หนูจิงโจ้ ‘วิศวกรระบบนิเวศ’ ไม่ใช่สัตว์ใกล้สูญพันธุ์อีกต่อไป

การจัดประเภทใหม่นี้ได้รับการยกย่องว่า เป็นความสำเร็จในการอนุรักษ์โดย San Diego Zoo Wildlife Alliance ซึ่งทำงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐบาลกลาง รัฐและท้องถิ่นเพื่อเพิ่มประชากรของหนู

Debra Shier ผู้อำนวยการฝ่ายนิเวศวิทยาการฟื้นฟูของพันธมิตรสัตว์ป่า กล่าวว่า “วิศวกรระบบนิเวศน์” มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มอุทกวิทยาของดินและหมุนเวียนสารอาหารในสภาพแวดล้อมที่พวกมันอาศัยอยู่

หนูจิงโจ้ของสตีเฟนส์ ได้รับการตั้งชื่อตามผู้อำนวยการคนแรกของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติซานดิเอโก โดยทั่วไปแล้วจะพบในเขตตะวันตกและตอนกลางของซานดิเอโก และริเวอร์ไซด์เคาน์ตี้ตามรายงานของ US Fish and Wildlife Service

แต่เจ้าหน้าที่หน่วยงานกล่าวว่า สายพันธุ์นี้ได้รับอันตรายเนื่องจากการสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย และความเสื่อมโทรมอันเนื่องมาจากการขยายตัวของเมือง รวมทั้งการกระจายตัวของแหล่งที่อยู่อาศัยมนุษย์

เรามักคุยกันบ่อยๆ เกี่ยวกับสายพันธุ์หนึ่งหรืออีกชนิดหนึ่ง และเรามีปัญหามากมายเกี่ยวกับการกระจายตัวของที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ที่มีจุดเชื่อมต่อของความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นสถานที่ที่มนุษย์ต้องการอยู่อาศัย “เราโชคดีมากที่มีพวกมันยังอยู่ ไม่ใช่แค่สำหรับสายพันธุ์นี้ แต่สำหรับสายพันธุ์ทั่วแคลิฟอร์เนียด้วย”

หนูจิงโจ้ของสตีเฟนส์ (Stephens’ kangaroo rat) เป็นสัตว์ฟันแทะในวงศ์ Heteromyidae มีถิ่นกำเนิดในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ของสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่อยู่ในเทศมณฑลริเวอร์ไซด์ทางตะวันตก สายพันธุ์นี้ตั้งชื่อตามนักสัตววิทยาชาวอเมริกัน Frank Stephens

หนูจิงโจ้ชนิดนี้เป็นส่วนหนึ่งของสกุล Dipodomys แม้จะมีชื่อสามัญว่าจิงโจ้ แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับจิงโจ้ของออสเตรเลีย (Macropodidae ) มันเป็นหนูขนาดกลางของสกุล มีความยาวรวม 277 – 300 มิลลิเมตร และน้ำหนักเฉลี่ย 67.26 กรัม หางยาว 164 – 180 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้หางยาวประมาณ 1.45 เท่าของลำตัว

สีของหนูอธิบายว่าเป็นสีสองสี โดยมีสีน้ำตาลแทนถึงสีน้ำตาลเข้มที่ด้านหลัง และสีขาวที่ด้านข้างหน้าท้อง ฝ่าเท้าของขาหลังมีสีคล้ำ มีขนสีขาวสองสามเส้นบนกระจุกหาง และมีแถบสีขาวที่หน้าท้องและด้านหลังที่วิ่งไปตามหาง

อ่านเรื่องอื่น

• นี่คือหนูกังฟูขั้นเทพ ที่เตะงูหางกระดิ่งหัวทิ่ม

• หนูเมฆแห่งเกาะอิลิน สายพันธุ์ที่สาบสูญและพบตัวอย่างเพียง 1 ตัว