เรื่องราวที่แปลกประหลาดนี้ เริ่มต้นด้วยสองสายพันธุ์ ฮันนี่แบดเจอร์และเหยี่ยวที่ดูเหมือนกำลังตามหาอะไรบางอย่าง “ทันใดนั้น! ฮันนี่แบดเจอร์ก็เริ่มขุดดิน”
“มันลากงูเห่าสีเหลือง (Cape cobra) ขนาดใหญ่ออกมาจากรู แล้วมันก็ลากไปกินหลังพุ่มไม้ จากนั้นมันก็กลับออกมาเพื่อขุดอีกครั้ง แล้วก็ดึงงูเห่าออกมาอีกตัวหนึ่ง แต่คราวนี้งูเห่ากัดมันเต็มๆ มันจึงตกใจจนปล่อยงูและงูก็หายเข้าไปในรู” ส่วนฮันนี่แบดเจอร์ก็ถอยออกไป
แม้ว่าการกัดจากงูเห่าจะเป็นอันตรายถึงตาย โดยเฉพาะกับสัตว์ขนาดเล็กอย่างฮันนี่แบดเจอร์ แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นอะไร เพราะหลังจากนั้นเพียง 3 ชั่วโมง ฮันนี่แบดเจอร์ตัวเดิมก็ถูกพบว่ากำลังขุดรูเพื่อจับงูเห่าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับมัน ..แน่นอนว่ามันยังคงมีเหยี่ยวติดตามมา
ถึงงูเห่าชนิดนี้จะเป็นนักล่าที่น่ากลัว แต่มีสัตว์เพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถจับคู่กับความดุร้ายของฮันนี่แบดเจอร์ได้ และนี่เป็นรอบที่แพ้สำหรับทีมงู พวกมันใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนพื้น ที่ซึ่งฮันนี่แบดเจอร์ผู้หิวโหยสามารถเข้าไปหาพวกมันได้ แถมมันยังไม่กลัวพิษงูเห่าอีกด้วย
หลังจากล่างูเห่าของฮันนี่แบดเจอร์ผ่านไปได้ไม่นาน สมาชิกอีกตัวก็มาถึง มันคือหมาจิ้งจอกหลังดำ มันเป็นนักล่าที่เก่งและสามารถล่าด้วยตัวเองได้ แต่มันชอบที่จะฉวยโอกาศมากกว่า และเหยื่อของฮันนี่แบดเจอร์ก็เป็นเป้าหมายของมัน นั้นเพราะฮันนี่แบดเจอร์เป็นสัตว์ที่สัตว์กินเนื้อที่เลอะเทอะและมักทิ้งสิ่งเล็กน้อยไว้เบื้องหลังให้นกและหมาจิ้งจอกกินเสมอ
ทั้งจิ้งจอกและเหยี่ยวจะไม่เข้าแย่งเหยื่อจากฮันนี่แบดเจอร์โดยตรง นั้นเพราะพวกมันอาจกลายเป็นเหยื่อซะเอง ดูเหมือนว่าการเฝ้ารอจะฉลาดกว่า เพราะฮันนี่แบดเจอร์จะไม่สนใจอะไรนอกจากอาหารที่มันกินอยู่ ตราบเท่าที่ไม่ถูกรบกวนโดยตรง และหากจิ้งจอกและเหยี่ยวอดทนมากพอ มันจะได้เศษอาหารกินโดยไม่ต้องออกแรงมากนัก