ณ แม่น้ำกาลี (Kali) ในประเทศอินเดียและเนปาล ในช่วงปี 1998 – 2007 ได้เกิดเหตุการณ์น่าสะเทือนขวัญขึ้นในบริเวณแม่น้ำแห่งนี้ เมื่อมีรายงานชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำถูกสัตว์ลึกลับลากลงไปกินในน้ำ ซึ่งการโจมตีที่น่ากลัวนี้ได้เกิดขึ้น 3 ครั้งดังนี้
- เดือนเมษายน ปี 1998 เด็กหนุ่มอายุ 17 ปีได้ว่ายน้ำเล่นในแม่น้ำใกล้กับหมู่บ้าน ทันใดนั้นเขาได้ถูกบางอย่างดึงลงไปในน้ำต่อหน้าแฟนสาวของเขาและเพื่อนๆ พวกเขาพยายามช่วยแต่ก็ไม่ทัน หลังจากการค้นหา 3 วันและกินพื้นที่ถึง 5 กิโลเมตรก็ไม่เจอแม้แต่ศพ
- เดือนกรกฏาคม ปี 1998 เป็น 3 เดือนหลังจากการโจมตีครั้งแรก มีเด็กชายผู้โชคร้ายอีกคนถูกบางอย่างดึงลงไปต่อหน้าพ่อของเขา พ่อเขาได้พยายามดำลงไปช่วยแต่ก็ไม่พบ เป็นอีกครั้งที่ไม่เจอศพของผู้ที่สูญหาย
- การโจมตีครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 2007 เมื่อเด็กหนุ่มอายุ 18 ปีชาวเนปาล ซึ่งได้ลงไปเดินเล่นในแม่น้ำช่วงที่ตื้น ได้ถูกบางอย่างเข้าโจมตีและลากหายลงไปในแม่น้ำ แต่ครั้งนี้ผู้ที่ได้พยายามเข้าไปช่วยได้บรรยายสิ่งนั้นว่า “เหมือนกับหมูสีน้ำตาล”
หลังจากการโจมตีอันน่ากลัวนี้ ได้มีการสืบค้นว่าตัวอะไรอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ นักชีววิทยาอังกฤษที่มีชื่อว่า Dr. Jeremy Wade ได้เดินทางไปยังอินเดียในปี 2005 และอีกครั้งในปี 2009 หลังจากการโจมตีครั้งสุดท้าย เขาได้เริ่มการสืบค้นในบริเวณที่มีการหายตัวไปทั้งสามครั้ง และตัวเขาได้ดำลงไปสำรวจก้นแม่น้ำด้วย หลังจากการสำรวจทำให้มีผู้ต้องสงสัย 3 ชนิดดังนี้
1. จระเข้
มีความเป็นไปได้มากที่จะเป็นจระเข้ ซึ่งในอินเดียเป็นบ้านของจระเข้ 3 ชนิด และ 2 ใน 3 นั้นก็มีประวัติในการทำร้ายมนุษย์ แต่ปัญหาคือ จระเข้น้ำเค็มนั้นปกติจะไม่เข้ามาลึกในแผ่นดิน และบริเวณแม่น้ำกาลีนั้นก็ลึกเข้ามามาก แถมที่สำคัญยังมีอากาศเย็นซึ่งไม่เหมาะกับพวกมันอีกด้วย และจระเข้อีกชนิดคือคือจระเข้อินเดีย ซึ่งไม่เคยมีรายงานพบในเขตนี้มาก่อน ส่วนตะโขงนั้นปกติไม่โจมตีมนุษย์อยู่แล้วถ้าไม่โดนรบกวน และอาหารหลักมันคือปลา ซึ่งทำให้ตัดมันออกไปได้เลย
2. ฉลามหัวบาตร
หนึ่งในผู้ต้องสงสัยตัวสำคัญ ฉลามหัวบาตรนั้นสามารถปรับตัวให้เข้ากับน้ำจืดได้ บางตัวสามารถปรับตัวให้อยู่ในน้ำจืด 100 % มีรายงานฉลามหัวบาตรในแม่น้ำอเมซอน ส่วนที่ลึกเข้าไปในแผ่นดินหลายร้อยกิโลเมตร นอกจากนี้มันยังเป็นฉลามที่มีรายงานทำร้ายคนมากที่สุด ทำให้มันเป็นผู้ต้องสงสัยตัวสำคัญ แต่ก็มีข้อแย้งว่าในการโจมตี 3 ครั้งนั้น ไม่มีใครเห็นครีบของฉลามโผล่มาเลย
3. ปลาแค้ยักษ์
ผู้ต้องสงสัยที่มีความเป็นไปได้มากสุด ในขณะสำรวจเมื่อ ดร. Wade ได้ดำลงไปที่ก้นแม่น้ำ เขาได้พบกับปลาแค้ยักษ์จำนวนมากอาศัยอยู่ที่ก้นแม่น้ำ ปลาแค้ยักษ์นั้นพบได้ในเอเซียใต้และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงในไทยด้วย พวกนี้มักจะอยู่ตามก้นแม่น้ำและมีขนาดยาวมากถึง 2 เมตร ชาวบ้านได้บอกว่าพวกมันอาจจะได้เคยกินซากศพคนที่ทำพิธีในแม่น้ำ ทำให้พวกมันติดใจเนื้อคน
หลังจากการจับพวกมันมาได้บางตัว พบว่ามันมีความเป็นไปได้ที่ปลาแค้ขนาดใหญ่อาจจะกินเด็กได้ ตัวของมันเป็นสีน้ำตาลซึ่งตรงกับพยานที่เห็นตอนเหยื่อรายที่ 3 แต่กับคนที่โตแล้วกับสัตว์ขนาดใหญ่อย่างควายนั้น มันต้องตัวใหญ่กว่านี้มากๆ และอีกอย่างพวกปลาแค้เป็นปลาก้นน้ำซึ่งมันไม่ค่อยขึ้นมาหาอาหารบนผิวน้ำ
และยังมีอีกทฤษฏีคือวังน้ำวน ที่ดูดคนเหล่านั้นลงไป แต่ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะ อย่างเหยื่อรายแรกนั้นจมต่อหน้าแฟนและเพื่อนๆ ซึ่งไม่มีใครเห็นน้ำวนเลย และรายที่ 3 ที่โดนลากจากน้ำที่ตื้นแค่เข่า ทำให้ทฤษฏีนี้โดนปัดตกไป
เกือบ 14 ปีนับจากการโจมตีครั้งสุดท้าย เป็นไปได้ว่าสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่เป็นต้นเหตุนี้อาจจะตายไปแล้ว หรือไม่ก็มันอาจจะย้ายที่ไปยังแหล่งอาหารแห่งใหม่ก็เป็นได้ .. สรุปคือเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไป
“แม่น้ำกาลี (กรณาฏกะ) – Kali River แม่น้ำกาลี หรือ กาลีนาดี คือ แม่น้ำที่ไหลผ่าน อุตตรกั ณ หา อำเภอ กรณาฏกะ รัฐในอินเดีย โดยแม่น้ำเป็นเส้นชีวิตของผู้คนราว 4 แสนคนในเขตอุตตรกัณ ณาทและรองรับการดำรงชีวิตของผู้คนหลายหมื่นคนรวมถึงชาวประมงบนชายฝั่ง Karwar มีการสร้างเขื่อนมากมายข้ามแม่น้ำสายนี้สำหรับรุ่นของ ไฟฟ้า. เขื่อนสำคัญแห่งหนึ่งที่สร้างข้ามแม่น้ำกาลีคือ สุภาดำ ที่ Ganeshgudi. แม่น้ำไหล 184 กิโลเมตรก่อนไปที่ทะเลอาหรับ”
