Xenodermus หรือ Dragon Snake หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ “งูขอนท้องขาว” เป็นงูขนาดเล็ก มีความยาวประมาณ 20 นิ้ว อายุขัยประมาณ 8-10+ ปี มันมีเอกลักษณ์พิเศษที่มีเกล็ดยกสูงตลอดลำตัวคล้ายมังกร จนเป็นที่มาของชื่อ “งูไม่มีพิษ” มีความสันโดษมาก จึงไม่เหมาะที่เอามาจับเล่น เครียดง่าย หากถูกก่อกวนมาก มันอาจทำตัวแข็งเป็นหินและอาจถึงกับไม่ยอมกินอาหารเลย
ถิ่นกำเนิดของ Dragon snake คือ คาบสมุทรมลายู ( มาเลเซีย, ภาคใต้ของไทย พม่า ) และบางส่วนของหมู่เกาะซุนดา โดยในธรรมชาติมันจะอาศัยในพื้นที่ชื้นใกล้น้ำ รวมทั้งป่าไม้ หนองบึง นาข้าว ที่ระดับความสูงต่ำกว่า 1,300 เมตร แต่โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ระหว่าง 500–1,100 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
เป็นงูที่เลี้ยงยาก ..?
ความจริงถือว่ายาก หากมองจากความต้องการของงูในสภาพกักขัง ทั้งเป็นงูที่ต้องการอุณหภูมิที่เหมาะสม และความชื้นที่สูงมาก ทั้งสองอย่างนี้ ถือว่าทำได้ยากสำหรับประเทศไทย
ตามข้อมูลได้เขียนไว้ว่า “Dragon Snake ไม่ต้องการความร้อนจากภายนอก แต่มันต้องการอยู่ในห้องที่ ควบคุมอุณหภูมิระหว่าง 75-77°F (23.9-25.0°C) และยังต้องรักษาระดับความชื้นไว้ที่ 90%+”
โดยธรรมชาติมันเป็นงูที่ชอบดิน และใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ใต้ดินที่มีความชื้นสูง แต่ในกรณีเลี้ยง มีการแนะนำให้ใช้ Hide box แบบผิวขรุขระตกแต่งด้วย โดยใช้วัสดุรองพื้นที่เก็บความชื้นและง่ายต่อการทำความสะอาด อาจเป็นพวกมอส ซึ่งจะช่วยให้พื้นเปียกตลอดเวลา และควรพ่นน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาความชื้น หรืออาจต้องปรึกษาคนขายให้ดี
อย่างที่เห็นมันต้องการ อุณหภูมิระหว่าง 75-77°F (23.9-25.0°C) จากประสบการณ์เลี้ยงสัตว์ที่ต้องการอุณหภูมิค่อนข้างเย็น ทางเดียวที่จะเลี้ยงงูชนิดนี้ได้ คือต้องเป็นห้องแอร์ที่เปิด 24 ชั่วโมง หากไม่ได้ตามนี้อย่างดีอาจเลี้ยงถูๆ ไถๆ ไปได้ แต่งูอาจเกิดเครียดสะสมจนสุดท้ายมันก็จะตาย
อาหาร? ธรรมชาติของงูชนิดนี้อยู่ใกล้แหล่งน้ำ เหยื่อส่วนใหญ่จึงเป็นพวก ลูกอ๊อด กบ ปลาตัวเล็ก อะไรก็ได้ที่มันจับได้ และมีขนาดที่เหมาะสม ในกรณีเลี้ยงคุณจึงสามารถหาเหยื่ออย่างปลา กบ ให้มันกินได้เช่นกัน .. และหากจัดตู้เลี้ยงแบบครึ่งบกครึ่งน้ำ คุณสามารถปล่อยปลา ลูกอ๊อด (เป็นๆ) เอาไว้เล็กน้อย เพื่อมันสามารถจับกินเองได้เมื่อต้องการ
ปลาที่ปลอดภัยที่แนะนำได้คือ ปลากินยุง ( Gambusia affinis) , ปลาหางนกยูง (Poecilia reticulata), ปลาพลาตี้ ( Xiphophorus maculatus ) ทั้งหมดถือเป็นปลาที่หาง่ายในไทย .. หากเป็นงูที่โตแล้วอาจให้อาหารกบต้นไม้ที่โตแล้วหรือให้กินปลาตัวใหญ่ขึ้น
สรุป ..ทั้งหมดที่แนะนำเป็นข้อมูลที่ถูกเขียนเอาไว้ในเว็บไซต์สัตว์เลี้ยงต่างประเทศ มันน่าจะช่วยเป็นแนวทางได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะใช้วิธีนี้เลี้ยงในไทยได้ 100% คุณควรศึกษาเพิ่มเติม หรือปรึกษาพนักงานขาย หรือสอบถามคนที่เคยเลี้ยงจะดีที่สุด เพราะหากซื้อมาเลี้ยงแล้ว คงไม่อยากให้มันอยู่อย่างลำบาก