13 ปลาน้ำจืดไทย ดูไว้จะได้ไม่เสี่ยงผิดกฎหมาย

รู้หรือไม่ว่าในประเทศ มีสัตว์ที่อยู่ในรายชื่อ "สัตว์ป่าคุ้มครอง" มากกว่า 1,300 ชนิด แต่มีปลาเพียง 14 ชนิดเท่านั้นที่ได้รับการคุ้มครอง โดยแบ่งเป็นปลาน้ำจืด 13 ชนิด และ ปลาทะเลอีก 1 ชนิด ส่วนสัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองมากที่สุดก็คือ “นก” ต่อไป เรามาดูกันว่า ปลาน้ำจืด 13 ชนิดที่ว่ามีอะไรบ้าง ลืมบอกไปอีกอย่างคือ ปลาบางชนิดในนี้สามารถหาซื้อมาเลี้ยงได้นะครับ แต่ก็ต้องมีขั้นตอนการข้ออนุญาติอยู่บ้าง ยังไงก็ลองสอบถามจากผู้ขายก่อนซื้อมาเลี้ยงด้วย และนอกจากปลาน้ำจืดที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองแล้ว ยังมีปลาน้ำจืดที่เป็นสัตว์ป่าควบคุมอีก ซึ่งท่านผู้ชมสามารถกดดูได้ที่ลิงค์ท้ายเรื่อง …ถ้าดูแล้วชอบก็อย่าลืมกดติดตาม กดกระดิ่ง หรือหากต้องการสมัครสมาชิกก็ทำได้เช่นกัน

ชนิดที่ 1 – ปลาจาดถ้ำ (Poropuntius speleops)

Advertisements

ปลาจาดถ้ำ (Cave Poropuntius) เป็นปลาน้ำจืด จัดเป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของประเทศไทย พบได้ในลำธารใต้ถ้ำที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น

ชนิดที่ 1 – ปลาจาดถ้ำ (Poropuntius speleops)

โดยปลาจาดถ้ำจะแตกต่างจากป ลาจาดที่อยู่ภายนอกมาก แต่ก็เป็นเช่นเดียวกับปลาถ้ำชนิดอื่นๆ คือพวกมันไม่มีดวงตา ลำตัวมีชมพูหรือเผือก และถึงจะเป็นปลาจาด แต่พวกมันเกือบจะไม่มีเกล็ดเหลืออยู่เลย สำหรับขนาดของปลาชนิดนี้จะอยู่ที่ประมาณ 20 เซนติเมตร … เป็นปลาที่อยู่ในสถานะไม่มั่นคง

ชนิดที่ 2 – ปลาพลวงถ้ำ (Neolissochilus subterraneus)

ปลาพลวงถ้ำ เป็นปลาน้ำจืด จัดเป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของประเทศไทย ซึ่งพบได้แห่งเดียวในโลกคือ ที่ถ้ำพระวังแดง อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก เป็นปลาที่มีรูปร่างคล้ายกับปลาพลวง (N. stracheyi) ซึ่งอยู่ในสกุลเดียวกัน แต่จะมีตาที่เล็กและมีหนังบางๆ คลุมอยู่ เกล็ดมีขนาดใหญ่และยังบางกว่าปลาพลวง ลำตัวมีสีขาวซีดอมชมพู ในปลาขนาดเล็กจะตาโตกว่าและมีลำตัวสีเงินจาง

ชนิดที่ 2 – ปลาพลวงถ้ำ (Neolissochilus subterraneus)

ปลาขนาดเล็กจะชอบหากินอยู่บริเวณปากถ้ำ ในขณะที่ปลาใหญ่จะเข้าไปลึกกว่า ทั้งนี้ก็เพื่อกินอินทรียสารจากมูลค้างคาว เป็นปลาที่ยาวได้ประมาณ 30 เซนติเมตร ซึ่งเป็นปลาถ้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็โดนแย่งตำแหน่งไปโดย ปลาถ้ำที่เพิ่งค้นพบในถ้ำอุมลาดอว์ (Um Ladaw Cave) ประเทศอินเดีย เพราะตัวนั้นยาวมากกว่า 30 เซนติเมตร… เป็นปลาที่อยู่ในสถานะไม่มั่นคง

ชนิดที่ 3 – ปลาผีเสื้อถ้ำ (Cryptotora thamicola)

ปลาผีเสื้อถ้ำ (Waterfall climbing cave fish) เป็นปลาน้ำจืด จัดเป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของประเทศไทย พบอาศัยอยู่ในถ้ำบางแห่งในเขตอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นปลามีพฤติกรรมเกาะติดอยู่กับหิน บริเวณแก่งหรือน้ำตกที่ไหลแรง จนดูเหมือนมันจะชอบปีนกำแพง

ชนิดที่ 3 – ปลาผีเสื้อถ้ำ (Cryptotora thamicola)
Advertisements

ปลาผีเสื้อถ้ำเป็นปลาขนาดเล็ก ที่ยาวได้ประมาณ 3 เซนติเมตร มันไม่มีดวงตา ลำตัวสีชมพูหรือขาวและมีครีบที่ใหญ่มาก จะอาศัยอยู่ในส่วนลึกของถ้ำ อย่างน้อยต้องลึก 500 เมตรจากทางเข้า ชอบอยู่ในบริเวณที่น้ำไหลแรง อาศัยกินจุลินทรีย์และสารอินทรีย์ของถ้ำ … เป็นปลาที่อยู่ในสถานะไม่มั่นคง

ชนิดที่ 4 – ปลาค้อถ้ำ (Nemacheilus troglocataractus)

Advertisements

ปลาค้อถ้ำ หรือ ปลาค้อถ้ำวังบาดาล (Blind cave loach) เป็นปลาน้ำจืด จัดเป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของประเทศไทย พบอาศัยอยู่ในลำธารภายในถ้ำวังบาดาล อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เพียงแห่งเดียว พวกมันไม่มีดวงตาลำตัวไม่มีสี และยาวได้ประมาณ 7 เซนติเมตร … เป็นปลาที่อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤต

ชนิดที่ 4 – ปลาค้อถ้ำ (Nemacheilus troglocataractus)

ชนิดที่ 5 – ปลาค้อตาบอด (Schistura oedipus)

ปลาค้อตาบอด เป็นปลาน้ำจืดและเป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของประเทศไทย มีความยาวประมาณ 5 เซนติเมตร พบในระบบถ้ำในอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดเป็นหนึ่งในปลาถ้ำที่มีขนาดเล็กที่สุดที่พบในประเทศไทย

เป็นปลาที่ไม่มีดวงตาและไม่มีสี ชอบอาศัยอยู่ในลำธารถ้ำที่น้ำไหลเร็วมาก ซึ่งจะค่อยกินจุลินทรีย์และสารอินทรีย์ เป็นปลาที่มีความไวต่อการรบกวนสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำ …เป็นปลาที่อยู่ในสถานะไม่มั่นคง

ชนิดที่ 5 – ปลาค้อตาบอด (Schistura oedipus)
Advertisements

ชนิดที่ 6 – ปลาค้อจารุธานินธร์ (Schistura jaruthanini)

ปลาค้อจารุธานินธร์ เป็นปลาน้ำจืดที่มีความยาวประมาณ 7 เซนติเมตร เป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของประเทศไทย พบที่ถ้ำคลองงู อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นปลาที่ถูกพบโดยคุณกิตติพงษ์ จารุธาณินทร์ นักสำรวจ นักกฎหมาย และนักเลี้ยงปลาสวยงามที่มีชื่อเสียงชาวไทย …เป็นปลาที่อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤต

ชนิดที่ 6 – ปลาค้อจารุธานินธร์ (Schistura jaruthanini)

ชนิดที่ 7 – ปลาค้อถ้ำพระวังแดง (Schistura spiesi)

Advertisements

ปลาค้อถ้ำพระวังแดง เป็นปลาน้ำจืดที่ยาวได้ประมาณ 13 เซนติเมตร ลักษณะลำตัวค่อนข้างป้อม สีเนื้ออมชมพูและเหลืองอ่อน มีดวงตาที่เล็กมากและมีปากที่หนา เป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของประเทศไทย พบในถ้ำพระวังแดง อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก และจะอาศัยอยู่ในส่วนลึกของถ้ำ ตั้งแต่ 100 เมตรขึ้นไป … เป็นปลาที่อยู่ในสถานะไม่มั่นคง

ชนิดที่ 7 – ปลาค้อถ้ำพระวังแดง (Schistura spiesi)

ชนิดที่ 8 – ปลาค้อถ้ำพระไทรงาม (Schistura deansmarti)

ปลาค้อถ้ำพระไทรงาม (Smart’s Blind Cave Loach) เป็นปลาน้ำจืดที่ยาวประมาณ 15 เซนติเมตร เป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของประเทศไทย พบในถ้ำพระไทรงาม อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก

ปลามีลักษณะคล้ายกับปลาค้อทั่วไป แต่จะมีลำตัวสีชมพูเทาๆ และดูโปร่งแสงจนเกือบจะเห็นอวัยวะภายใน มีปากที่เล็ก ปากบนและปากล่างจะมีหนวดอย่างละ 2 เส้น ตาเล็กมากและจมอยู่ภายในหัว ชอบอาศัยอยู่ตามซอกหิน ซึ่งจะคอยจับแพลงก์ตอนหรือปรสิตที่อยู่ในถ้ำกิน …เป็นปลาที่อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤต

ชนิดที่ 8 – ปลาค้อถ้ำพระไทรงาม (Schistura deansmarti)
Advertisements

ชนิดที่ 9 – ปลาชะโอนถ้ำ (Pterocryptis buccata)

ปลาชะโอนถ้ำ (Cave sheatfish) เป็นปลาน้ำจืดที่พบได้เฉพาะในประเทศไทย อาศัยอยู่ในถ้ำวังบาดาล อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งลักษณะของปากถ้ำจะเป็นช่องเขาขนาดเล็กที่อยู่บนเขา และวนลึกลงไปจนถึงระดับน้ำด้านล่าง ซึ่งจะเป็นแอ่งน้ำขนาดประมาณสนามเทนนิส

ปลาชะโอนถ้ำจะมีขนาดประมาณ 20 เซนติเมตร ลำตัวมีสีขาวเผือก ดวงตามีขนาดเล็กและเป็นสีแดง เป็นปลาที่หายากมาก ตามข้อมูล ในปี พ.ศ. 2545 ได้มีคณะสำรวจชาวไทยเข้าไปในถ้ำ และจับปลากลับมาได้ประมาณ 10 ตัว จากนั้นก็ไม่มีรายงานการพบปลาชนิดนี้อีก แม้จะมีการสำรวจอีกหลายครั้งก็ตาม …เป็นปลาที่อยู่ในสถานะข้อมูลไม่เพียงพอ

ชนิดที่ 9 – ปลาชะโอนถ้ำ (Pterocryptis buccata)

ชนิดที่ 10 – ปลาตะพัด หรือ ปลาอโรวาน่า (Scleropages formosus)

ปลาตะพัด หรือ ปลาอโรวาน่า (arowana) เป็นหนึ่งในปลาที่มีราคาแพงที่สุดในโลก จัดได้ว่าเป็นซากดึกดำบรรพ์มีชีวิตชนิดหนึ่ง และเป็นปลาที่ใกล้สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ โดยเฉพาะตะพัดสายพันธุ์ไทยนั้นสูญพันธุ์ไปแล้ว

ในอดีตปลาชนิดนี้ อาศัยอยู่ในแม่น้ำที่มีสภาพใสสะอาด มีนิสัยค่อนก้าวร้าว ขี้ตกใจ ยาวได้ประมาณ 90 เซนติเมตร พบได้ในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา โดยปลาในแต่ละแหล่งน้ำจะมีสีสันแตกต่างหลากหลายกันออกไป …แต่ในปัจจุบันพบพวกมันได้ในฟาร์มและในตู้ปลาทั่วโลก

ชนิดที่ 10 – ปลาตะพัด หรือ ปลาอโรวาน่า (Scleropages formosus)

ชนิดที่ 11 – ปลาติดหิน หรือ ปลาค้างคาว (Oreoglanis siamensis)

ปลาติดหิน หรือ ปลาค้างคาว และชนิดที่เรารู้จักกันดีก็คือ ปลาค้างคาวดอยอินทนนท์ (Siamese freshwater batfish) เป็นปลาน้ำจืดเฉพาะถิ่นของประเทศไทย ที่พบได้เฉพาะในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น และจะพบได้ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตรขึ้นไป

โดยปลาชนิดนี้ถือเป็นปลาต้นแบบ ของปลาในสกุลปลาค้างคาว หรือ ปลาติดหิน ที่เรียกว่า Oreoglanis (/ออ-รี-โอ-แกลน-อิส/) โดยปลาในสกุลนี้ที่พบในไทยมีอย่างน้อย 8 ชนิด

ชนิดที่ 11 – ปลาติดหิน หรือ ปลาค้างคาว (Oreoglanis siamensis)

เป็นปลาความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร มีลักษณะที่แตกต่างไปจากปลาหนังชนิดอื่น ตรงที่ครีบหลังและครีบอกไม่มีก้านแข็ง ลำตัวเรียวยาวหัวและอกแบนราบ มีหนวด 4 คู่ ปากมีขนาดเล็กอยู่ด้านล่าง ครีบอกและริมฝีปากมีลักษณะคล้ายถ้วยดูด ใช้สำหรับดูดเกาะติดกับกรวดหินในน้ำ ลำตัวมีสีน้ำตาลอมเขียว …เป็นปลาที่อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์

ชนิดที่ 12 – ปลาเสือตอลายใหญ่ (Datnioides pulcher)

สำหรับ ปลาเสือตอลายใหญ่ (Siamese tigerfish) ซึ่งเคยพบอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะในบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ได้สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติแล้ว บางทีที่เห็นในตู้ปลาก็อาจไม่ใช่ปลาเสือตอลายใหญ่ไทยก็เป็นได้ แต่เป็นปลาที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน …ส่วนรายละเอียดของปลาชนิดนี้ผมได้อธิบายไว้ยาวมากๆ ยังไงก็ขอให้ไปกดดูได้ที่ลิงค์

ชนิดที่ 12 – ปลาเสือตอลายใหญ่ (Datnioides pulcher)

ชนิดที่ 13 – ปลาหมูอารีย์ (Ambastaia sidthimunki)

ปลาหมูอารีย์ เป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็ก มีลักษณะแบนข้าง ลำตัวเรียวยาวเล็กน้อย มีสีเหลืองสด หลังและกลางลำตัวมีแถบสีดำพาด และมีบั้งสีดำพาดลงมาจากสันหลังถึงด้านท้อง มีหนวด 3 คู่ มีความยาวเต็มที่ไม่เกิน 10 เซนติเมตร แต่โดยทั่วไปยาวแค่ 3 เซนติเมตร

ชนิดที่ 13 – ปลาหมูอารีย์ (Ambastaia sidthimunki)

เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในลุ่มแม่น้ำแม่กลอง ในเขตจังหวัดราชบุรีจนถึงรอยต่อจังหวัดกาญจนบุรี โดยปลาหมูอารีย์เป็นปลาที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นปลาหมูชนิดที่มีสีสันสวยงามมากที่สุด และมันก็เสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์เช่นกัน แต่โชคยังดีที่ในตอนนี้สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้แล้ว แน่นอนว่าพบพวกมันได้ในตลาดปลาสวยงาม

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements