ปลาคาร์พเอเชีย จำนวนมหาศาลได้ถูกกำจัดออกจากทะเลสาบบาร์คลีย์ (Lake Barkley) และทะเลสาบเคนตักกี้ (Kentucky Lake) ซึ่งทั้งสองแห่งตั้งอยู่ระหว่างรัฐเคนตักกี้และเทนเนสซี มันเป็นการพยายามของเจ้าหน้าที่และชาวประมงในรัฐเคนตักกี้มาตั้งแต่ปี 2018 จนถึงตอนนี้พวกเขาสามารถนำ “ปลาคาร์พเอเชีย” ออกไปจากทะเลสาบได้ประมาณ 12 – 15 ล้านตัว .. แต่สงครามกับปลาพวกนี้ก็ยังดำเนิดต่อไป
สงครามปลาคาร์พเอเชียยังคงดำเนินต่อไป
ปลาคาร์พเอเชียและคาร์พซิลเวอร์ ถูกเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาจำพวกปลาดุก หรือ แคทฟิช นำเข้าไปในสหรัฐเพื่อใช้กำจัดสาหร่ายที่มีมากเกินไปในฟาร์มเลี้ยงปลาเชิงพาณิชย์ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 70 จากนั้นก็ขายให้ตลาดชุมชนชาวจีน แต่พวกเขาไม่ได้ตระหนักว่า ปลาอาจหลุดจากฟาร์มไปยังแม่น้ำ ต่อมาพวกมันก็แพร่พันธุ์จนมีจำนวนนับล้านตัว แย่งอาหารปลาอื่นๆในระบบนิเวศ
“คาร์พเอเชีย 4 ชนิด มีขนาดแตกต่างกันไป น้ำหนักหนักเฉลี่ย 3.5 -10.5 ก.ก. ปลาเพศเมียเต็มวัย 1 ตัว ออกไข่ปีละ 1 ล้านฟองต่อปี” ความพยายามของเจ้าหน้าที่ในการกำจัดปลาพวกนี้ได้ดำเนินมามากกว่า 60 ปี พวกเขาใช้มาหลายวิธี โดยวิธีที่เจ้าหน้าที่นิยมใช้คือการช็อตด้วยไฟฟ้า
โดยการช็อตไฟฟ้าของทางอเมริกาดีกว่าบ้านเรา (ไทย) ค่อนข้างมาก พวกเขามีเรือที่สร้างมาเพื่อช็อตปลาโดยเฉพาะ อุปกรณ์ชนิดนี้ไม่ทำให้ปลาทั่วไปตาย แค่ช็อกไปทั่วขณะ มันเป็นวิธีการปกติที่ใช้จับและนับจำนวนประชากรปลา หรือใช้เพื่อติดแท็ก การจับปลาพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา ..หากเป็นการจับคาร์พเอเชีย พวกมันจะถูกส่งไปเพื่อทำปุ๋ย เหยื่อปลา อาหารสัตว์หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์อาหารของคนต่อไป
นอกจากการช็อตที่ทำอย่างต่อเนื่อง ยังมีจัดกิจกรรม หรือการแข่งขัน เพื่อจับปลารุกรานพวกนี้ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้คน นักตกปลา ชาวประมง ช่วยกันจับปลาชนิดนี้ออกจากแหล่งน้ำ ซึ่งการจัดกิจกรรมหรือโครงการถือว่าช่วยได้มาก เพราะตามรายงานล่าสุด เฉพาะทะเลสาบเคนตักกี้ในปี 2020 เพียงปีเดียว ปลาคาร์พเอเชียถูกนำออกไปถึง 7.6 ล้านปอนด์
“ปลาคาร์ฟเอเชียรุกรานในแม่น้ำมี 4 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ Bighead (ปลาซ่ง), Black (ตะเพียนดำ), Grass (ปลาเฉา), และ Silver (ปลาลิ่น)”