบริเวณ ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อรักษาพฤติกรรมตามธรรมชาติเอาไว้ …และเพื่อให้พวกมันผสมพันธุ์กันได้
แต่เท่าที่ผ่านมายังไม่ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ในที่เลี้ยง ซึ่งตามข้อมูลระบุว่า นกในโครงการฟื้นฟู ปี พ.ศ. 2561 (2018) จำนวน 27 คู่ ลดลงเหลือ 13 คู่ในปี พ.ศ. 2563 (2020) …จากนั้นก็ลดลงเหลือ 2 คู่ในปีต่อมา …นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม่วิธีช่วยนกชนิดนี้จึงยังไม่มี
อีกอย่างคือถึงแม้จะเพาะพันธุ์ได้สำเร็จแต่หากปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ นกพวกนี้ก็ตายจากโรคมาลาเรียในนกอยู่ดี …ซึ่งโรคเหล่านี้ นักวิจัยเองก็พยายามแก้ไขมาหลายปี แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ และดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว ที่จะรอคอยให้นกบนเกาะมีภูมิต้านทานโรค