แมวพัลลัส (Pallas’s cat, Steppe cat) ชื่อวิทยาศาสตร์ Otocolobus manul เป็นแมวป่าขนาดเล็ก ที่ค้นพบโดย ปีเตอร์ ไซมอน พัลลัส นักธรรมชาติวิทยาชาวเยอรมัน ค.ศ. 1776 มันเป็นชนิดเดียวที่อยู่ในสกุล Otocolobus
โดยแมวพัลลัส มีขนาดใกล้เคียงกับแมวบ้านตัวโต มีความสูง 46–65 เซนติเมตร หางยาว 21–31 เซนติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 2.5–4.5 กิโลกรัม แต่เพราะมันเป็นแมวที่มีขนหนาแน่นมากๆ จึงทำให้ดูมีขนาดใหญ่ ขนของมันมีสีเหลืองสลับกับแถบแนวตั้งสีดำ มันคือแมวที่มี “ขนหนาแน่นที่สุดในแมวสายพันธุ์ดั้งเดิม” ..ต่อไปมาดูรู้จักพวกมันให้มากขึ้นกัน
นอกจากนี้แมวพัลลัส ยังเป็นแมวที่มีดวงตาแปลกกว่าแมวส่วนใหญ่ ซึ่งหากมองไปที่ดวงตาแมว ก็จะเห็นว่ารูม่านตาของแมวปกติ หากหลดตัวจะเห็นเส้นแนวตั้ง แต่พัลลัสกลับมาดวงตาคล้ายมนุษย์ นั้นคือรูม่านตาเป็นวงกลมแม้จะหดตัว บางทีหดตัวมากๆ จนเกือบกลายเป็นจุดเลยก็มี
แมวชนิดนี้มีขนยาวและหนาแน่นที่สุดในแมวทั้งหมดบนโลก โดยขนของแมวพัลลัสจะทั้งหนาและยาว มันทำให้แมวแมวตัวผอมๆ กลายเป็นแมวอ้วนกลมเป็นลูกชิ้นได้เลย โดยปกติแล้วขนจะยาวเป็นสองเท่าจากปกติบริเวณท้องและหาง ทั้งนี้เพราะถิ่นอาศัยของมันเป็นเขตที่หนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี
จากนั้นตัวเมียจะให้กำเนิดลูกแมว 2 – 6 ตัว ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม และเมื่อลูกแมวอายุได้ 4 เดือน มันจะเริ่มล่าสัตว์กับแม่ของมัน และจะโตเป็นวัยผู้ใหญ่ภายใน 6 เดือน จากนั้นพวกมันจะพร้อมผสมพันธุ์เมื่ออายุ 10 – 11 เดือน
หากดูตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงตอนนี้ จะเห็นว่าแมวพัลลัส ค่อนข้างต่างจากแมวทั่วไปอยู่หลายส่วน แต่ความแปลกของพวกมันไม่จบแค่นี้ เพราะมันไม่ใช่ “นักวิ่ง” แมวทั่วไปใช้ความเร็วในการล่า แต่แมวพัลลัสไม่เป็นเช่นนั้น มันจะใช้วิธีหลบซ่อนตามจุดอับต่างๆ และบางทีมันรอเหยื่อที่ปากทางเข้าออกของสัตว์อื่น รอให้เหยื่อวิ่งเข้ามาใกล้ ค่อยจับ (เข้าปากเองเลยยิ่งดี) ส่วนอาหารของมันก็เป็นพวกสัตว์ฟันแทะขนาดเล็ก นก ถ้าไม่มีอะไรกิน มันก็กินแมลงได้
และยังพบบนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลเป็นพันๆ เมตร อย่างเทือกเขาหิมาลัยด้วย เป็นชนิดที่ได้รับผลกระทบจากความเสื่อมโทรมของแหล่งที่อยู่อาศัย เพราะเหยื่อน้อยลงและการล่าสัตว์ และยังยากที่จะเลี้ยงในสภาพกักขังอีกด้วย
