นาร์ลูกา ลูกผสมในตำนาน ของ นาร์วาล และ เบลูกา

สำหรับเรื่องนี้อาจซับซ้อนเล็กน้อย แต่ผมก็จะพยายามสรุปมาให้ชมกัน โดยจะพูดรวมๆ ทั้ง นาร์วาล, เบลูกา และ นาร์ลูกา โดย นาร์ลูกา ถือเป็นลูกผสมของสัตว์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะแค่เพียง นาร์วาล ซึ่งเป็นยูนิคอนแห่งท้องทะเล ก็ถือว่าเป็นสัตว์ทะเลในตำนานชนิดหนึ่ง ยังมีเบลูกา ที่พบเห็นได้ยากอยู่อีกตัว เรียกว่า! มันเป็นการรวมตัวของสัตว์ทะเลหายาก จนเกิดเป็นนาร์ลูกา ที่จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีใครรู้ว่า แท้จริงแล้ว พวกมันเกิดและใช้ชีวิตยังไง?

นาร์วาล คืออะไร?

Advertisements

นาร์วาล (Narwhal) หรือ โมโนดอน โมโนเซรอส (Monodon monoceros) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล ที่อยู่ในวงศ์ โมโนดอนทิเด (Monodontidae) ซึ่งสัตว์ในวงศ์นี้ ที่ยังเหลืออยู่บนโลก ก็มีเพียง นาร์วาล (Narwhal) กับ วาฬเบลูกา (Beluga whale) เท่านั้น

ในเรื่องขนาดของนาร์วาล เมื่อโตเต็มที่จะยาวระหว่าง 3 – 5.5 เมตร ความยาวนี้ ไม่รวมงาแหลมๆ และหนักระหว่าง 800 – 1,600 กิโลกรัม โดยตัวผู้จะมีขนาดใหญ่และหนักกว่าตัวเมีย ในเรื่องอายุขัยสูงสุดยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่จะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 12 – 20 ปี และนาร์วาลตัวเมียอาจอยู่ได้ถึงร้อยปี

ถิ่นอาศัยของนาร์วาลค่อนข้างกันดาล ไกลผู้คน เพราะแบบนี้ พวกมันจึงมีความเสี่ยงต่ำกว่าเบลูกาเล็กน้อย โดยปกติจะพบนาร์วาลได้ในเขตที่หนาวเย็น ซึ่งจะพบมากในมหาสมุทรอาร์กติก ประเทศกรีนแลนด์และแคนาดา โดยตามข้อมูลของ IUCN ระบุว่า นาร์วาล มีประชากรอยู่ที่ประมาณ 123,000 ตัว ในขณะที่เบลูกา จะมีมากกว่านิดหน่อย

และถึงแม้พวกมันจะอยู่คนล่ะสกุล แต่พวกมันถือเป็นญาติใกล้ชิดกัน ลักษณะทางกายภาพจึงค่อนข้างคล้ายกัน ทั้งสองไม่มีครีบหลัง แถมยังมีอาศัยอยู่ในพื้นที่ทับซ้อนกัน! เลยทำให้พวกมันสามารถผสมข้ามสายพันธุ์กันได้ด้วย

หากมองจากภายนอก! สิ่งที่นาร์วาลต่างจากเบลูกามากที่สุด ก็คงเป็นเรื่องของสีลำตัว ที่จะมีสีดำและด่างสีขาวกระจายอยู่ทั่วไป ในขณะที่เบลูกาจะไปทางสีขาวนวลทั้งตัว สิ่งหนึ่งที่มีเฉพาะในนาร์วาลตัวผู้ก็คือ! งา! หรืออาจเรียกว่า เขา ยาวๆ ซึ่งจะยาวระหว่าง 1.5 – 3 เมตร และหลายคนอาจไม่รู้ก็คือ งา ที่ว่านั้น จริงๆ คือ ฟัน 1 ซี่ ที่งอกมาจากกรามบนในปากนาร์วาลตัวผู้ ฟันซี่เดียวนี้มีลักษณะเป็นเกลียว แน่นอนว่า มีนาร์วาลบางตัว ที่มีฟันแบบนี้ถึงสอง ส่วนตัวเมียก็มีงา แต่ไม่ได้ยื่นยาวและสวยงามเท่าตัวผู้

เมื่อมาถึงตรงนี้ ท่านผู้ชมหลายคน! น่าจะมีเรื่องสงสัยอยู่อย่างน้อย 2 เรื่อง! เรื่องแรกคือ นาร์วาลและเบลูก้า สามารถผสมข้ามกันได้ แล้วลูกที่ออกมาจะเป็นอะไร? เรื่องที่สองคือ งา ยาวๆ ของนาร์วาล มีเอาไว้ทำอะไร? ปะเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง

งา ยาวๆ มีไว้ทำไม?

ผมขอพูดถึงเรื่องงาก่อน! แน่นอนว่า แม้แต่ในตอนนี้ ก็ยังไม่มีใครรู้ว่า! แท้จริงแล้ว งา มีไว้ทำไม? และมันก็เป็นเรื่องที่นักชีววิทยา ถกเถียงกันไม่รู้จบ! บางทฤษฎีก็ว่าเอาไว้ งาเอาไว้ต่อสู้! บางทฤษฎีก็ว่าเอาไว้หาอาหาร อาจใช้เพื่อเจาะน้ำแข็งก็ได้ อย่างไรก็ตาม เสียงส่วนใหญ่ลงคะแนนให้กับทฤษฎีที่ว่า! งาเอาไว้ดึงดูดตัวเมีย! หรือ แม้แต่เอาไว้ตีกันเอง

Advertisements

แต่! มีหลักฐานที่เคยถ่ายได้จากโดรน เมื่อปี พ.ศ. 2559 (2016) มันเป็นช่วงเวลาที่นาร์วาล ใช้งาเคาะกัน จนทำให้ปลาคอดอาร์กติกตืนตกใจ ทำให้จับตัวได้ง่ายขึ้น แต่ถึงอย่างงั้น จากการศึกษาก็พบว่า นาร์วาล ตัวเมีย มักจะอายุยืนกว่าตัวผู้มาก จึงเป็นไปได้ว่า งา อาจไม่จำเป็นต่อความอยู่รอดของนาร์วาล สรุปคือ ประโยชน์สูงสุดน่าจะมีไว้ดึงดูดตัวเมีย ส่วนประโยชน์ที่แท้จริง ยังคงเป็นปริศนาเหมือนเดิม

นาร์ลูกา ลูกผสมระหว่าง นาร์วาล และ เบลูกา

ความจริงเรื่องนี้! ยังอยู่ในระหว่างการศึกษา อย่าว่าแค่การตามหาลูกผสมที่มีชีวิตเลย แม้แต่การติดตาม นาร์วาล และ เบลูกา ก็ยังถือเป็นเรื่องยาก และยังมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของเวลาที่สูงมาก!

แต่ถึงอย่างงั้น! ในปี พ.ศ. 2533 (1990) นักวิจัยก็พบหลักฐานแรก! ที่บ่งชี้ว่า พวกมันทั้งสองสามารถผสมข้ามสายพันธุ์กันได้จริง! พวกเขาพบซากของสัตว์ทะเลที่น่าสงสัย มันมีลักษณะของวาฬที่ไม่สามารถระบุชนิดได้! มีลักษณะกึ่งกลางระหว่าง นาร์วาล และ เบลูกา และจากการตรวงสอบนานหลายปี จนในปี พ.ศ. 2562 (2019) ก็ได้รับการยันจากผลตรวจดีเอ็นเอ ว่า! ซากของวาฬที่ไม่รู้จัก คือ ลูกผสมระหว่าง นาร์วาล และ เบลูกา

และถึงแม้ชื่อวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการจะยังไม่มี แต่มันก็ถูกเรียก นาร์ลูกา (narluga) และ ชื่อวิทยาศาสตร์ เดลฟินาปเทอรัส ลูคัส × โมโนดอน โมโนเซรอส (Delphinapterus leucas × Monodon monoceros) มันเป็นตัวอย่างที่เหลือเชื่อของการผสมข้ามสายของสัตว์ที่ไม่ได้อยู่ในสกุลเดียวกัน แต่อยู่ในวงศ์เดียวกัน

ในตอนนี้นักวิจัยทราบเพียงว่า ตัวอย่างของนาร์ลูกาที่ได้รับมา เป็นลูกผสมที่เกิดจาก นาร์วาลตัวเมียกับเบลูกาตัวผู้ จนเกิดเป็นนาร์ลูกาตัวผู้ ซึ่งไม่มีงายาวๆ แบบนาร์วาล และไม่มีฟันเหมือน เบลูกาเช่นกัน น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ทราบว่า ลูกผสมนี้! สามารถผสมพันธุ์ต่อไปได้หรือไม่! เรื่องนี้คงต้องใช้เวลาตรวจสอบอีกนาน เพราะในธรรมชาติ! พวกมันยากที่จะติดตาม

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements
Advertisements