เมื่อคุณขอให้ผู้คนบอกชื่อไดโนเสาร์ที่น่ากลัวหนึ่งตัว โอกาสที่ “ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์” จะถูกกล่าวถึงมากเป็นพิเศษ ถึงกระนั้น ‘ราชาแห่งไดโนเสาร์’ (เร็กซ์หมายถึง ‘ราชา’ ในภาษาละติน) มีลักษณะด้อยอย่างหนึ่ง นั้นคือแขนสั้นที่น่าขัน จนนักวิจัยตลอดจนนักเรียน หรือผู้สนใจรักไดโนเสาร์ธรรมดาๆ ต่างก็สงสัยว่าทำไมไดโนเสาร์ขนาดมหึมาตัวนี้ถึงมีแขนสั้นนัก
ถึงขนาดว่าเมื่อมีการค้นพบมันครั้งแรก นักบรรพชีวินวิทยายังคิดว่าชิ้นส่วนแขนมันไม่ครบ และมันน่าจะมีสามนิ้วเหมือนกับนักล่าที่พบก่อนหน้าอย่างอัลโลซอรัส จนทีเร็กซ์ในยุคแรกๆ จะมีภาพออกมาเป็นมีนิ้วสามนิ้ว
อย่างที่เห็นในภาพยนต์อย่าง The Lost World ปี 1925 และ King Kong ปี 1933 จนภายหลังมีการค้นพบซากที่สมบูรณ์และยืนยันได้ว่ามันมีสองนิ้วจริงๆ แต่ก็ไม่ทันแล้ว กว่าทีเร็กซ์ในภาพยนต์จะมีสองนิ้วก็ต้องหลังจากยุค 50 ไป
“จากผลการวิจัยล่าสุด ทีเร็กซ์ อาจมีการพัฒนาให้มีแขนที่สั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวมันเอง”
สาเหตุที่ต้องมีแขนสั้น?
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไทแรนโนซอรัสที่โตเต็มวัยหลายตัวมารวมกันตรงซากสัตว์? ถ้าเพื่อนคุณซึ่งมีกระโหลกศีรษะขนาดใหญ่มีกรามและฟันที่ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ ฉีกและกัดเนื้อและกระดูกที่อยู่ถัดจากคุณ เกิดอะไรขึ้นถ้าเพื่อนของคุณเข้าใกล้เกินไป?
พวกเขาอาจเตือนคุณให้ออกไปโดยการกัดแขนของคุณ” Kevin Padian ศาสตราจารย์กิตติคุณกิตติมศักดิ์ด้านชีววิทยาบูรณาการ ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเบิร์กลีย์และภัณฑารักษ์ของ UC Museum of Paleontology (UCMP) กล่าว
“ดังนั้น มันอาจจะเป็นประโยชน์ในการลดขนาดแขนลง เนื่องจากไม่ได้ใช้พวกมันในหาอาหารอยู่ดี”
มีทฤษฏีมากมายว่าทำไมแขนของทีเร็กซ์จึงสั้น สิ่งเหล่านี้ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่การผสมพันธุ์ไปจนถึงการจับเหยื่อหรือบทบาทนักล่าอื่นๆ แต่ไม่มีความคิดใดที่สามารถยืนยันความคิดของตนเองได้ หรือแม้แต่รวบรวมการสนับสนุนจำนวนมากโดยเฉพาะ Padian เชื่อว่านักวิจัยได้เจาะประเด็นที่ไม่ถูกต้องจนถึงปัจจุบัน
แทนที่จะถามว่าแขนสั้นของไดโนเสาร์พัฒนาขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ใด เราควรคิดว่าแขนเหล่านี้มีประโยชน์ต่อสัตว์อย่างไร?
สมมติฐานของเขาคือแขนของทีเร็กซ์มีขนาดเล็กมาก เพื่อป้องกันการกัดแขนโดยไม่ได้ตั้งใจหรือโดยเจตนาในระหว่างการล่า บาดแผลรุนแรง เช่น การสูญเสียแขนอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่คุกคามชีวิตได้ เช่น อาการตกเลือด หรือติดเชื้อ ซึ่งล้วนถึงตายได้ Padian อธิบาย
เขาเสริมว่าบรรพบุรุษของไทแรนโนซอรัสมีแขนที่ยาวกว่า บ่งบอกว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่แขนขาที่สั้นกว่าซึ่งมีการเคลื่อนไหวและความแข็งแรงของข้อต่อน้อยกว่านั้นมีจุดประสงค์
ฉะนั้นการแลกเปลี่ยนจะไม่ทำให้สัตว์เหล่านี้ได้เปรียบเชิงวิวัฒนาการ สำหรับ ทีเร็กซ์ ที่มีความยาว 45 ฟุต (13.7 เมตร) จะมีกะโหลกศีรษะยาว 5 ฟุต (1.5 เมตร) แต่แขนมีความยาวเพียง 3 ฟุต (0.9 เมตร) ซึ่งเท่ากับ 6 ฟุต คนสูง (1.8 เมตร) มีแขน 5 นิ้ว (12.7 ซม.)
การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบต่อทั้ง ทีเร็กซ์ ซึ่งอาศัยอยู่ในอเมริกาเหนือตอนปลายยุคครีเทเชียส เช่นเดียวกับสายพันธุ์ที่อยู่ในช่วงเวลานั้น คือ เอบิซอร์ และ คาร์คาโรดอนโตซอร์ ซึ่งกระจายไปทั่วอเมริกาใต้และยูเรเซียตามลำดับในช่วงต้นและกลางครีเทเชียส
Padian กล่าวว่า “แนวคิดทั้งหมดที่เสนอเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไม่ผ่านการทดสอบหรือเป็นไปไม่ได้ เพราะมันอาจจะยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนพอ” “และไม่มีสมมติฐานใดอธิบายได้ว่าทำไมแขนถึงเล็กลง สิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาทำได้คืออธิบายว่าทำไมพวกมันถึงรักษาขนาดที่เล็กเอาไว้ และในทุกกรณี รวมถึงการคงประสิทธิภาพไว้ถ้าแขนไม่ลดขนาดลง”
Padian ยอมรับว่าสมมติฐานของเขา เช่นเดียวกับข้ออื่นๆ ในหัวข้อนี้ จะพิสูจน์ได้ยากหลังจากไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปนานแล้ว ตามทฤษฎีล่าสุดที่ทีเร็กซ์ นั้นล่าเป็นฝูง สมมติฐานที่เขาเสนอดูเหมือนจะมีข้อดีอยู่บ้าง
“เหมืองที่สำคัญหลายแห่งที่ขุดพบในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ได้อนุรักษ์ซากไทแรนโนซอร์ทั้งตัวเต็มวัยและตัวอ่อนไว้ด้วยกัน” เขากล่าว “เราไม่สามารถสรุปได้ว่าพวกมันอยู่ด้วยกันหรือตายด้วยกัน เรารู้แค่ว่าพวกมันถูกฝังไว้ด้วยกัน แต่เมื่อคุณพบหลายแห่งที่มีสัตว์ชนิดเดียวกัน นั่นเป็นสัญญาณที่แรงกว่า และความเป็นไปได้ที่นักวิจัยคนอื่นๆ ได้กล่าวไว้ก็คือ พวกมันอยู่เป็นฝูง”
สมมติฐานของ Padian ดูเหมือนจะมีความคล้ายคลึงกันในปัจจุบัน เขาอ้างถึงกิ้งก่ามังกรโคโมโดยักษ์ ของอินโดนีเซียซึ่งล่าเป็นฝูง ตัวที่ใหญ่กว่าจะเป็นตัวที่กินก่อน เหลือเพียงซากเล็กน้อยสำหรับตัวที่อายุน้อยกว่าและเล็กกว่า จระเข้ยังสามารถทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงระหว่างการกินอาหารด้วย
องค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยผลักดันสมมติฐานไปข้างหน้าคือการตรวจสอบฟอสซิลของทีเร็กซ์จากพิพิธภัณฑ์ทั่วโลกเพื่อหารอยกัดที่แขน ดังที่กล่าวไปแล้ว ตัวอย่างมีเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำมาก
“บาดแผลถูกกัดที่กะโหลกศีรษะและส่วนอื่นๆ ของโครงกระดูกนั้นเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มไทแรนโนซอร์ส่วนมากและไดโนเสาร์ที่กินเนื้อเป็นอาหารชนิดอื่นๆ” เขากล่าว “หากพบว่ามีรอยกัดที่แขนน้อยลง อาจเป็นสัญญาณว่ามันเป็นอย่างที่คิดไว้”
“สิ่งแรกที่ผมต้องการทำคือการพิสูจน์ให้เห็นว่าแนวที่มีอยู่นั้นใช้ไม่ได้ผล นั่นทำให้เรากลับไปที่จุดเริ่มต้น จากนั้นเราสามารถใช้แนวทางบูรณาการ คิดเกี่ยวกับการจัดสังคม พฤติกรรมการกินอาหาร และปัจจัยทางนิเวศวิทยา นอกเหนือจากการพิจารณาทางกลไกแบบดั่งเดิม”