มดบ้าราสเบอรี่ ‘หายนะอเมริกาเหนือ’ กำลังตายเพราะเชื้อราคริปโตไนต์

ในตอนที่ "มดบ้าราสเบอรี่ (Rasberry crazy ant)" ปรากฏตัวในอเมริกาเหนือ พวกมันได้สร้างความหายนะให้กับสายพันธุ์ท้องถิ่นอย่างหนัก พวกมันเข้ารุกรานเท็กซัสและพื้นที่ส่วนใหญ่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกา มันขับไล่แมลงพื้นเมืองออกไปและทำให้เจ้าของบ้านต้องปวดหัว แม้แต่ศูนย์อวกาศ NASA ก็ถูกมดเหล่านี้รุกราน แต่ตอนนี้นักวิจัยรายงานว่า พวกมันอาจได้พบกับคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวนั่นคือเชื้อรา

มดบ้า

มดราสเบอรี่อาจฟังดูน่ารัก แต่มันไม่ใช่แค่เรียกว่า “มดราสเบอรี่” แต่ยังถูกเรียกว่า “มด บ้า ราสเบอร์รี่” และมีเหตุผลสำหรับชื่อของมันด้วย มดพวกนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากอเมริกาใต้ พบได้ทั่วไปในโคลัมเบีย ซึ่งเกษตรกรจำนวนมากรู้จักและเกรงกลัวพวกมัน มดพวกนี้ไม่เพียงแต่จะย้ายเข้ามาแทนที่แมลงพื้นเมืองเท่านั้น แต่พวกมันยังสามารถคุกคามสัตว์เลี้ยงในฟาร์มได้อีกด้วย

ทั้งนี้เกษตรกรได้รายงานกรณีที่ไก่ขาดอากาศจนตายเพราะมด และแม้แต่สัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น วัว ควาย ก็ยังถูกมันโจมตีรอบๆ ดวงตา รูจมูก กีบเท้า และส่วนอื่นๆ ที่พวกมันเข้าถึงได้

มดบ้าราสเบอร์รี่สามารถทำลายระบบนิเวศทั้งหมดที่พวกมันอาศัยอยู่ พวกมันจะสร้างฟาร์มของพวกมันเอง โดยพื้นฐานแล้ว ฟาร์มของมดชนิดนี้จะเต็มไปด้วยแมลงกินพืช เช่น เพลี้ยอ่อน และเป็นเหตุให้พื้นที่กว้างใหญ่ของทุ่งหญ้าแห้งแล้งยิ่งกว่าเดิม และสุดท้ายจะไม่สามารถเพาะปลูกได้

มดชนิดนี้มีความยืดหยุ่นสูง จากการศึกษาในปี 2014 นักวิจัยพบกว่า หลังจากที่พวกมันมีปัญหากับพิษของมดคันไฟ พวกมันจึงได้พัฒนาเกาะซึ่งเป็นกรดฟอร์มิก ซึ่งช่วยแก้พิษจากมดคันไฟได้ และนี่ถือเป็นตัวอย่างแรกที่แมลงสามารถแก้พิษของแมลงอีกชนิดได้




นอกจากนี้อาณานิคมของพวกมันยังมีราชินีหลายตัว ซึ่งช่วยให้พวกมันอยู่รอดได้หากมีอะไรเกิดขึ้นกับราชินีตัวใดตัวหนึ่ง โดยรวมแล้วมดบ้าราสเบอร์รี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ยอดเยี่ยม มันอดทน ปรับตัวให้เข้ากับทุกที่และนี่ทำให้มันน่ากลัว

คริปโตไนต์จากเชื้อรา..?

Advertisements

8 ปีก่อน นักวิจัย Rob Plowes และ Lawrence Gilbert ที่ Brackenridge Field Laboratory กำลังทำการศึกษามดบ้าราสเบอร์รี่ที่รวบรวมมาจากฟลอริดา จากนั้นไม่นานพวกเขาก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ พวกเขาพบว่ามดบางตัวมีหน้าท้องป่องที่เต็มไปด้วยไขมัน

เมื่อพวกเขามองเข้าไปใกล้ๆ นักวิจัยพบสปอร์จากไมโครสปอริเดียน (Microsporidian) ซึ่งเป็นกลุ่มของเชื้อราที่ทำให้เกิดโรค มันเป็นสายพันธุ์ใหม่สำหรับวิทยาศาสตร์ แต่สิ่งที่น่าสนใจเพิ่งเริ่มต้น

Advertisements
เชื้อโรคไมโครสปอริเดียนมักจะโจมตีเซลล์ของแมลง และเปลี่ยนเป็นไขมันที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงงานสปอร์ สิ่งนี้เรียกว่าไฮเปอร์ปาราไซต์ (Hyperparasites) ซึ่งเป็นพวกปรสิตที่มักมีโฮสต์เป็นแมลง

แต่ยังไม่ชัดเจนว่าสปีชีส์ไมโครสปอริเดียนนี้มาจากไหน แต่ดูเหมือนว่าจะทำงานได้ดีเป็นพิเศษเมื่อมันใช้มดเป็นโฮสต์ จากนั้นนักวิจัยสังเกตประชากรมด 15 กลุ่มเป็นเวลา 8 ปี โดยสังเกตว่าประชากรทุกตัวที่ติดเชื้อนั้นลดลง และส่วนใหญ่หายไปทั้งหมด สิ่งนี้ค่อนข้างน่าแปลกใจ “คุณไม่ได้คาดหวังว่าเชื้อรานี้จะนำไปสู่การสูญพันธุ์ของประชากร”

แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนนักว่าทำไมเชื้อราชนิดนี้ถึงส่งผลร้ายกับมดเหล่านี้แรงนัก แต่สิ่งนี้ทำให้นักวิจัยคิดคือ ..ดูเหมือนว่าสปีชีส์อื่นๆ จะไม่ได้รับผลกระทบจากเชื้อรานี้ แล้วถ้าเชื้อราถูกใช้เพื่อควบคุมมดพวกนี้ล่ะ?




เพื่อให้รู้ถึงสิ่งนี้ พวกเขาต้องการพื้นที่ทดสอบ เพื่อให้ทราบถึงสมมติฐานนี้ จนในปี 2016 พวกเขาได้สร้างพื้นที่ทดสอบที่สมบูรณ์แบบใน Estero Llano Grande State Park ใน Weslaco, Texas โดยพื้นที่แห่งนี้ “มดบ้าราสเบอร์รี่” ได้สร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ให้กับแมลงรวมทั้งสัตว์เลื้อยคลานจำนวนมาก นักวิจัยได้รายงานว่าลูกกระต่ายตาบอดในรังโดยฝูงมด สถานการณ์สิ้นหวัง

และในที่สุดไซต์ที่สมบูรณ์แบบก็มาถึง ที่ Estero Llano Grande State Park ใน Weslaco, Texas ในปี 2016 มดบ้าราสเบอร์รี่ได้ก่อให้เกิดความโกลาหล สวนแห่งนี้สูญเสียแมลงให้กับมด และแม้แต่งู กิ้งก่า และนกก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เรนเจอร์รายงานว่าพวกเขาพบลูกกระต่ายตาบอดในรังโดยถูกฝูงมดเล่นงาน แน่นอนว่าพวกมันจะตายในไม่ช้า




ในการทดลองพวกเขาวางเหยื่อบริเวณทางออกของมด และยังวางมดที่ติดเชื่อราเอาไว้ข้างๆ ด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทั้งกลุ่มเจ้าบ้านและกลุ่มของมดที่ติดเชื้อได้คลุกเคล้ากัน

หลังจากฝ้าติดตาม โดยในหนึ่งปีแรก พวกเขาพบว่าเชื้อราได้นำพาหายนะมาสู่ฝูงมด อาณานิคมมดเกือบทั้งหมดติดเชื้อ จนในปีที่สองประชากรของพวกเขาเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง และในตอนนี้พวกมันแทบไม่มีเหลือ และสายพันธุ์พื้นเมืองก็กำลังจะกลับมาอย่างช้าๆ

ในตอนนี้นักวิจัยไม่แน่ใจว่าเชื้อราพวกนี้ จะคงอยู่นานแค่ไหน หรือถาวรหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีกำจัดมดเหล่านี้และอันตรายทั้งหมดที่พวกมันนำมาได้ และเมื่อพิจารณาถึงปัญหาของสายพันธุ์และการแพร่กระจายของมดพวกนี้ มันก็คุ้มค่าที่จะลองใช้ดู

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements
แหล่งที่มาphys.org