การค้นพบล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากนักตกปลาในมาดากัสการ์และแทนซาเนีย ได้มอบปลาที่พวกเขาจับได้นี้ให้นักวิจัยชาวยุโรป และด้วยการค้นพบนี้ ทำให้สายพันธุ์ฉลามฟันเลื่อยเพิ่มเป็น 10 ชนิด จากเดิมที่มี 8 เท่านั้น
“การค้นพบ ฉลามฟันเลื่อย (Sawsharks) เป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดา” Simon Weigmann จากห้องปฏิบัติการวิจัย Elasmobranch ของเยอรมนีกล่าวกับ The Guardian “สิ่งสำคัญคือต้องตั้งชื่อสปีชีส์ใหม่ เพื่อให้ผู้คนได้รู้จักและสนใจพวกมัน”
Weigmann ตั้งชื่อทั้งสองสายพันธุ์ใหม่ว่า “Kaja’s sixgill sawshark (Pliotrema kajae)” ซึ่งตั้งชื่อตามลูกสาวของเขาที่ชื่อ Kaja และอีกด้วยชื่อว่า “Anna’s sixgill sawshark (Pliotrema annae) ” ซึ่งตั้งตามชื่อลูกพี่ลูกน้องของ Kaja …ฉลามฟันเลื่อยทั้งสอง อาศัยอยู่ในมหาสมุทรอินเดียร่วมกับ P. warreni ซึ่งเป็นสายพันธุ์ของฉลามหกเหงือกที่รู้จักกันก่อนหน้านี้
ความจริงแล้วฉลามส่วนใหญ่จะมีช่องเหงือกเพียงห้าช่องเท่านั้น การที่ฉลามฟันเลื่อยชนิดใหม่ที่เพิ่งพบนี้ มีหกเหงือกนั้นเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ แม้ว่านักวิจัยจะยังไม่มีคำอธิบายเกี่ยวกับจำนวนร่องเหงือกที่เพิ่มขึ้นนี้ก็ตาม
จากข้อมูลของ Oceanographic ฉลามฟันเลื่อยมักจะมีความยาวได้ถึงห้าฟุต เชื่อกันว่า P.warreni เป็นฉลามฟันเลื่อยที่อาศัยอยู่ที่ความลึกเกือบ 3 พันฟุต มันเป็นฉลามฟันเลื่อยที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกที่สุดในฉลามหกเหงือก
ในขณะที่ Kaja’s sixgill sawshark ถูกพบที่ความลึก 800 ฟุต และ Anna’s sixgill sawshark พบที่ความลึก 100 ฟุต ..ด้วยความลึกระดับนี้ ทำให้ฉลามฟันเลื่อยทั้ง 2 สายพันธุ์ใหม่นี้ มีความเสี่ยงต่อการจับปลาที่มากเกินไป