ข้อมูลปลาซีลาแคนท์
ซีลาแคนท์ (Coelacanth) เป็นชื่อสามัญของปลาออร์เดอร์หนึ่งที่รวมถึงสายพันธุ์ของปลาในปัจจุบันที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่รู้จักในปัจจุบันพวก Gnathostomata นักวิทยาศาสตร์เคยเชื่อว่า ปลาซีลาแคนท์มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับปลาปอดและเตตราพอดที่เคยเชื่อกันว่าสูญพันธุ์ไปเมื่อครั้งสิ้นสุดยุคครีเทเชียส
จนกระทั่งมีการพบปลา แลติเมอเรีย ครั้งแรกที่นอกชายฝั่งด้านตะวันออกของแอฟริกาใต้เลยแม่น้ำชาลัมนาออกมาในปี ค.ศ. 1938 และปลาเหล่านั้นจึงเป็นพวกลาซูรัส
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1938 เป็นต้นมา ปลาซีลาแคนท์ Latimeria chalumnae ก็มีการถูกค้นพบในคอโมโรส เคนยา แทนซาเนีย โมซัมบิก มาดากัสการ์ และในอุทยานป่าชุ่มน้ำซิแมงกาลิโส กวาซูลู-นาทัล ในแอฟริกาใต้
สายพันธุ์ที่สอง Latimeria menadoensis พบที่เกาะซูลาเวซี อินโดนีเซีย ในปี ค.ศ. 1999 ทำให้ทราบว่าปลาซีลาแคนท์ไม่มีปอดและมีโครงสร้างที่ไม่เกี่ยวข้องกับเตตราพอดแต่อย่างใด
ปลาซีลาแคนท์ไม่มีคุณค่าทางการค้าอย่างแท้จริงนอกเสียจากจะแปรสภาพเป็นวัตถุจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์และการเก็บสะสมส่วนตัว ในแง่ของการเป็นอาหารแล้ว ปลาซีลาแคนท์เกือบไม่มีค่าเอาเสียเลยด้วยเนื้อเยื่อของมันมีน้ำมันไหลซึมออกมาแม้ว่าจะตายไปแล้วก็ตาม และเนื้อของมันทั้งเหนียวและมีกลิ่นเหม็นด้วย (โชคดีที่ไม่อร่อย)
เรื่องน่ารู้ของซีลาแคนท์
- ซีลาแคนท์เป็นปลากระดูกแข็งต่างจากปลายุคปัจจุบัน
- อายุเฉลี่ยของพวกมันคือประมาณ 48 ปี แต่ซีลาแคนท์ที่เคยพบมีอายุยาวนานถึง 100 ปี และมีความยาว 1.7 เมตร
- เกล็ดของซีลาแคนท์เรียกว่าเกล็ดแบบ คอสมอยด์ (Cosmoid) มีลักษณะหยาบ และขรุขระ
- พวกมันออกลูกเป็นตัว และมีเวลาตั้งท้องนาน 13 เดือน ในการออกลูก 1 ครั้งจะได้ซีลาแคนท์ตัวน้อย 5 – 29 ตัว
- ซีลาแคนท์มีพฤติกรรมที่เชื่องช้า เพื่อประหยัดพลังงานและอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ยกเว้นเวลาล่าเหยื่อ
- เราสามารถพบซีลาแคนท์ได้ที่ระดับความลึก 120 – 320 เมตรตามถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมัน
สาเหตุที่ซีลาแคนท์ยังไม่สูญพันธุ์
เนื่องจากซีลาแคนท์เป็นปลาขนาดใหญ่เพียงชนิดเดียวที่สามารถอาศัยอยู่ในทะเลลึก ดังนั้นมันจึงถูกจัดเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารในสภาพแวดล้อมอย่างนั้นทำให้มันไม่มีผู้ล่า
นอกจากนี้สภาพแวดล้อมใต้ทะเลลึกยังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงบนผิวโลกค่อนข้างน้อย ทำให้พื้นที่อยู่อาศัยของพวกมันนั้นแทบไม่ต่างไปจาก 400 ล้านปีก่อนเลย
หรือจะเป็นปลาที่รอการล่มสลาย
400 ล้านปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ซีลาแคนท์ดำรงชีวิตมาได้ในธรรมชาติ แต่เมื่อมันถูกค้นพบว่ายังคงมีอยู่เท่านั้นแหละครับ มนุษย์ก็แห่แหนกันไปค้นคว้าวิจัย พากันไปอนุรักษ์สายพันธุ์ ออกก็กฎหมายห้ามจับ บลาๆ แต่ทว่าสิ่งที่พวกเรากำลังทำกลับกลายเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าในโลกนี้ยังมีปลาโบราณหายาก ที่มีคุณค่าในการสะสมเพิ่มขึ้นอีก 1 ชนิด
ดังนั้นพวกมันจึงตกเป็นเป้าหมายในการล่าเพื่อการค้าเอากำไร (แน่นอนว่าพวกลักลอบล่าสัตว์สงวนนั้นมีอยู่ทุกมุมโลก) ปลาสายพันธุ์โบราณอันส่งคุณค่า กลายมาเป็นของสต๊าฟของเศรษฐี เกล็ดของมันถูกนำมาทำเครื่องประดับ และการฆ่าโดยไม่ตั้งใจจากการใช้อวนหรือเครื่องมือจับสัตว์น้ำ
เมื่อหนังสืออนุรักษ์แปรเปลี่ยนเป็นแคตาล็อกสะสมสัตว์หายาก ทำให้ในปัจจุบันปลาซีลาแคนท์ลดจำนวนลงเหลือเพียงแค่ราว 1,000 ตัวเท่านั้นภายในเวลาไม่ถึง 100 ปี
ช่วงเวลาที่พวกมันดำรงชีวิตสืบมากว่า 400 ล้านปีนั้นจะถูกพวกเราเหล่ามนุษย์ลบสายพันธุ์ให้หายไปจากโลกนี้จริงๆ หรือ? คือถามก็คือมนุษย์มีสิทธิ์มากมายถึงขนาดชี้เป็นชี้ตายให้กับสายพันธุ์อื่นๆ ได้หรือไม่? เมื่อในปัจจุบันมนุษย์ทำลายสมดุลย์ธรรมชาติไปมากมาย แล้วจะร้องไห้ฟูมฟายเมื่อถูกธรรมชาติเอาคืน ?
สุดท้ายนี้ผมขอแค่ทุกคนที่บทความของผมจะส่งไปถึงหันมาใส่ใจกับธรรมชาติ กับโลกใบนี้ ไม่ใช่เพื่อเวลา 100 ปีที่เราจะยังหายใจ แต่ขอให้รักษาสืบไปเพื่อลูกหลานของเรา