สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ตอนแรกเกิดใหม่ๆ จะมีรูปร่างที่ต่างกับตัวที่โตเต็มที่มาก ซึ่งมันต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตในช่วงแรกจนกว่าจะมีรูปร่างคล้ายตัวที่โตเต็มที่ และนี่คือ 10 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
1. สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำมี 3 ประเภท
ธรรมชาติได้แบ่งสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเป็น 3 ประเภท คือ 1.กบและคางคก 2. ซาลาแมนเดอร์และตัวนิวต์ 3. พวกไม่มีขาซึ่งพวกนี้รูปร่างเหมือนงู ในปัจจุบันมีกบและคางคกมากถึง 6,000 ชนิดบนโลก แต่กลับมีซาลาแมนเดอร์และนิวต์แค่ 10 ชนิดบนโลก และยิ่งพวกไม่มีขายิ่งมีน้อยกว่า
2. ส่วนใหญ่ตัวอ่อนกับตัวที่โตเต็มที่จะต่างกันมาก
จากวิวัฒนาการที่เป็นรอยต่อระหว่างสัตว์บกและปลานั้น ทำให้สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำส่วนมากจะวางไข่ในนํ้า และใช้ชีวิตในน้ำเต็มรูปแบบในช่วงแรกของชีวิต อย่างเช่นมีครีบหรือเงือก ซึ่งพอโตขึ้นพวกมันจะหายไปเอง แต่บางชนิดนั้นรูปร่างแทบจะไม่ต่างจะตัวที่โตเต็มที่ เช่นพวกซาลาแมนเดอร์กับพวกไร้ขา
3. สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำต้องอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำ
เนื่องจากร่างกายพวกมันต้องการความชื้นและต้องการแหล่งน้ำเพื่อวางไข่ทำให้พวกมันต้องอู่ใกล้แหล่งน้ำ และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำส่วนมากผิวต้องการความชุ่มชื้นตลอดทำให้พวกมันจำเป็นต้องอยู่ใกล้แหล่งน้ำหรือที่ชื้นเพื่อซึมซับความชุ่มชื้น โดยพวกมันมักอยู่ตามแหล่งน้ำอย่างลำธาร บึง หรือแหล่งน้ำขัง
4. ผิวพวกมันซึมซับความชุ่มชื่นได้
สาเหตุหลักๆ ที่สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำต้องอยู่หรือใกล้แหล่งน้ำ ก็เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวของมัน ไม่อย่างงั้นมันจะแห้งและตายเอาได้
เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นนั้น สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจะมีสารเคมีที่ช่วยซึมซับความชุ่มชื้น และยังเป็นพิษในสัตว์บางชนิดอีก เช่น กบลูกศรอเมริกาใต้ที่พิษของมันสามารถฆ่าคนได้ (แต่กบพิษพวกนี่หากเป็นกบเลี้ยงจะไม่มีพิษ เพราะอาหารที่พวกมันกินไม่มีพิษ)
5. พวกมันวิวัฒนาการมาจากปลาปอด
เมื่อ 400 ล้านปีที่แล้ว ปลาบางชนิดที่พัฒนาระบบหายใจขึ้นมา โดยการหายใจเอาออกซิเจนโดยตรง และสามารถขึ้นมาบนบกได้ ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนาการของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
โดยปลาที่เป็นญาติใกล้ชิดสุดของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำในปัจจุบันคือปลาปอด ซึ่งปลาปอดเองก็แทบไม่เปลี่ยนแปลงเลยจากในอดีต
6. เมื่อหลายล้านปีก่อนพวกมันเคยครองโลกก่อนไดโนเสาร์
ในยุคคาร์บอนิเฟอรัสเมื่อ 350 ล้านปีก่อน จนถึงสิ้นยุคเพอร์เมียนเมื่อ 250 ล้านปี เป็นยุคที่สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำครองโลกอย่างแท้จริง พวกมันมีหลากหลายสายพันธุ์และหลายขนาด บางชนิดรูปร่างเหมือนจระเข้ มีตั้งแต่ขนาดไม่ถึงฟุต จนบางตัวที่มีขนาดความยาว 3 เมตรและมีน้ำหนักมากถึง 90 กิโลกกรัม
7. มันกินอาหารด้วยการกลืน
ไม่เหมือนพวกสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ แต่มันจะใช้วิธีการกลืนเข้าไปทั้งตัว ซึ่งบางครั้งอาหารมันมีความยาวมากกว่าลำตัวมันทำให้ต้องใช้เวลานานมากกว่าจะกินเข้าไปได้
8. พวกมันมีปอดที่แข็งแกร่งมาก
ในการวิวัฒนาการที่ยาวนาน ได้มอบปอดพิเศษที่ช่วยในการหายใจของพวกมัน ปอดของมันไม่ดีเท่าของพวกสัตว์เลื้อยคลานหรือสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีความสามารถในการหายใจได้ในบริเวณที่มีอากาศน้อย ต้องขอบคุณปอดพิเศษที่ช่วยในการควบคุมการใช้ออกซิเจนได้
9. มันเป็นสัตว์เลือดเย็น
เหมือนสัตว์เลื้อยคลานพวกมันเป็นสัตว์เลือดเย็น แต่แย่กว่าสัตว์เลื้อยคลาน ยิ่งถ้าอุณหภูมิต่ำเท่าไรพวกมันก็ไม่ค่อยเคลื่อนไหว ยิ่งถ้าอุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไปพวกมันก็อาจถึงตายได้
10. สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเป็นหนึ่งในสายพันธุ์สัตว์ที่ถูกคุกคามมากสุด
ด้วยขนาดที่เล็ก ผิวหนักที่บอบบาง อ่อนแอต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ทำให้มันเป็นสัตว์ที่เสี่ยงกับการสูญพันธุ์มาก ปัจจุบันสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำถูกคุกคามจากมลภาวะ ที่อยู่อาศัยถูกทำลาย รวมถึงรอยโห่วของชั้นโอโซน
แต่ภัยที่ร้ายแรงสุดของกบ ซาลาแมนเดอร์ คือเชื้อราไคทริด (Chytridiomucosis) ซึ่งค้นพบไม่นานนี้ เชื้อรานี้มีผลโดยการไปขัดขวางการแลกเปลี่ยนก๊าซที่ผิวหนัง ทำให้สมดุลเสียไป และทำให้มันตายได้ ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าโรคนี้เชื่อมโยงกับภาวะโรคร้อน และที่เลวร้ายคือเชื้อรานี้ระบาดไปยังหลายทวีปไปแล้ว สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่มีชีวิตรอดมามากถึง 350 ล้านปี อาจจะต้องพบจุดจบในเวลาไม่ถึงร้อยปีนี้ก็เป็นได้
