“แฮ็กฟิช (hagfish, slime eel) เป็นปลาในชั้นปลาไม่มีขากรรไกรเพียงหนึ่งในสองจำพวกที่ยังสืบเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน (อีกหนึ่งจำพวก คือ ปลาแลมป์เพรย์) ที่อยู่ในชั้น Myxini ซึ่งมีเพียงอันดับเดียว คือ Myxiniformes และวงศ์เดียว คือ Myxinidae”
ความสามารถของปลาตัวนี้
ต้องบอกว่าปลาตัวนี้มีความสามารถในการเปลี่ยนน้ำธรรมดาให้กลายเป็น “เจล หรือ วุ้น” เหนียวๆ โดยปลาอย่างแฮ็กฟิช มีต่อมเมือกทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ กระจายอยู่ที่ผิวหนังและมีต่อมเมือกเรียงตัวเป็นแนวอยู่ทางด้านข้างตลอดความยาวของลำตัว
มีคำกล่าวว่า แฮ็กฟิช 1 ตัว สามารถทำให้น้ำ 1 ถัง แปรสภาพเป็นก้อนวุ้นสีขาวภายใน 1 นาที จากเมือกของตัวที่ปล่อยออกมา ซึ่งมีความเหนียวมากกว่าใยแมงมุมด้วยซ้ำ และยังลื่นมากด้วยด้วยวุ้นนี้สามารถใช้ในการห้ามเลือดได้ และนักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาเพื่อที่นำไปพัฒนาในการสร้างใยสังเคราะห์
หากลองค้นหาคำว่า hagfish, slime eel ใน Google น้าๆ จะได้เห็นแต่ภาพอุบัติเหตุ ที่มีปลาชนิดนี้เกี่ยวข้อง นั้นเพราะปลาชนิดนี้เปลี่ยนน้ำให้เป็นวุ้นได้ มันเหนียว ลื่น และยังคงทน ด้วยเหตุนี้การเคลื่อนย้ายปลาชนิดนี้ต้องทำอย่างระวังเป็นพิเศษ เพราะหากทำมันตกลงถนน และถึงแม้จะวุ้นของมันก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุใหญ่ได้ดังภาพ
จริงๆ แล้วปลาชนิดนี้นอกจากจะสร้างวุ้น แต่สุดยอดของการอยู่รอดของมันคือการที่มันสามารถกินอาหารผ่านทางผิวหนัง และอดอาหารได้นาน 3 เดือนอีกด้วย โดยแฮ็กฟิชจะกินปลาตายหรือปลาใกล้ตายโดยการกัดไชเข้าไปทางทวารหรือถุงเหงือก
ซึ่งปากของแฮ็กฟิชจะอยู่ส่วนล่างของหัวต่ำลงมาเมื่อเปรียบเทียบกับปลาแลมป์เพรย์ แล้วกินส่วนของตัวปลาที่อ่อนนุ่มเหลือไว้แต่หนังและกระดูก นอกจากนี้แฮ็กฟิชยังกินปลาที่ติดอวนลอยอยู่ ทำความเสียหายให้แก่ชาวประมง แต่หลังจากมีการประมงโดยใช้อวนลากขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสูง ปัญหาที่เกิดจากแฮ็กฟิชจึงลดลง
และในบางประเทศ ก็มีการปรุงแฮ็กฟิชรับประทานเป็นอาหารเช่นเดียวกับปลาแลมป์เพรย์ เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เป็นต้น ส่วนในน่านน้ำไทยเคยมีรายงานพบแฮ็กฟิชด้วย ในฝั่งทะเลอันดามันในเขตที่ลึกกว่า 200 เมตร
9 สัตว์น้ำ ที่มีพลังอำนาจเหนือจินตนาการ
คุกคูแคทฟิช ปลาที่มอบโศกนาฏกรรมอันเลวร้ายให้กับลูกของปลาอื่น
ทำไม? กุ้งนับแสนจึงออกจากน้ำที่ปลอดภัย แล้วเลือกเดินบนบกที่อันตราย