จนล่าสุดหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม รายงานว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้พบซากควายบริเวณสามแยกสะมะท้อ ที่ได้มีการติดกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า จึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลภาพถ่ายจากกล้องตัวดังกล่าวพบเสือโคร่งจำนวน 1 ตัว มีลักษณะขาหลังด้านขวาขาขาดพิการใช้การไม่ได้ กำลังกินซากควายอยู่
จึงคาดว่าน่าจะเป็นเสือตัวเดียวกันกับที่ทำร้ายชาวบ้านปิล็อกคี่ โดยทางมูลนิธิฟรีแลนด์ (Freeland Foundation) และองค์กร IUCN มีความเห็นร่วมกันว่า เห็นควรดักจับเสือโคร่งตัวที่พิการน่าสงสารดังกล่าว นำมาไว้ดูแลในสถานที่ปลอดภัย
เพราะเสือโคร่งตัวพิการน่าสงสารดังกล่าว จะหากินจับสัตว์ป่าในธรรมชาติได้ยาก ประกอบกับมีหมู่บ้านปิล็อกคี่ อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ใกล้พื้นที่หากินเสือโคร่งตัวพิการน่าสงสารดังกล่าวด้วย เกรงว่าในอนาคตเสือโคร่งตัวพิการน่าสงสารดังกล่าวอาจจะไม่ปลอดภัย
สำหรับในส่วนของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จะคอยระวังภัยให้กับชาวบ้านปิล็อกคี่ ให้ปลอดภัยจากเสือโคร่ง และคอยระวังภัยให้กับเสือโคร่งตัวพิการน่าสงสาร ที่อยู่ในป่าด้วย
อย่างไรก็ตาม ในทางวิชาการ เสือโคร่งแต่ละตัวจะมีลายบนลำตัวที่แตกต่างกัน เหมือนลายนิ้วมือของมนุษย์ การจะพิสูจน์ทราบว่าเป็นเสือตัวเดียวกับตัวที่ทำร้ายชาวบ้านปิล๊อคคี่หรือไม่ ต้องรอการพิสูจน์การเปรียบเทียบลายของเสือโคร่งที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้จัดทำประวัติเสือโคร่งไว้ต่อไป