ปลาเดวิลส์โฮล (Devils Hole Pupfish)
ต้องบอกว่าปลาชนิดนี้พิเศษมากจริงๆ เพราะมันเป็นปลาชนิดเดียวที่อาศัยใน “อุทยานแห่งชาติหุบเขามรณะ” (Death Valley National Park) ซึ่งเป็นพื้นที่แห้งแล้งที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และที่ใจกลางของหุบเขามรณะ เป็นที่ตั้งของ Devils Hole หรือหลุมปีศาจตั้งอยู่ มันเป็นที่ๆ ปลาเดวิลส์โฮลอาศัยอยู่
หลุมปีศาจ (Devils Hole) เป็นหลุมขนาดใหญ่และลึก จนถึงตอนนี้ยังเป็นปริศนาที่มนุษย์ยังไม่สามารถสำรวจได้หมด ด้วยความที่มันมีปลาเดวิลส์โฮลอาศัยอยู่ และเพื่อรักษาสภาพหลุมแห่งนี้เอาไว้ให้ดีที่สุด จนในปี 1984 อเมริกาจึงกำหนดให้บริเวณรอบๆ ของหลุมปีศาจ ซึ่งมีเนื้อที่เพียง 40 เอเคอร์ ให้เป็น National Wildlife Refuge (เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งชาติ)
หลุมปีศาจ อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 730 เมตร น้ำภายในหลุมมีอุณหภูมิคงที่ 32-33 °C พื้นที่ชั้นแรกมีขนาด 22 ม. x กว้าง 3.5 ม. และลึกประมาณ 0.3 ม. ที่ด้านหนึ่งของหลุมปีศาจ จะเป็นชั้นหินขนาด 3×5 เมตร ใช้เป็นที่อาศัยของปลาเดวิลส์โฮล มันเป็นที่หาอาหารและวางไข่ของปลาชนิดนี้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ปลา Devils Hole Pupfish เป็นปลาที่มีพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ขนาดเล็กที่สุดในบรรดาสัตว์มีกระดูกสันหลังทุกชนิดในโลก
ปลาเดวิลส์โฮล (Devils Hole Pupfish) เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แห้งแล้งที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีความยาวไม่เกิด 1 นิ้ว (2.5 ซม.) และจากการสำรวจคร่าวๆ มันมีน้อยกว่า 50 ตัว .. นี่หมายความว่าทั้งโลกอาจมีปลาชนิดนี้มีอย่างมากก็แค่ 50 ตัว พวกมันสามารถเติบโตได้แม้น้ำจะร้อนและขาดออกซิเจน
เนื่องจากปลาชนิดนี้เกิดและโตในหลุมปีศาจเท่านั้น และยังได้รับการอธิบายว่าหายากที่สุดในโลกอีกด้วย “ปลาชนิดนี้ได้รับการคุ้มครองให้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในปี 1967 และยังเป็นสัตว์สายพันธุ์แรกที่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติสงวนพันธุ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ฉบับดั้งเดิมของสหรัฐอเมริกา
แต่มันยังไม่พอจึงทำให้เกิดการคุ้มครองพิเศษเฉพาะปลาเดวิลส์โฮลขึ้น ด้วยการประกาศให้พื้นที่รอบๆ ทั้งหมดเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งชาติ ในปี 1984 ทั้งนี้เพื่อขจัดปัญหาที่มนุษย์ต้องการใช้ประโยชน์จากที่ดินแถบนั้น
ภาพบน..ปลาได้รับการปกป้องโดยรั้วหลายชั้น มีกล้องและเจ้าหน้าที่คอยจับตาดูตลอดเวลา เชื่อหรือไม่ว่าพวกเขาติดตั้งกล้องไว้ที่ใต้น้ำ ซึ่งถ่ายตลอดเวลาเช่นกัน
จากการป้องกันระดับนี้มันเลยได้ชื่อว่า “ปลาที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก” เข้ามาอีกตำแหน่ง นั้นเพราะมันถูกตัดขาดจากโลกภายนอก โดยรอบๆ หลุมปีศาจมีรั้วเหล็ก และรั้วลวดหนามอีกชั้น กล้อง และอุปกรณ์ป้องกันการบุกรุก ..เรียกว่าจัดเต็ม
คลิปการบุกรุก สุดท้ายจับได้และต้องติดคุก
ปลาเดวิลส์โฮลมาอยู่ในถ้ำได้ยังไง?
ผู้เชี่ยวชาญมักคิดว่ามันมาถึงที่แห่งนี้เมื่อหลายพันปีก่อน และพัฒนาเป็นสายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอย่างที่เห็นในปัจจุบัน แต่เมื่อไม่นานมานี้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับมรดกที่เป็นเอกลักษณ์และสถานะที่เป็นสัญลักษณ์ของปลา บางคนเชื่อว่าเป็นเป็นชาวอินเดียพื้นเมืองที่อาจนำปลาไปที่ถ้ำเมื่อนานมาแล้ว
แต่ตอนนี้มีคำตอบจากการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Molecular Ecology โดยทีมนักวิจัยของสหรัฐอเมริกานำโดย Ismail Saglam และ Michael Miller จาก University of California , Davis, US
พวกเขาตรวจสอบประวัติทางพันธุกรรมของปลาเดวิลส์โฮล (Devils Hole Pupfish) นำไปเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกันอีกสองสายพันธุ์คือ Owens pupfish ( C. radiosus ) และ Ash Meadows Amargosa pupfish ( C. nevadensis mionectes ) เพื่อดูว่าพวกมันแตกต่างกันในช่วงไหน
เมื่อพวกเขาตรวจสอบ ก็เกิดเรื่องประหลาดใจที่ได้รู้ว่าปลาเดวิลส์โฮล แยกตัวออกจากสายพันธุ์อื่นเมื่อ 50,000-80,000 ปีก่อน มันเป็นเวลาเดียวกับที่หลุมปีศาจปรากฏตัวในทะเลทรายเมื่อ 50,000-60,000 ปีก่อน “นักวิจัยกล่าวว่าปลาเดวิลส์โฮล มาอยู่ในถ้ำและมีชีวิตรอดในหลุมปีศาจ นับตั้งแต่ที่หลุมเปิดสู่โลกภายนอก”
การค้นพบใหม่นี้ได้ยืนยันถึงความหายากและสถานะที่เป็นสัญลักษณ์ของปลาที่รอดชีวิต จากการแยกตัวจากโลกโดยสิ้นเชิงเป็นเวลาถึง 60,000 ปี “ทุกวันนี้ประชากรปลาเดวิลส์โฮล กำลังใกล้จะสูญพันธุ์โดยมีจำนวนลดลงเหลือไม่กี่สิบตัว จากประมาณ 400 ตัวในปี 1970”
ในขณะที่มนุษย์ต้องการน้ำจืดในภูมิภาคนี้และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยเช่นกัน มันเป็นการคุกคามที่อยู่อาศัยของพวกมัน หากเราไม่ทำอะไรเพื่อพวกมัน ในอนาคตปลาหรือแม้แต่ถ้ำก็อาจหายไป