เกาะงูคลั่งคืออะไร?
เกาะแห่งมีชื่อว่า Ilha da Queimada Grande ซึ่งเป็นภาษาโปรตุเกส สำหรับเกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งของเซาเปาโลประเทศบราซิลประมาณ 33 กิโลเมตร
ตัวเกาะมีพื้นที่ประมาณ 430,000 ตารางเมตร (110 เอเคอร์) จึงถือเป็นเกาะที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก โดยบนเกาะมีที่พักเล็กๆ สำหรับเจ้าหน้าที่และประภาคารซึ่งสร้างเอาไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2452 เพื่อใช้นำทางเรือเข้าและออกจากเกาะ แต่ในตอนนี้ประภาคารไม่ได้ถูกใช้งานแล้ว
ส่วนสภาพโดยรวมของเกาะจะปกคลุมไปด้วยป่าฝน บางส่วนจะเป็นโขดหินและพื้นที่โล่งที่เป็นทุ่งหญ้า ซึ่งในอดีตมันเกิดจากการตัดไม้ทำลายป่า สิ่งมีชีวิตอยู่บนเกาะคือ แมลง และนกซึ่งมากมากกว่า 41 สายพันธุ์ โดยนกส่วนใหญ่จะเป็นนกอพยพ แต่บางชนิดพบได้เฉพาะบนเกาะ
อย่างไรก็ตามเกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องงู เคยมีการประเมินประชากรงูที่อยู่บนเกาะเอาไว้ที่ 430,000 ตัว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เท่ากับพื้นที่เกาะเลยทีเดียว แต่การประเมินล่าสุดนั้นต่ำกว่ามาก โดยงูส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ป่าฝนของเกาะ บริเวณที่โล่งแทบจะไม่มีงู
และแม้ว่าจะมีอันตรายจากงูเต็มไปหมด แต่ก็มีคนที่อยากขึ้นเกาะแห่งนี้อยู่ดี แต่จะมีเพียงผู้ที่ได้รับอนุญาติเท่านั้นจึงจะขึ้นไปได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักวิจัยที่กำลังศึกษาระบบนิเวศที่เป็นเอกลักษณ์ของเกาะ และอีกกลุ่มคือพวกโจรสลัดสมัยใหม่ที่แอบขึ้นเกาะ ..โจรพวกนี้ยอมเสี่ยงชีวิตขึ้นเกาะก็เพื่อนำเอา “สมบัติ” ที่มีชีวิตออกจากเกาะ
ทำไมโจรจึงต้องการงูจากเกาะงูคลั่ง
ง่ายๆ เลย เพราะบนเกาะแห่งนี้ มีงูที่ชื่อว่า โกลเด้นแลนซ์เฮด (Golden Lancehead) อาศัยอยู่ และเป็นที่แห่งเดียวบนโลกที่จะพบงูชนิดนี้ได้ โดยโกลเด้นแลนซ์เฮด มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า โบธรอป อินซูลาริส (Bothrops Insularis) เป็นงูพิษที่มีความยาวประมาณ 1.5 เมตร และความจริงมันเป็นหนึ่งในงูพิษร้ายแรงที่สุดในโลก มันมีพิษร้ายแรงกว่างูบนแผ่นดินใหญ่ถึง 5 เท่า ประกอบกับงูชนิดนี้มีไม่ถึง 5 พันตัวบนเกาะ มันจึงมีค่ามาก
สำหรับสาเหตุที่งูชนิดนี้มีพิษร้ายแรงมาก เพราะว่าเกิดจากการวิวัฒนาการเฉพาะของพวกมัน งูชนิดนี้อาศัยอยู่บนเกาะที่ขาดแคลนอาหาร แถมอาหารของมันส่วนใหญ่จะบินได้ ด้วยเหตุนี้ โกลเด้นแลนซ์เฮดจึงเป็นงูที่อาศัยอยู่บนต้นไม้เป็นหลัก
และพิษของมันก็ต้องรุนแรงพอที่จะหยุดหรือฆ่าได้ในทันทีที่กัด นั้นหมายความว่า พิษของโกลเด้นแลนซ์เฮดนอกจากจะรุนแรงแล้ว ยังออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็วมาก มันจะหลอมละลายเนื้อบริเวณรอบๆ รอยกัดอย่างรวดเร็ว …การโดนงูชนิดนี้กัดจึงเป็นฝันร้ายอย่างแน่นอน
และด้วยจำนวนที่น้อย จึงทำให้พวกมันอยู่ในสถานะ “เสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์” ประกอบกับค่าตัวของงูชนิดนี้ในตลาดมืดที่แพงประมาณ 30,000 ดอลลาร์ หรือ 1 ล้านบาทต่อตัว และเป็นข่าวดีสำหรับพวกโจรคือ งูพวกนี้มีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ มันจึงตกเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งสำหรับโจรใจกล้า
ความสวยไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้งูชนิดนี้แพง แต่เป็นความหายากกับพิษที่รุนแรงของมัน ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในด้านเภสัชกรรมและวิทยาศาสตร์ ลือกันว่าพิษของงูชนิดนี้มีความพิเศษ สามารถใช้ในวัตถุประสงค์ด้านสุขภาพที่หลากหลาย เช่น การวิจัยโรคมะเร็ง สุขภาพหัวใจ และอื่นๆ ซึ่งพิษของงูชนิดอื่นไม่สามารถทำได้ ด้วยเหตุนี้บริษัทยายอมจึงจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อให้ได้มา
อย่างไรก็ตามเกาะแห่งนี้เป็นดังขุมสมบัติสำหรับประเทศบราซิล มันเต็มไปด้วยงูพิษที่สามารถใช้วิจัย พิษทุกหยดมีราคาแพง การเยี่ยมชมเกาะแห่งนี้แบบถูกกฎหมายสำหรับนักท่องเที่ยวนั้นเกือบเป็นไปไม่ได้ สำหรับนักวิจัยต้องได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจากรัฐบาลบราซิลเท่านั้น ความจริงยังมีแมลงที่แปลกประหลาดอยู่ด้วยแต่สิ่งนี้ไม่ได้รับการเปิดเผย