เมื่อเร็วๆ นี้นักวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาได้อธิบายถึงฟอสซิลเทอริสิโนซอรัส (Therizinosaur) ที่อายุน้อยที่สุดที่เคยพบในญี่ปุ่น โดยฟอสซิลดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่พบในเอเชีย และยังพบในตะกอนทะเลอีกด้วย
สำหรับฟอสซิลนี้ถือเป็นตัวแทนของสายพันธุ์ ที่เพิ่งได้รับการอธิบายใหม่ ซึ่งนักวิจัยได้ตั้งชื่อให้กับมันว่า “Paralitherizinosaurus japonicus” ที่มีความหมายว่า “สัตว์เลื้อยคลานริมทะเล” (ภาษากรีกและละติน) ชื่อสปีชีส์เป็นเกียรติแก่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งขุดพบตัวอย่างนี้
ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของสายพันธุ์นี้คือ มีกรงเล็บเหมือนมีดหรือตะขอที่แหลมคม นักวิจัยอธิบายว่า อาวุธที่คล้ายกับมือของเอ็ดเวิร์ดมือกรรไกรถูกใช้เพื่อฟันพืชผักมากกว่าที่จะชำแหละเหยื่อที่เป็นสัตว์
“ไดโนเสาร์ตัวนี้ใช้กรงเล็บของมัน เป็นเครื่องมือในการหาอาหาร แทนที่จะเป็นเครื่องมือในการทำร้ายสัตว์อื่น มันใช้กรงเล็บเพื่อดึงพุ่มไม้และต้นไม้ให้เข้าใกล้ปากของมันเพื่อกินได้ง่าย” Anthony Fiorillo ผู้ร่วมวิจัย ศาสตราจารย์ด้านการวิจัยของ Roy M. Huffington Department of Earth วิทยาศาสตร์ที่ Southern Methodist University (SMU) ในดัลลัสกล่าว
ฟอสซิรูปตะขอ พร้อมกระดูกสันหลังบางส่วน ข้อมือบางส่วนและปลายเท้า ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 2008 โดยทีมนักวิจัยหลายทีม .. ซากดึกดำบรรพ์ถูกห่อหุ้มด้วยคอนกรีต ซึ่งเป็นแร่ที่สะสมตัวแข็งแล้ว ซึงพบในนากากาวา (Nakagawa)
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังขาดข้อมูลเปรียบเทียบในขณะนั้น นักวิจัยดั้งเดิมจึงไม่สามารถสรุปผลที่แน่ชัดได้ ตัวแทนของมหาวิทยาลัยฮอกไกโดกล่าวในแถลงการณ์ .. ด้วยการพัฒนาข้อมูลจนสามารถจำแนกเทอริสิโนซอรัส ตามสัณฐานวิทยาของกรงเล็บที่ปลายเท้า นักวิจัยจึงตัดสินใจศึกษาฟอสซิลนี้ดังอีกครั้ง
“จากตัวอย่างนี้เพียงอย่างเดียว เป็นไปไม่ได้ที่จะทราบแน่ชัดว่าเทอริสิโนซอรัส มีขนาดใหญ่เพียงใด” .. Fiorillo กล่าวกับ WordsSideKick.com
สิ่งที่นักวิจัยสามารถพูดได้อย่างมั่นใจก็คือ ไดโนเสาร์นี้ “ตัวใหญ่” ซึ่งอาจใหญ่พอๆ กับฮาโดรซอร์ (Hadrosaur) หรือไดโนเสาร์ปากเป็ด ซึ่งสามารถเติบโตได้ยาวถึง 9 เมตร และหนักได้ถึง 3 ตัน
