คันเบ็ดเป็นอุปกรณ์ที่ต้องคิดถึงเป็นอันดับแรกๆ สำหรับการตกปลาทุกรูปแบบ โดยความพิเศษของคันตีเหยื่อปลอมคือ มีขนาดที่เล็ก และน้ำหนักที่เบา โดยหลักๆ คันเบ็ดจะแยกออกเป็น “เบทคาสติ้ง (Casting Rod)” กับอีกประเภทคือ “สปินนิ่ง (Spinning Rod) และคันเบ็ดยังแยกเป็นคันสเปคอเมริกา กับ ญีปุ่นด้วย ทั้งที่จริงๆ แล้วผลิตประเทศอื่นก็มีเยอะเต็มไปหมด
คันประเภทไหนได้รับความนิยมมากกว่า..?
หากถามว่าระหว่างคันเบทกับคันสปิน แบบไหนได้รับความนิยมมากกว่าในการตีเหยื่อปลอม..? บอกได้เลยว่าในช่วง 4 – 5 ปีก่อน เบทคาสติ้งมาแรงมาก คงเพราะยุคนั้นเหยื่อขนาดเล็กกว่า 3 กรัมไม่ค่อยจะเจอในไทย แต่ในปัจจุบันเหยื่อขนาดจิ้วๆ น้ำหนักต่ำกว่า 3 กรัม ได้รับความนิยมมากขึ้น เลยทำสปินนิ่ง ดูจะได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ จนดูจะมีคนใช้มากพอๆ กับเบทคาสติ้งแล้ว
ความยาวของคัน
หน่วยฟุตจะเป็นหน่วยที่ได้รับความนิยมในการบอกความยาวของคันเบ็ด จะว่าไปเป็นหน่วยสากลเลยก็ได้ และคันเบทกับ คันสปิน จะนิยมใช้ความยาวที่ต่างกันด้วยนะ
- Casting Rod : จะนิยมใช้ที่ 6 – 6.8 ฟุต แบบ 1 ท่อน หากยาวกว่านี้จะไม่ค่อยได้รับความนิยมกัน ไม่ว่าจะตีหมายแบบไหนก็จะใช้ยาวประมาณนี้ และจากความเห็นส่วนตัวถ้าคันเบสยาวเกิน 7.6 ฟุตจะตียาก มีโอกาสตีแล้วสายฟูสูงมาก
- Spinning Rod : จะชอบใช้ยาว 7 – 8 ฟุต แบบ 1 – 2 ท่อน สำหรับหมายขนาดกลางจนถึงใหญ่มาก และไม่เกิน 6 ฟุต คันเรียวๆ เล็กๆ หรือที่เรียก Ultra Light ..ส่วนใครชอบตีไกลเอาโล่ จัด 8 ฟุตขึ้นไปเลยไม่ผิดหวังแน่
Line Weight
ต่อจากความยาวคัน สิ่งที่นักตกปลามือใหม่มักจะถามกันคือ Weight แต่จริงๆ แล้ว ตามตารางข้อมูลของคันเบ็ด จะมีคำว่า Weight (น้ำหนัก) ที่บอกคุณสมบัติเอาไว้อย่างน้อยๆ ก็ 3 อย่างคือ Line Weight, Lure Weight และ Rod Weight แต่ไม่เป็นไรรู้จักแค่ Line Weight ไปก่อน และหน่อยวัดที่เป็นสากลคือปอนด์ (LB.) ต่อไปเป็นตัวอย่างของ Line Weight แต่บอกไว้ก่อนว่าแต่ละค่ายผลิตจะมีตัวเลขที่ต่างกันนิดหน่อยอันนี้เป็นแค่ตัวอย่าง
- Line Weight 2 – 6 : ไม่ค่อยมีกับ Casting Rod ส่วนใหญ่เป็นคันสปินและมี Power แบบ UL (Ultra Light)
- เพิ่งจะได้รับความนิยมได้ไม่นานสำหรับนักตกปลาชาวไทย ส่วนสายก็ PE 0.5 – PE1 (ผมเล่นไม่ได้ มือหนัก)
- Line Weight 6 – 12 : สำหรับคันสปินตกปลาน้ำจืด ถือว่าแข็งแล้วนะ เป็นเวทที่ตกได้ทั่วไปเลย แต่ถ้าเวทประมาณนี้และเป็นคันเบท ถือว่าคันอ่อนมาก ถือเป็น UL ของคันเบทเลย ใช้สายประมาณ PE 1 – PE 2 (คันสปิน) ใหญ่กว่านี้ตีไม่ค่อยออก ส่วนคันเบทก็ PE 2 ก็ยังตีได้สบาย
- Line Weight 10 – 17 : มาถึงเวทระดับนี้ ไม่ค่อยเจอในคันตีเหยื่อปลอมสปิน แต่ถ้าเป็นคันเบทถือว่าเป็นเวทครอบจักรวาล น้ำจืด น้ำกร่อย ตกได้ทุกที่ ปลาขังยันเขื่อน สายที่ใช้ก็ PE1.5 – PE3 (คันเบท) ส่วนคันสปินไม่ข้อพูดถึงนะครับ เวทระดับนึ้คงไม่ค่อยนิยมกัน
- Line Weight 12 – 20 : เริ่มเป็นงานเฉพาะทางแล้ว โดยเวท 12 – 20 ถือว่าแข็งสำหรับงานน้ำจืด แต่ก็นิยมใช้ตกหมายที่คิดว่าต้องเจอกับปลาใหญ่ หรือหมายที่มีอุปสรรคใต้น้ำเยอะหน่อย เช่นเขือน หรือบ่อบัว เป็นต้น แต่ก็มีน้าๆ บางท่านชอบใช้คันแข็งๆ ก็เอามันไปตกได้ทุกที่เหมือนกัน สายที่ใช้ก็ PE2 – 4 (คันเบท)
สำหรับเวทใหญ่ๆ ที่พบก็ 12 – 25 แข็งมากๆ แล้วสำหรับงานน้ำจืด หากเวทมากกว่านี้ไม่แนะนำ เพราะเอามาตกน้ำจืดรับประกันได้เลยว่าไม่สนุก เพราะวัดทีปลาแทบจะลอยขึ้นบก
ต่อไปเป็นตัวอย่างข้อมูลของคันเบ็ดนะครับ
SPINNING RODS | ||||||||
Model | Length | Power | Action | PCS | Line Weight | Lure Weight | Rod Weight | Handle |
LES60ULF2 | 6′ | UL | Fast | 2 | 2 – 6 | 1/32 – 3/16 | 2.6 | 1 |
LES60MLF | 6′ | ML | Fast | 1 | 4 – 10 | 1/8 – 3/8 | 2.8 | 1 |
LES63MXF | 6’3″ | M | X-Fast | 1 | 6 – 10 | 1/8 – 1/2 | 3.2 | 1 |
LES66LF | 6’6″ | L | Fast | 1 | 4 – 8 | 1/16 – 1/4 | 2.8 | 1 |
LES66MHF | 6’6″ | MH | Fast | 1 | 8 14 | 3/8 – 3/4 | 3.8 | 4 |
LES68MXF | 6’8″ | M | X-Fast | 1 | 6 – 12 | 3/16 – 5/8 | 3.7 | 4 |
LES70LF | 7′ | L | Fast | 1 | 4 – 8 | 1/16 – 1/4 | 3.0 | 2 |
LES70MLF2 | 7′ | ML | Fast | 2 | 4 – 10 | 1/8 – 3/8 | 3.4 | 3 |
LES70MF | 7′ | M | Fast | 1 | 6 – 12 | 3/16 – 5/8 | 3.6 | 5 |
LES76MLXF | 7’6″ | ML | X-Fast | 1 | 4 – 10 | 1/8 – 3/8 | 3.8 | 5 |
LES76MF | 7’6″ | M | Fast | 1 | 6 -12 | 3/16 – 5/8 | 3.9 | 5 |
CASTING RODS | ||||||||
Model | Length | Power | Action | PCS | Line Weight | Lure Weight | Rod Weight | Handle |
LEC60MF | 6′ | M | Fast | 1 | 10 – 17 | 1/4 – 5/8 | 3.4 | 7 |
LEC66MF | 6’6″ | M | Fast | 1 | 10 – 17 | 1/4 – 5/8 | 3.7 | 8 |
LEC70HF | 7′ | H | Fast | 1 | 14 – 25 | 3/8 – 11/2 | 4.6 | 8 |
จากตารางตัวอย่างที่ดูกันจะเห็นว่าคันเบ็ดมีรายละเอียดประกอบอยู่หลายส่วน นอกจาก Line Weight ของคันแล้ว จะมี “Power” อยู่ด้วย โดยทั่วไปจะมีประมาณ 9 ระดับนะครับ แต่สำหรับคันตีเหยื่อปลอม ที่นิยมใช่กันจะมีอยู่ประมาณ 6 ระดับ
ความหมาย Power เอาไว้เป็นประโยชน์ในการเลือกคันมาใช้
- UL = Ultra Light
- ExL = Extra Light
- L = Light
- ML = Medium Light
- M = Medium
- MH = Medium Heavy
- H = Heavy
- ExH = Extra Heavy
- UH = Ultra Heavy
จากภาพจะเห็นว่าที่โคนคันจะมีการบอก Line Weight , Lure Weight และความยาวคัน รวมทั้ง Action, Power เอาไว้ด้วย โดยทุกอย่างถูกรวมเป็นรหัสไว้ “LEC66MF” ซึ่งก็คือ
- LEC = รุ่นคันเบ็ด LEGEND ELITE Casting Rod ในทางกลับกันถ้าเป็น LES ก็จะเป็น Spinning Rod
- 66 = คันยาว 6.6 ฟุต แต่บางยี้ห้อจะบอกเลยว่า 6’6″
- MF = คือคัน Power “M” และ Action “F” บางยี้ห้อก็บอกคำเต็มนะครับ บางทีก็ใส่ทั้งรหัส และเต็มก็มี
สุดท้ายสิ่งที่ไม่เคยถูกเขียนลงบนคันเบ็ดคือ Rod Weight ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ทั้งที่มันสำคัญสำหรับคันตีเหยื่อปลอม ^ ^ สิ่งเหล่านี้นักตกปลาต้องหาข้อมูลเอาเองเมื่อจะเสียเงินซื้อคันดีๆ มาใช้และอย่างที่กล่าวไว้ตอนแรกๆ เกี่ยวกับคันอเมริกา กับญีปุ่น บอกตรงๆ ว่าผมเป็นคนใช้แบรนด์อเมริกา โดยที่ดังๆ ก็มีคันจีกับคันเซนต์ ส่วนทางฝั่งญีปุ่นมีเพียบ ถามว่าต่างกันยังไง..?
เอาหลักๆ เลย ในเรื่องความสวยงาม คันญีปุ่นกินขาด ราคาก็เช่นกันแพงกว่า เพราะทุกอย่างที่เขาทำออกมาถือเป็นศิลปะ ความใส่ใจในงานสูง ถ้าจะหาคันญีปุ่นราคาทะลุสองหมื่นบาทมีอยู่หลายคันเต็มตลาด แต่ถ้าเป็นคันอเมริกาหมื่นห้าก็ถือว่าโหดแล้ว ส่วนคันตีเหยื่อปลอมราคาเบาราคาไม่ถึงพันก็มีเยอะ หาซื้อง่ายตามร้านอุปกรณ์ตกปลาทั่วไป
จุดแข็งของคันอเมริการคือมักจะมีประกันคันหักติดมาด้วย แต่เรื่องความสวยยังเป็นรองคันญีปุ่นอยู่มาก ส่วนคันญีปุ่นเกือบทั้งหมดไม่มีประกัน ฉะนั้นใช้ต้องทำใจถ้าหัก แต่ไม่ต้องกลัวถ้าใช้ถูกวิธีคันไม่หักง่ายๆ แน่ ถึงราคาจะไม่แพงก็ตาม (มีบางยีห้อรับประกันให้เป็นพิเศษ ต้องสอบถามร้านที่จัดจำหน่ายด้วย) แต่ก็ยังไม่จบนะเรื่องของคันเบ็ด ในตัวคันเบ็ดยังมีส่วนประกอบสำคัญๆ อีกหลายอย่าง เช่นไกด์, แบงค์ ซึ่งเอาไว้ต่อในตอนที่ 2 ครับ