สายสัมพันธุ์ของมนุษย์กับสุนัข ในยุโรปยุคก่อนประวัติศาสตร์

การวิจัยใหม่ได้พบว่าสุนัขโบราณที่เคยอาศัยอยู่ในเขตคอเคซัสของยุโรปเมื่อ 1.7 ล้านปีที่แล้ว พบว่าบริเวณนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคเริ่มแรกอีกด้วย และพวกมันอาจมีความใกล้ชิดกับมนุษย์มากกว่าที่คิดไว้

ฟอสซิลของสุนัขโบราณนี้กระจัดกระจายไปทั่ว ชิ้นส่วนหลักที่พบคือกระดูกกรามล่างที่ยังมีฟันครบสมบรูณ์ แต่มันก็เป็นหลักฐานมากพอสำหรับ Saverio Bartolini-Lucenti นักบรรพชีวินวิทยา จากมหาวิทยาลัยฟอเรน ประเทศอิตาลี

หลังจากการตรวจสอบซากของมัน ก็พบว่ามันจัดอยู่ในสายพันธุ์ Canis (Xenocuon) lycaondies มีอายุประมาณ 1.77 ถึง 1.76 ล้านปี มันถูกพบใกล้กับ เมือง Dmanisi ประเทศจอร์เจีย เป็นไปได้ว่านี่คือหลักฐานของ “สุุนัขล่าเหยื่อ” รุ่นแรกๆ ในยุโรป

แต่ถึงจะเรียกสิ่งนี้ว่าสุนัข แต่มันก็ไม่ใช่สุนัขแท้ๆ เพียงแต่มีรูปร่างคล้ายสุนัข ซึ่งเจ้า Canis นั้นใกล้เคียงกับหมาป่า หรือที่เรียกว่า Lycain มากกว่า พวกมันไม่มีความใกล้เคียงกับสุนัขบ้านเลยด้วยซ้ำ

การวิเคราะห์ฟันของมันพบว่ามีการสึกหรอน้อยมาก ทำให้คาดว่ามันยังไม่โตเต็มที่ แต่ก็มีขนาดใหญ่มาก คาดว่าตัวนี้จะมีน้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม มันเป็นขนาดเทียบเท่าหมาป่าสีเทาในปัจจุบัน ฟันที่ใหญ่และแหลมคมของมันออกแบบมาสำหรับหั่นและฉีกเนื้อ

Saverio Bartolini-Lucenti ได้ร่วมกับ Bienvenido Martinez Navarro จากมหาวิทยาลัย Rovira I Virgili ในสเปน คาดการณ์ว่าเจ้า Canis อาจจะเป็นบรรพบุรุษของหมาป่าแอฟริกาที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน และมีถิ่นอาศัยในเอเซียตะวันออก โดยหมาป่าแอฟริกามีใบหน้าที่สั้น ซึ่งเป็นลักษณะร่วมของหมาป่าโบราณที่สูญพันธุ์ไปแล้ว หาก Canis ใช้ชีวิตเหมือนหมาป่าในปัจจุบัน พวกมันน่าจะมีขาที่ยาวเหมาะกับการวิ่งไล่ล่าเหยื่อ

มันเป็นการค้นพบที่ดูสมบูรณ์ แต่ก็มีข้อสงสัย คอเคซัสเป็นจุดที่เรียกว่า “ประตูสู่ยุโรป” เนื่องจากเป็นจุดที่เชื่อมต่อทั้งแอฟริกาและเอเซีย ในขณะเดียวกัน หลักฐานฟอสซิลที่พบในจอร์เจียแสดงให้เห็นถึงการมีอยู่ของมนุษย์กลุ่มแรก เมื่อประมาณ 1.8 ล้านปีก่อน ซึ่งใกล้เคียงกับอายุของฟอสซิลสุนัขพวกนี้

“ Dmanisi เป็นสถานที่ที่น่าทึ่ง โดยพื้นฐานแล้วมันมีระบบนิเวศแบบเดียวกับที่แอฟริกา และยังเป็นจุดแยกของโลกเก่าและโลกใหม่ด้วย” นอกจากนั้น สุนัขพวกนี้ยังเป็นสัตว์สายพันธุ์ใหม่ที่น่าสนใจ พวกมันเป็นนักวิ่งที่ดี และยังอยู่ในห่วงโซ่อาหารระดับสูง เป็นระดับเดียวกับพวกสิงโต เสือดาว และไฮยีน่าอีกด้วย

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ เนื่องจากมนุษย์ยุคแรกนั้นอพยพจากแอฟริกาไปยังเอเซียและยุโรป พวกสุนัขป่าจะเดินทางแบบเดียวกัน แม้จะไปในทิศทางตรงกันข้าม มีความเป็นไปได้สูงด้วยว่าทั้งมนุษย์ยุคแรกและสุนัขป่าพวกนี้อาจจะร่วมมือกันเพื่อความอยู่รอด ซึ่งถ้าทฤษฏีนี้เป็นจริง นี่อาจจะเป็นสายสัมพันธุ์ระหว่างมนุษย์และสุนัขครั้งแรกก็เป็นได้

ด้าน Jaakko Pohjoismaki นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัย Eastern Finland คิดว่ามันเป็นการช่วยเหลือกันระหว่างสมาชิกของกลุ่มมากกว่า อย่างเช่นมนุษย์อาจจะล่าสัตว์และก็แบ่งซากให้พวกนี้กิน พวกสุนัขป่าจึงอยู่ใกล้ๆ มนุษย์ และยังคอยเตือนภัยเวลามีสัตว์อย่างหมี สิงโต เสือเขี้ยวดาบเข้ามาใกล้ได้อีกด้วย

“มนุษย์ยุคแรกและสุนัขป่าอาจอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงในช่วงเวลานั้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าสุนัขเหล่านี้จะอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์”

“ลองคิดดู หากผมถูกฝังที่นี่ในรัฐนอร์ธแคโรไลนา กระดูกของผมอาจจะถูกพบพร้อมกับกระดูกของหมีดำและแมวป่า แม้ว่าผมอาจไม่เคยเห็นสัตว์เหล่านี้อยู่ใกล้บ้านด้วยซ้ำ” เขาอธิบาย “การอยู่ร่วมกับสัตว์ไม่ได้หมายความถึงการมีปฏิสัมพันธ์กัน”

อันที่จริง ดูเหมือนว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่ทั้งสองสายพันธุ์นี้จะร่วมมือกัน และดูเหมือนว่ามนุษย์จะตกเป็นเหยื่อของสัตว์กินเนื้อพวกนี้ แต่มันก็มีความเป็นไปได้ที่น่าสนใจที่มนุษย์ยุคแรกมองดูออกว่าสิ่งมีชีวิตพวกนี้ จะกลายเป็นเพื่อนของมนุษย์ไปอีกนับหลายพันปีข้างหน้า

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements
Advertisements