นั่นคือที่ๆ นักบรรพชีวินวิทยาค้นพบกระดูกของสัตว์ยักษ์ โดยตั้งชื่อมันว่า เดรดนอต (Dreadnoughtus) ตามเรือรบเหล็กสมัยช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 มันเป็นไดโนเสาร์ซอโรพอด ซึ่งเป็นไดโนเสาร์สี่ขาคอยาวชนิดหนึ่งที่กินแต่พืชเท่านั้น
Ken Lacovara รองศาสตราจารย์ด้านซากดึกดำบรรพ์และธรณีวิทยาที่มหาวิทยาลัย Drexel ในฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า “ฉันคิดว่าสัตว์กินพืชขนาดใหญ่นี้ไม่ได้ชื่อจากลักษณะที่ดู ข่มขู่และคุกคาม ของมัน ฉันคิดว่าชื่อนี้ควรมีชื่อที่น่าเกรงขาม”
Lacovara ตั้งชื่อไดโนเสาร์ว่า เดรดนอต ซึ่งเป็นเรือรบที่สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 .. Lacovara บอกว่า “มันเป็นเรือที่แข็งแร่งและไม่คิดว่าจะมีอะไรเล่นงานมันได้” ฉันคิดว่า เดรดนอต จะเป็นชื่อที่ดีสำหรับไดโนเสาร์ตัวนี้ ซึ่งทำสองสิ่ง มันหมายความว่า “ไม่กลัวอะไรเลย” และไดโนเสาร์ตัวนี้จะไม่มีอะไรต้องกลัว มันยังสื่อถึงบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่เช่นเรือประจัญบาน
ชื่อสายพันธุ์ Schrani ตั้งให้เป็นเกียรติแก่ Adam Schran ผู้สนับสนุนทางการเงินของโครงการ และล่าสุดมันกำลังจะเป็นดาวเด่นในภาพยนต์ Jurassic World Dominion ที่เพิ่งเข้าฉาย
การขุดครั้งใหญ่
Lacovara พบกับเดรดนอต ในเดือนกุมภาพันธ์ 2005 เมื่อเขาค้นพบกระดูกเล็กๆ ในเขต Patagonia ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของอาร์เจนตินา
“มันเป็นกระดูกโคนขายาว 6 ฟุต (1.8 เมตร) ซึ่งก็ดูดี แต่ฉันคิดว่านี่จะเป็นกระดูกที่แยกออกมาจากร่างกาย” Lacovara บอกว่า “จากนั้นเราก็พบกระดูกหน้าแข้ง จากนั้นเราก็เจอกระดูกน่อง ในตอนท้ายของวัน เรามีกระดูก 10 ชิ้นถูกพบ และสี่ปีต่อมา เราพบกระดูกทั้งหมด 145 ชิ้น”
อันที่จริงพวกเขาได้พบไดโนเสาร์สองตัว ซากของเดรดนอตขนาดใหญ่ที่นักวิจัยตรวจสอบ มีกระดูก 115 ชิ้น และซากไดโนเสาร์ขนาดเล็กกว่านั้น รวมกระดูกมากถึง 30 ชิ้น
เพื่อการวิจัย โครงกระดูกส่วนใหญ่ยังคงอยู่กับที่ เผยให้เห็นว่ากระดูกเชื่อมต่อกันอย่างไร ในหลายกรณี กระดูกไดโนเสาร์ถูกพบในสภาพกระจัดกระจาย ทำให้นักบรรพชีวินวิทยาต้องใช้ความพยายามจะปะติดปะต่อซากเหล่านี้ได้
นักวิจัยได้ค้นพบโครงกระดูกทั้งหมดประมาณ 45 เปอร์เซ็นต์ของ เดรดนอต และประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของกระดูกในร่างกาย ทำให้เห็นลักษณะทางกายวิภาคและชีวกลศาสตร์ของไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดตัวหนึ่งที่เคยมีมา
Steve Salisbury นักบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ผู้ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการวิจัยนี้ บอกกับ Live Science ทางอีเมลว่า “ในที่สุด การได้เห็นว่าซอโรพอดที่ตัวใหญ่มากๆ หน้าตาเป็นอย่างไร มันช่างน่าอัศจรรย์” แม้ว่าเราจะรู้ว่ามีซอโรพอดขนาดใหญ่อยู่สองสามตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ไททันโนซอรัส แต่ส่วนใหญ่รู้จักจากฟอสซิลที่ไม่สมบูรณ์นัก
โครงกระดูกบางส่วนเหล่านี้ นำไปสู่การประมาณการเกี่ยวกับขนาดโดยรวมและสัดส่วนร่างกายของสัตว์ Salisbury กล่าวเสริม ..ก่อนการค้นพบครั้งใหม่นี้ ฟอสซิลไททันโนซอร์ขนาดมหึมาที่สมบูรณ์ที่สุดนั้นมาจาก “ฟูทาลองกอซอรัส (Futalognkosaurus dukei)” ซึ่งถูกค้นพบใน Pategonia
ฟอสซิลใหม่นี้ รวมทั้งฟันซี่เดียวยาว 2 นิ้ว (5 เซนติเมตร) อยู่ในห้องทดลองของ Lacovara ที่มหาวิทยาลัย Drexel โดยได้รับเงินทุนพื่อการวิจัยจากจังหวัดซานตาครูซ ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นเจ้าของไดโนเสาร์ ทีมขุดค้นไม่เคยพบหัวของไดโนเสาร์เลย ซึ่งจะมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาและมันจะอยู่ที่ส่วนปลายสุดของคอที่มีความยาว 11 เมตร
“มันเป็นเรื่องตลกที่ซอโรพอดไม่มีหัว เพราะคุณแทบจะหาหัวไม่เจอเลย” Lacovara กล่าว “เมื่อพวกมันตาย กะโหลกของพวกมันเป็นชิ้นส่วนที่บอบบาง ทำให้ส่วนมากมักจะสลายไปก่อน”
เมื่อไดโนเสาร์ครองโลก
เดรดนอต มีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 77 ล้านปีก่อนในช่วงปลายยุคครีเทเชียส ดาวเคราะห์ในเวลานั้นน่าจะอบอุ่นและปราศจากน้ำแข็ง ซึ่งหมายความว่าระดับมหาสมุทรอยู่สูงกว่าระดับที่เป็นอยู่ประมาณ 200 ฟุต (61 เมตร) ในปัจจุบัน Lacovara กล่าว และมีต้นไม้งอกงามในทุกพื้นที่
ออสเตรเลีย แอนตาร์กติกา และอเมริกาใต้ยังคงเชื่อมโยงถึงกันในช่วงเวลานั้น ที่จริงแล้วฟอสซิลสามารถช่วยให้นักวิจัยแยกแยะว่าทวีปต่างๆ เคยเชื่อมต่อกันอย่างไรในอดีต การขุดหาไดโนเสาร์ในน้ำแข็งแอนตาร์กติกเป็นเรื่องยากเกินไป แต่ Lacovara กล่าวว่าเขาสงสัยว่าจะพบฟอสซิลเดรดนอตในออสเตรเลียหรือไม่
กระนั้น ยังไม่พบโครงกระดูกที่สมบูรณ์ของไดโนเสาร์ขนาดมหึมา ซึ่งมีน้ำหนักตั้งแต่ 40 ตันขึ้นไป ที่ 65 ตัน เดรดนอต มีความยาว 85 ฟุต (26 ม.) และสูง 2 ชั้นที่ไหล่ นักวิจัยกล่าวว่าการประมาณน้ำหนักและความยาวของไดโนเสาร์ขนาดมหึมาตัวอื่นๆ นั้นโดยทั่วไปแล้วจะอิงจากกระดูกเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น การประมาณขนาดของไดโนเสาร์อาร์เจนติโนซอรัส ซึ่งเป็นหนึ่งในไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุด อ้างอิงจากกระดูกเพียง 13 ชิ้นจากประมาณ 250 ชิ้นจากโครงกระดูกของมัน Lacovara กล่าว
เขาคาดการณ์ว่าไดโนเสาร์ เดรดนอต สองตัวที่พบในอาร์เจนตินา เสียชีวิตจากน้ำท่วมกระทันหัน สิ่งนี้จะทำให้พื้นดินกลายเป็นโคลน และนำไปสู่การฝังศพของไดโนเสาร์อย่างรวดเร็ว
“สิ่งนี้จำเป็นต้องเกิดขึ้นก่อนที่ซากจะถูกคุ้ยโดยสัตว์อื่นหรือแตกหักตามธรรมชาติ” Salisbury กล่าว “ฉันสงสัยว่าในกรณีส่วนใหญ่ ซากของซอโรพอดที่ใหญ่กว่าบางตัวนั้นใหญ่มากจนถ้าพวกมันไม่อยู่ในที่ที่ถูกต้องและในเวลาที่เหมาะสม ซากของพวกมันอาจถูกสัตว์อื่นมากินอย่างรวดเร็ว และในกรณีที่พบเจอส่วนมากโครงกระดูกอาจไม่ได้รับการเก็บรักษาไว้”
โครงกระดูกของเดรดนอต มีรอยฟันบนกระดูกของมันเล็กน้อย ซึ่งน่าจะมาจากสัตว์กินเนื้อที่กินซากของพวกมัน
“ถ้าคุณวางเนื้อ 65 ตันไว้บนโต๊ะ สัตว์กินซากจะโผล่ออกมา” Lacovar กล่าว “เรามีฟันของไดโนเสาร์กินเนื้ออยู่บ้าง พวกมันมักจะสูญเสียฟันในขณะที่กินอาหาร” แต่ที่แน่ๆ พวกนี้ไม่ได้เป็นสัตว์ที่ฆ่าเดรดนอต
ในช่วงเวลานั้นนักล่าขนาดใหญ่สุดคือ “จิกแกนโนโตซอรัส (Giganotosaurus)” แต่ถึงแม้จะเป็นพวกมันที่มีความยาวมากถึง 13-14 เมตร แต่ก็ไม่สามารถต่อกรกับเดรดนอตที่โตเต็มที่ได้ คาดว่ามันอาจจะล่าพวกที่ยังเด็กหรือป่วย โดยการรวมกลุ่มกัน เพราะปัจจุบันคาดการว่าจิแกนโนโตซอรัสนั้นจะอยู่กันเป็นคู่ไม่ก็ครอบครัวเล็กๆ
การวิเคราะห์เพิ่มเติมของกระดูกแสดงให้เห็นว่า เดรดนอต ขนาดใหญ่พวกนี้ยังไม่โตเต็มที่ กระดูกหัวไหล่ไม่ได้หลอมรวมกันเหมือนในผู้ใหญ่ และส่วนหนึ่งของซากดึกดำบรรพ์แสดงให้เห็นว่าเซลล์ที่สร้างกระดูกของสัตว์นั้นดูเหมือนเซลล์ของสัตว์ที่อายุน้อย Lacovara กล่าว
ทีมงานได้ทำงานที่ “ยอดเยี่ยม” ในการตรวจกระดูก ซึ่งสแกนมันเป็นไฟล์ PDF 3 มิติที่เปิดเผยต่อสาธารณชน และนำมาประกอบไว้ในแผนภูมิลำดับวงศ์ตระกูลไดโนเสาร์ ..Patrick O’Connor ศาสตราจารย์ด้านกายวิภาคศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเอเธนส์ โอไฮโอ กล่าวเสริม