อินทรีฮาสท์ (Haast’s Eagle) ชื่อวิทยาศาสตร์ Hieraaetus moorei เป็นนกอินทรีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์รู้จัก แม้อินทรีฮาสท์จะสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ก็พบกระดูกของนกอินทรีชนิดนี้มากกว่า 50 แห่ง โดยส่วนใหญ่อยู่ทางทิศตะวันออกและทางใต้ของเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ บางตัวมีอายุประมาณ 500 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่านกอินทรีและมนุษย์มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน และยังพบกระดูกที่มีอายุถึง 30,000 ปีเช่นกัน
อินทรีฮาสท์มีถิ่นกำเนิดในนิวซีแลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นนกอินทรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวจากปลายปีกข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งกว่า 10 ฟุต หรือ 3 เมตร น้ำหนักราว 15 -20 กิโลกรัม กรงเล็บของอินทรีฮาสท์มีขนาดพอๆ กับเล็บเสือโคร่ง หรือกรงเล็บใหญ่สุดที่มีหลักฐานคือ 9 เซนติเมตร (ยังเล็กกว่าของอินทรีฮาร์ปี นกอินทรีขนาดใหญ่ที่สุดที่ยังไม่สูญพันธุ์) จัดว่าเป็นนักล่าที่น่ากลัวที่สุดของนิวซีแลนด์
อินทรีฮาสท์แม้จะตัวใหญ่ แต่เพราะมันอาศัยอยู่บนเกาะใต้ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมไปด้วยป่าที่หนาทึบ มันจึงมีปีกค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบตามสัดส่วนร่างกาย แต่ถึงงั้นมันก็ใหญ่อยู่ดี ทั้งนี้เพื่อให้เป็นประโยชน์ขณะที่บินล่าเหยื่อในป่า โดยช่วงปีกค่อนข้างสั้นและแผ่กว้างทำให้อินทรีฮาสท์ไม่ร่อนหาเหยื่อจากที่สูงเหมือนอย่างพวกแร้งหรืออินทรีในยุคปัจจุบัน แต่มักจะบินไปตามแนวป่าเพื่อไล่ล่าเหยื่อมากกว่า
เหยื่อของอินทรีฮาสท์
เหยื่อหลักของอินทรีฮาสท์ คือ พวกเป็ด นก หรือสัตว์ตัวไม่ใหญ่นัก กับพวกนกโมอา (คลายนกอีมูแต่สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว) ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะนกโมอายักษ์ที่หนักกว่า 250 กิโลกรัม จะถูกล่าเป็นบางครั้ง และแม้ว่าโมอายักษ์จะใหญ่กว่าอินทรีฮาสท์หลายเท่า แต่มันก็ค่อนข้างเชื่องช้าและยังมีคอและศีรษะขนาดเล็กทำให้ง่ายต่อการโจมตี
อินทรีฮาสต์จะโฉบลงที่ลำคอหรือไม่ก็ศีรษะของเหยื่อ ก่อนใช้กรงเล็บสังหารเหยื่ออย่างแม่นยำ และเนื่องจากเหยื่อของมันมีขนาดใหญ่มาก อินทรีฮาสต์จึงมักกินเหยื่อที่พื้นและอยู่กับซากนี้เป็นเวลาหลายวัน
การที่อินทรีฮาสต์ล่าเหยื่อขนาดใหญ่อย่างนกโมอายักษ์ แล้วกินอยู่บนพื้นได้ ก็เพราะว่าในนิวซีแลนด์ มันเป็นนักล่าที่ใหญ่ที่สุดของดินแดนแห่งนี้ ตามปกติสัตว์จำพวกเหยี่ยวหรืออินทรีจะล่าเหยื่อที่มีขนาดเล็กกว่าพวกมัน เพื่อให้ง่ายต่อการนำขึ้นไปกินบนกิ่งไม้สูง ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้ถูกสัตว์นักล่าบนพื้นดินชนิดอื่นที่แข็งแรงกว่ามาแย่งเหยื่อไป
แต่ในนิวซีแลนด์ไม่มีสัตว์นักล่าบนพื้นดิน ที่แข็งแกร่งกว่าอินทรีฮาสท์ ทำให้พวกมันสามารถกินเหยื่อบนพื้นดินได้โดยไม่ต้องกลัวถูกแย่งชิง ไม่เคยมีคนผิวขาวคนใดได้เห็น นกอินทรีฮาสท์คงมีเพียงชาวมาวรีเท่านั้นที่เคยเห็นมัน
“ชาวมาวรีเรียกนกอินทรีฮาสท์ว่า โปวาไก (Pouakai) ตามตำนานพื้นบ้านเล่าว่า มันจะเกาะอยู่บนยอดไม้ เมื่อมนุษย์เดินผ่าน มันจะพุ่งเข้าจู่โจมโดยใช้กรงเล็บจับที่ศีรษะ และเมื่อเหยื่อตายแล้วมันจะนำกลับไปที่รัง เมื่อดูจากกรงเล็บและขนาดของมัน ก็พอจะกล่าวได้ว่า ตำนานนี้ไม่เกินจริงนัก”
กระดูกของอินทรีฮาสท์ ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1871 ระหว่างการขุดค้นกระดูกนกโมอาที่บึงเกลมมาร์ก (Glemmark) ในแคนเทอร์บรี (Canterbury) จากนั้นได้มีการศึกษา และตั้งชื่อในปีต่อมา กระดูกของอินทรีฮาสท์ไม่ได้พบทั่วไป แต่มีอยู่เฉพาะในเกาะใต้และทางตอนใต้ของเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์เท่านั้น
และจากหลักฐานก็พอจะสรุปได้ว่าอินทรีฮาสท์สูญพันธุ์ไปเมื่อ 500 ปีก่อน สาเหตุของการสูญพันธุ์น่าจะเกี่ยวเนื่องกับการเข้ามาของชาวมาวรี ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ทั้งนี้เมื่อเหยื่อขนาดใหญ่อย่างนกโมอาถูกมนุษย์ล่า จึงทำให้นกอินทรีขาดแหล่งอาหาร
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่า ชาวมาวรีล่าอินทรีเหล่านี้เพื่อใช้ขนมาทำเสื้อเช่นกัน อย่างไรตามในช่วงปี 1800 มีผู้อ้างว่า ได้ยิงอินทรียักษ์สองตัว แม้ไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่ก็พอจะพูดได้ว่านั่นเป็นข่าวการพบเห็นครั้งสุดท้าย เพราะนับแต่นั้นมาก็ไม่เคยมีใครพบนกอินทรีชนิดนี้อีกเลย