แพะที่เป็นสัตว์เลือดเย็น!
สำหรับแพะตัวที่กำลังพูดถึง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ไมโอทรากัส แบเลียริคัส (Myotragus balearicus) เป็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ในอดีตเคยพบอยู่ทั่วไปบนดินแดนที่เชื่อมต่อระหว่างหมู่เกาะแบลีแอริก (Balearic Islands) กับแผ่นดินใหญ่ของยุโรป
วันเวลาผ่านไปหมู่เกาะแบลีแอริกก็ถูกล้อมรอบไปด้วยทะเล แพะโบราณก็พบว่าตัวเองติดอยู่บนเกาะมายอร์กาของสเปนในปัจจุบัน
มันเป็นแพะตัวเล็กๆ ที่สูงเพียง 40 เซนติเมตร หลังจากที่ติดเกาะอย่างโดดเดี่ยวอยู่เป็นเวลานาน จนทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางสัณฐานวิทยาหลายอย่าง แขนขาที่สั้งลง สมองเล็กลง อวัยวะรับสัมผัสก็เล็กลง และสุดท้ายก็พบว่ามีโครงสร้างกระดูกแบบเดียวกับที่พบในสัตว์เลื้อยคลานในปัจจุบัน
โดยปกติแล้วสัตว์เลื้อยคลานจะเติบโตได้ช้า หลายชนิดถึงขนาดมีความสามารถในการควบคุมหรือแม้แต่หยุดการเติบโตโดยสิ้นเชิง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของทรัพยากรในแหล่งอาศัยของพวกมัน การชะลอตัวหรือหยุดชะงักของอัตราการเติบโตเป็นระยะๆ ได้ทิ้งหลักฐานเอาไว้ในกระดูกของสัตว์เหล่านี้
เมื่อพิจารณาจากเนื้อเยื่อกระดูกของแพะโบราณชนิดนี้ นักวิจัยก็พบเนื้อเยื่อแบบเดี่ยวกับที่จะพบในสัตว์เลื้อยคลานเท่านั้น ความจริงแพะชนิดนี้มีกระดูกคล้ายกับกระดูกของจระเข้มากที่สุด …จากหลักฐานนักวิจัยพบว่ามันเป็นแพะที่โตช้า ต้องใช้เวลานานถึง 12 ปี จึงจะพร้อมผสมพันธุ์ ในขณะที่แพะทั่วไปจะใช้เวลาน้อยกว่า 9 เดือนด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ วิถีชีวิตของแพะชนิดนี้ ยังต่างจากแพะทั่วไปมาก มันเฉื่อยชาและช้ากว่า! แทนที่จะวิ่งและกระโดดไปมาตามโขดหิน พวกมันเลือกที่จะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ท่ามกลางแสงแดดและจะเคลื่อนไหวช้าๆ
และแม้จะมองว่า ทิศทางของวิวัฒนาการที่พวกมันเลือกจะไม่ดีและสุดท้ายก็ทำให้สูญพันธุ์ แต่ความจริงเพราะพวกมันเป็นแบบนี้ ถึงได้มีชีวิตรอดเป็นเวลา 5.2 ล้านปี ซึ่งอยู่รอดนานเป็นสองเท่าของแพะสายพันธุ์ที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ในตอนนี้ …ความจริงพวกมันวิวัฒนาการมาอย่างดีด้วยซ้ำ
สำหรับเหตุที่ทำให้พวกมันต้องสูญพันธุ์ เดาครั้งเดียวก็คงจะถูก! เพราะด้วยลักษณ์เฉพาะของแพะที่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเลือดเย็น พวกมันช้า และจำเป็นต้องตากแดด มนุษย์ที่มาถึงเกาะเมื่อประมาณ 3 พันปีก่อน ได้แย่งชิงทรัพยากรที่มีน้อยอยู่แล้ว และยังเอาชีวิตของพวกมันไปอีก …สุดท้ายแพะโบราณเลือดเย็นเพียงหนึ่งเดียวก็หายไปจากโลกโดยสมบูรณ์