หลังจากค้นพบฟอสซิลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยุคไดโนเสาร์ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี นักวิทยาศาสตร์ได้จำแนกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมโบราณที่สูญพันธุ์ชนิดใหม่ และได้เรียกมันว่า “Adalatherium hui” หรือ “สัตว์ร้าย”
สิ่งนี้น่าจะเป็นโครงกระดูกพวกกอนด์วาเธอร์เรียที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบมา โดยกอนด์วาเธอร์เรียเป็นกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ซึ่งท่องไปในมหาทวีปโบราณของกอนด์วานาในซีกโลกใต้เมื่อ 70 ล้านปีก่อน ในช่วงปลายยุคครีเตเชียส และยังสามารถรอดจากการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่เมื่อ 65 ล้านปีก่อนได้
วันนี้ดินแดนที่เป็นกอนด์วานา กลายเป็นเกาะมาดากัสการ์ เช่นเดียวกับเกาะขนาดใหญ่และโดดเดี่ยวหลายแห่ง มาดากัสการ์เป็นที่รู้จักอย่างมาก
และเนื่องจากพืชและสัตว์ที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งมีวิวัฒนาการมาหลายยุคหลายสมัย นับตั้งแต่แยกออกจากแผ่นเปลือกโลกอินเดียเมื่อประมาณ 88 ล้านปีก่อน
สายพันธุ์ “สัตว์ร้าย” ที่เพิ่งรายงานใหม่มีลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร มันหนักประมาณ 3 กิโลกรัม พวกมันมีลักษณะคล้ายกับตัวแบดเจอร์และมีขนาดประมาณแมว ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหญ่ในช่วงเวลานั้น เพราะช่วงเวลานั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนมากมีขนาดเท่ากับหนูหรือกระรอก เพื่อให้มันรอดพ้นสายตาจากนักล่าขนาดใหญ่ในเวลานั้น
Guillermo Rougier นักบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัย Louisville และผู้ร่วมเขียนบทความกล่าวว่า “สถานที่ห่างไกลได้ให้ผลลัพธ์ทางชีววิทยาที่ไม่เหมือนใคร ซากดึกดำบรรพ์เหล่านี้แสดงให้เรารู้ถึงรูปแบบและรูปร่างที่คาดไม่ถึง ซึ่งวิวัฒนาการอาจต้องใช้เวลานานในพื้นที่ที่โดดเดี่ยวที่สุด”
ลักษณะที่ไม่คาดคิดอย่างหนึ่งคือ กระดูกส่วนจมูกของมันที่หายไปเมื่อหลายล้านปีก่อน บรรพบุรุษของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสมัยใหม่ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าแปลกใจมาก เพราะคิดว่าลักษณะจมูกแบบนี้จะมีในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยุคใหม่ ไม่ใช่พวกที่อยู่ในสมัยไดโนเสาร์
Adalatherium hui ยังมีความแตกต่างสำหรับฟันของมัน ที่ไม่เหมือนสัตว์ชนิดอื่น มันจัดเรียงย้อนกลับเมื่อเทียบกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ทั้งหมดที่เรารู้จัก
โดยบ่งชี้ว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษที่มีรูปร่างที่แตกต่างไปอย่างมาก สุดท้ายก็วิวัฒนาการให้ใกล้เคียงกับสายพันธุ์อื่นแทน
นักวิจัยเคยคิดว่า กอนด์วาเธอร์เรียเกี่ยวข้องกับสลอธ, ตัวกินมดและตัวนิ่ม แต่ตามที่ผู้เขียนนำการศึกษา Dr. David Krause บอกกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งนิวยอร์กว่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกลุ่มนี้ “เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองวิวัฒนาการครั้งใหญ่ทางธรรมชาติ แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว และสูญหายไปในช่วงยุคอีโอซีน เมื่อประมาณ 45 ล้านปีก่อน”