ปลาทองสัตว์เลี้ยงที่ถูกทิ้ง จนเติบโตเป็น “สัตว์ประหลาดยักษ์”
แม้ในประเทศไทย อาจจะมีคนหัวเราะเยอะคุณ หากไปบอกว่าปลาทองเป็นสัตว์รุกรานที่น่ากลัว แต่ในหลายประเทศปลาทองถือเป็นปัญหาใหญ่ และปลาทองที่พวกเขาเลี้ยง ก็ไม่ค่อยเหมือนกับบ้านเราเลี้ยงกันสักเท่าไร พวกอดทน ตายยาก และบางชนิดก็อาจหนักได้ถึง 2 กิโลกรัม ความจริงมันเหมือนปลาคราฟผสมปลาทองมากกว่า
จากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยเมอร์ดอค (Murdoch University) ของออสเตรเลีย พบว่าปลาทองที่เป็นหนึ่งในปลาชนิดแรกที่เลี้ยง และได้รับการแนะนำอย่างแพร่หลายทั่วโลก “ปัจจุบันพวกมันถือเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำที่รุกรานที่เลวร้ายที่สุดในโลก”
ปัญหาการรุกรานของปลาทอง จะเด่นชัดมากทั้งแคนาดาและสหรัฐอเมริกา เพราะจะได้เห็นการรุกรานของปลาทองพวกนี้ได้ในแหล่งน้ำทั่วไป มันปรากฎตัวแบบไม่ได้ตั้งใจในคลิปที่เกี่ยวกับตกปลา ดำน้ำ และอื่นๆ
“ในธรรมชาติ ปลาทองจะกินเนื้อเป็นอาหารได้ด้วย และนิสัยการกินของพวกมันคือการขุดลากไปตามพื้นของแหล่งน้ำ ผลคือทำให้ตะกอนลอยขึ้น และยังทำให้ปลาอื่นหาอาหารได้ยาก ที่เลวร้ายที่สุดปลาทองจะกินไข่ของสายพันธุ์พื้นเมืองอีกด้วย”
การวิจัยค้นพบว่าปลาจะเปลี่ยนแปลงแหล่งที่อยู่อาศัยตามฤดูกาล โดยในช่วงฤดูผสมพันธุ์ปลาหนึ่งตัวจะเดินทางไปได้ไกลกว่า 230 กิโลเมตร คิดดูว่า 230 กิโลเมตร ปลาทองต้องว่ายวนอยู่ในชามปลาทองกี่รอบ
มันเป็นเรื่องยุ่งยากมาก ที่หลายคนมองว่าปลาทองเป็นปลาที่เลี้ยงเมื่อไรก็ได้ และจะทิ้งเมื่อไรก็ได้ ลองนึกถึงงานวัดสมัยก่อนที่มักจะมีอ่างปลาทอง ที่ล่อตาล่อใจเด็กๆ ที่กำลังเดินไปรอบๆ แล้วเห็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่ดูน่าสงสาร ก็คงจะมีบ้างที่เด็กจะร้องขอให้ผู้ใหญ่ซื้อให้ และมักจะสำเร็จด้วย นั้นเพราะปลาทองมีราคาไม่แพง แต่แล้วสัตว์ที่ไม่ได้ต้องการจริงๆ จึงไม่ได้ถูกเลี้ยงเพราะความรัก และสุดท้ายมันก็ถูกปล่อยทิ้งลงแหล่งน้ำธรรมชาติ ..จนกลายเป็นสัตว์ประหลาดยักษ์ในสักวันหนึ่ง
เมื่อช่วงปี ค.ศ 2020 – 2021 ในทะเลสาบของแคนาดาเพียงแห่งเดียว มีการจับปลาทองได้มากกว่า 1 ล้านตัว ปลาทองพวกนี้เริ่มต้นมาจากปลาเลี้ยง และเป็นความจริงที่ว่าปลาทองเป็นปลาที่ถูกเลี้ยงเป็นปลาสวยงามมากที่สุดในโลก จึงไม่แปลกที่พวกมันมีจำนวนมหาศาล ทั่วโลกพวกมันถูกซื้อขายปีละนับล้านตัว และเกินครึ่งที่ถูกปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติ
ปลาทองหลายชนิดทนทานมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะ “โคเมท” พวกมันตัวใหญ่ อดทนมาก ตามรายงานพวกมันมีชีวิตรอดผ่านช่วงฤดูหนาวของแคนาดาได้ แถมยังมีชีวิตอยู่ได้ถึง 25 ปี และเช่นเดียวกับปลาคาร์ปทั่วไป พวกมันจะทำให้เกิดตะกอน ถอนรากพืช และยังกินเนื้อได้ด้วย พวกมันแข่งขันกับปลาพื้นเมือง … สุดท้ายจะทำให้สายพันธุ์พื้นเมืองอดตาย
ประวัติความเป็นมาของปลาทอง
เชื่อว่าปลาทองเป็นปลาชนิดแรกที่มนุษย์เลี้ยงในฐานะปลาสวยงาม จากหลักฐานที่ปรากฏ คาดว่าเลี้ยงกันมาไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี ซึ่งเป็นรูปสลักปลาทองหลากหลายสี ว่ายรวมกันอยู่ในบ่อที่ประเทศจีน ด้วยเหตุนี้ประเทศจึงถือเป็นประเทศแรกที่เลี้ยงปลาทอง โดยสายพันธุ์ดั้งเดิมในภาษาญี่ปุ่นเรียก “ฟุนะ” (鮒; フナ)
โดยฟุนะ อยู่ในสกุล Carassius (/คา-ราส-สิ-อัส/) ในวงศ์ปลาตะเพียน มันเป็นปลาทองป่า ที่มีลักษณะคล้ายปลาไน ในตอนแรกฟุนะไม่ได้มีสีสันสดใสเลย แต่จากที่เล่ากันต่อๆ กันมา ในตอนแรกชาวบ้านก็เลี้ยงฟุนะไว้ในบ่อบริเวณบ้าน พอเลี้ยงไปเลี้ยงมาก็เริ่มเกิดลูกปลาที่มีสีแตกต่างจากพ่อแม่ หลังจากผ่านมาหลายรุ่นปลาก็เริ่มเป็นสีส้มมากขึ้น
ต่อมาชาวญี่ปุ่นก็เป็นผู้พัฒนาสายพันธุ์ปลาทองให้มีความสวยงามและหลากหลายมาจนปัจจุบัน โดยเมืองแรกที่พัฒนาสายพันธุ์ปลาทองก็คือ ซะไก ในจังหวัดโอซะกะ ซึ่งอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1502 – 1503 แต่กว่าจะได้รับความนิยมจนมีร้านขายปลาทองเปิดตามเมืองต่างๆ ก็ต้องใช้เวลานานถึง 100 ปี
ต่อมาก็ถูกนำไปเลี้ยงในทวีปยุโรปเมื่อช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 และถูกนำไปเผยแพร่ในทวีปอเมริกาในคริสต์ศตวรรษที่ 19 สำหรับในประเทศไทย เชื่อว่าปลาทองเข้ามาในสมัยอยุธยาตอนกลาง เพื่อเป็นของบรรณาการในราชสำนักเมื่อราวๆ ค.ศ. 1370 – 1489
ปัจจุบันประเทศจีน, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นศูนย์กลางการส่งออกปลาทองที่ใหญ่ที่สุด สำหรับในประเทศไทย การเลี้ยงปลาทองในฐานะปลาสวยงามเริ่มขึ้นมานานมากแล้ว ซึ่งความนิยมเริ่มขึ้นจากพื้นที่กรุงเทพมหานครก่อนจะขยายไปตามจังหวัดต่างๆ จนปัจจุบันมีฟาร์มปลาทองมากมาย มีปลาหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งเกรดสูงที่มีราคาแพงและเกรดธรรมดาทั่วไป …แต่ถึงอย่างงั้น ปลาทองที่นำเข้ามาจากประเทศญีปุ่นก็มีราคาแพงอยู่ดี