แม้การเคลื่อนไหวแบบนี้อาจดูน่ารักและน่าขบขัน แต่มันมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการเตือนครั้งสุดท้ายก่อนที่มันจะปล่อยกลิ่นที่เป็นพิษเพื่อไล่นักล่าหรือแม้แต่มนุษย์ที่เข้าใกล้มันออกไป
การวิเคราะห์ DNA ครั้งล่าสุด
ในตอนนี้การวิเคราะห์ DNA ของสกั๊งค์มากกว่า 200 ตัว ที่ดำเนินการโดยนักวิจัยในชิคาโก พบว่ามีสกั๊งค์ลายด่าง (Spotted Skunks) อยู่ 7 ชนิดที่แตกต่างกันมันมากกว่าที่เคยคิดเอาไว้ถึง 3 ชนิด
สายพันธุ์ทั้ง 7 มีชื่อดังนี้
- Spilogale leucoparia ที่พบในทะเลทราย Chihuahuan และ Sonoran และที่ราบสูงเม็กซิกัน
- Spilogale gracilis พบที่เทือกเขาร็อกกี้
- Spilogale angustifrons พบทางตอนใต้ของเม็กซิโก
- Spilogale yucatanensis พบที่ยูคาทาน เม็กซิโก
- Spilogale interrupta พบใน Great Plains of the US (ที่ราบเกรตเพลนส์)
- Spilogale putorius พบในเทือกเขาแอปปาเลเชียน และแนวชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ของสหรัฐอเมริกา
- Spilogale pygmaea พบในเม็กซิโกตะวันตก
“อเมริกาเหนือเป็นหนึ่งในทวีปที่มีการศึกษามากที่สุด ในแง่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และสัตว์กินเนื้อก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีการศึกษามากเช่นกัน” ดร.อดัม เฟอร์กูสัน ผู้เขียนการศึกษาและผู้จัดการกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกล่าว
“เราคิดว่าจะต้องมีความประหลาดใจเมื่อรู้ถึงความหลากหลายของสกั๊งค์ เพราะทั้งสกุลไม่เคยได้รับการวิเคราะห์อย่างเหมาะสมโดยใช้ข้อมูลทางพันธุกรรม”
หลังจากรวบรวมตัวอย่าง 203 ตัวอย่าง ทีมงานได้เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากนั้นจึงวิเคราะห์ DNA และเมื่อเปรียบเทียบลำดับ DNA พวกเขาสามารถจึงสามารถระบุได้ว่าสกั๊งค์บางตัวที่เคยถูกพิจารณาว่าเป็นสปีชีส์เดียวกัน มันกลับมีจีโนมที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
พวกเขาพบว่า Spotted Skunk ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีจำนวนลดลงในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ไม่ใช่สปีชีส์ย่อยอย่างที่คิดไว้ก่อนหน้านี้ แต่เป็นสปีชีส์ที่แยกจากกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นข้อแตกต่างที่สำคัญที่อาจช่วยในการอนุรักษ์พวกมัน
“หากสายพันธุ์ย่อยมีปัญหา บางครั้งการปกป้องก็มีความสำคัญน้อยลง เพราะมันไม่ได้แยกความแตกต่างจากสายเลือดวิวัฒนาการอย่างสปีชีส์”
สุดท้ายเราได้แสดงให้เห็นว่า Spotted Skunks มีความแตกต่างกันในระดับสปีชีส์ ซึ่งหมายความว่าพวกมันมีการพัฒนาอย่างอิสระจากสกั๊งค์อื่นๆ มาเป็นเวลานาน เมื่อบางสิ่งมีชื่อสปีชีส์แล้วการอนุรักษ์และปกป้องจะง่ายกว่า ..และในตอนนี้เราต้องการรู้จักพวกมันมากขึ้น