เรื่องย่อการรุกรานของคางคกตัวแสบ
คางคกอ้อยมีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ จากนั้นมันถูกนำเข้าไปในหลายๆ ประเทศ ทั้งฟลอริดา ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น รวมทั้งเกาะแถบ ทะเลแคริบเบียนและฮาวาย และที่อื่นๆ มันเป็นคางคกที่ยาวได้ถึง 8 นิ้ว และหนัก 2 ปอนด์ (ใหญ่ที่สุดที่บันทึกไว้มีความยาว 9.4 นิ้ว)
การนำเข้าเป็นเกษตรกรที่หวังว่าสิ่งมีชีวิตนี้จะสามารถกำจัดศัตรูพืชในท้องถิ่นได้ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น เพราะคางคกตัวนี้กลายเป็นศัตรูพืชอีกชนิดหนึ่งที่กำจัดยากกว่ามาก มันตะกละกินพืชและยังกินสัตว์พื้นเมืองหลายชนิดอีกด้วย
คางคกชนิดนี้มีพิษตั้งแต่เป็นไข่โดยพิษจะอยู่ในตัว โดยจะเป็นพิษกับสัตว์หลายชนิด และเมื่อเป็นคางคกผิวหนังของมันจะมีสารพิษที่สามารถฆ่าสัตว์ที่พยายามกินมัน
คางคกอ้อยมีการสืบพันธุ์ที่น่ากลัวมาก มันทำให้กระต่ายต้องอับอาย ตัวเมียแต่ละตัววางไข่ 8,000–25,000 ฟองในแต่ละปี แถมระยะฟักตัวแค่ 48 ชั่วโมง กลายเป็นคางคกหนุ่มสาวภายใน 12 – 60 วัน
ในกรณีของออสเตรเลีย ในปี 1935 คางคกอ้อย 102 ตัวถูกนำมาใช้เพื่อต่อสู้กับด้วง Greyback Cane จนกระทั้งปี 2010 จำนวนดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 พันล้านตัว พวกมันกระจายไปทั่ว 386,100 ตารางไมล์และพวกมันไม่หยุดจนถึงทุกวันนี้
สุดท้ายต้องบอกว่าค้างคกชนิดนี้กินได้เกือบทุกอย่าง มันกินหนู , สัตว์เลื้อยคลานอื่นๆ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ, นก, และแม้กระทั่งค้างคาว สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง กินพืช อาหารสุนัข และของใช้ในครัวเรือน ขยะมันก็กิน
แต่ความหน้ากลัวของมันอีกอย่างคือพิษที่ตัว เพราะคางคกชนิดนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้สัตว์ป่ารวมทั้งสัตว์เลี้ยงต้องตาย เนื่องจากพิษมีความร้ายแรงเพียงพอจะฆ่าสัตว์ป่ารวมทั้งสุนัขตัวใหญ่ หรือแม้แต่กับมนุษย์
ส่วนเรื่องการลดจำนวนพวกมันทางออสเตรเลียยังคงต้องเหนื่อยอีกยาว เพราะตอนนี้ยังทะเลาะกับหนู แมว นกอีมู กระต่าย หรือแม้แต่ปลาจีนก็เช่นกัน ..สู้ๆ @แมวบ้าตกปลา