ตอนนี้ทีมนักวิจัยกำลังเสนอหลักฐานที่น่าสนใจว่า การระเบิดของภูเขาไฟนั้นเป็นส่วนช่วยทำให้ไดโนเสาร์ครองโลกได้ไวขึ้นในยุคไทรแอสสิก ยุคนี้เริ่มขึ้นเมื่อ 250 ล้านปีก่อน เป็นช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงทางนิเวศวิทยาครั้งใหญ่ หลังจากการสูญพันธุ์ยุคเพอร์เมียน ซึ่งเป็นการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ที่สุดเพราะจำนวนสิ่งมีชีวิตมากกว่า 90% ต้องสูญพันธุ์ไป
ไดโนเสาร์ปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกในยุคนี้ แต่ในเวลานั้นพวกมันมีขนาดเล็กมากและรูปร่างไม่ต่างจากพวกกิ้งก่าเท่าไร แต่ภายหลังพวกมันจะกลายเป็นสัตว์ยักษ์ยังรวมถึงพวกนกอีกด้วย
เพื่อทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นตัวผลักดัน ให้พวกไดโนเสาร์เริ่มมีวิวัฒนาการมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์ได้พิจารณาช่วงเวลาสองถึงสามล้านปีในช่วงยุคไทรแอสสิกประมาณ 234 – 232 ล้านปีก่อน โลกมีอุณหภูมิ ความชื้นและฝนที่มากขึ้น ทำให้เกิดสภาวะพายุฝนในหลายพื้นที่
นักวิจัยได้วิเคราะห์หลักฐานของตะกอน และซากฟอสซิลของพืชจากทะเลสาบทางเหนือของจีน และสามารถตรวจสอบถึงการระเบิดของภูเขาไฟอย่างรุนแรงได้ การระเบิดของภูเขาไฟ นอกจากพวกคาร์บอนไดออกไซด์แล้วยังมีพวกแร่ธาตุต่างๆ ออกมาอีกด้วย ทำให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างดี และช่วงนี้พืชเริ่มปรับตัวให้เข้ากับความชื้นและปริมารถน้ำที่เพิ่มขึ้นได้ด้วย
ในระหว่างนี้ พืชที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่ชื้นขึ้นมากก็สูญพันธุ์ไป เช่นเดียวกับสัตว์หลายชนิด เช่นสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่จนถึงหอยทากขนาดเล็ก การที่พวกสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ที่ยังรอดมาจากยุคเพอร์เมียนได้เริ่มตายลงไป เปิดทางให้พวกไดโนเสาร์ขึ้นมาแทนที่พวกมันได้
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าความชื้นที่เพิ่มขึ้น ยังวางรากฐานให้ระบบนิเวศในยุคปัจจุบันด้วย ในช่วงเวลานั้นเราได้เห็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของสัตว์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์เลื้อยคลานในยุคปัจจุบัน ในการขับเคลื่อนความหลากหลายในยุคนั้นก็มีสิ่งมีชีวิตหลายชนิด ตั้งแต่ไดโนเสาร์ เทอโรซอร์ พวกสัตว์เลื้อยคลานในทะเล รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยุคเริ่มแรก
หลักฐานความชื้นที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้นักวิจัยได้รู้ถึงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นด้วย “ขนาดการระเบิดของภูเขาไฟนั้นถี่และเยอะกว่าในยุคปัจจุบันมาก” Sarah Greene ผู้ศึกษาร่วมและนักบรรพชีวินวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม แต่การระเบิดพวกนี้กลับปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าที่มนุษย์ปล่อยออกมาอีก
ช่วงเวลาสองล้านปีนี้ถือว่าไม่นานเลยถ้าเทียบกับการวิวัฒนาการที่ผ่านมา แต่การวิวัฒนาการนั้นเร็วกว่าที่คิดมาก ใครจะรู้ว่าอีกไม่กี่ล้านปีข้างหน้าจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง