นี่คือแม่น้ำสกปรกที่สุดในโลก ที่รับขยะอย่างน้อย 20,000 ตันทุกวัน

โปรดอย่าถามหาปลาในแม่น้ำจีตารุม เพราะนี่คือแม่น้ำที่ได้ชื่อว่า "สกปรกที่สุดในโลก" โดยแม่น้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย มันรองรับขยะอย่างน้อย 20,000 ตัน และน้ำเสียอีก 340,000 ต้น ทุกวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นน้ำเสียจากโรงงานสิ่งทอ เดี๋ยวผมจะมาพูดถึงแม่น้ำแห่งนี้และความคืบหน้าในการทำความสะอาด

ที่ตั้งของแม่น้ำจีตารุม

Advertisements

แม่น้ำจีตารุม (Citarum River) เป็นแม่น้ำในชวาตะวันตกของอินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในสามแม่น้ำยาวที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย แม่น้ำแห่งนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อชีวิตชาวชวาตะวันตกของอินโดนีเซีย เพราะต้องใช้เพื่อการเกษตร ประปา รวมถึงการประมง มีผู้คนมากกว่า 25 ล้านคนที่ใกล้ชิดแม่น้ำจีตารุม

แม่น้ำที่ถูกยกย่องว่าเป็นสิ่งที่สกปรกที่สุดในโลก

แม้ในปัจุบัน แม่น้ำจีตารุม ก็ยังถูกใช้งานเหมือนเป็นหลุมฝังกลบขยะจากครัวเรือนและโรงงานที่ส่งเข้ามาทุกวัน มันจึงเป็นแม่น้ำที่ถูกปนเปื้อนอย่างหนักจากกิจกรรมของมนุษย์ โดยเฉพาะจากโรงงานสิ่งทอมีปล่อยน้ำเสียที่เป็นพิษลงสู่แม่น้ำ มีทั้งสารตะกั่ว ปรอท สารหนู และสารพิษร้ายแรงอีกมาก

ความพยายามในการทำความสะอาดแม่น้ำ

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียได้อนุมัติเงินกู้เป็นจำนวน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อทำความสะอาดแม่น้ำ แล้วก็เป็นวันที่ถูกเรียกว่าเป็นแม่น้ำที่สกปรกที่สุดในโลก

แต่อย่างไรก็ตามการทำความสะอาดแม่น้ำ ยังคงเป็นเหมือนเรื่องเผลอฝัน เพราะจากการประเมินของนักสิ่งแวดล้อม ได้ระบุว่า แม่น้ำแห่งนี้รองรับขยะอย่างน้อย 20,000 ตัน และน้ำเสียอีก 340,000 ตัน ทุกวัน! ซึ่งเป็นการขยะและน้ำเสียเฉพาะจากโรงงานสิ่งทอเท่านั้น

การฟื้นฟูและทำความสะอาดแม่น้ำ เริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. 2554 มันเป็นโครงการ 15 ปี โดยคาดว่าจะต้องใช้เงินประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป้าหมายในสามปีแรกคือการเก็บตะกอน 10.5 ล้านลูกบาศก์เมตรออกไป

จนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 โจโค วิโดโด (Joko Widodo) ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เปิดตัวแผน 7 ปี ในการทำความสะอาดแม่น้ำทั้งสาย เพื่อให้ได้น้ำสะอาดเพียงพอที่จะดื่ม โดยสั่งให้ทหารประจำการ 7,000 นายทำความสะอาดแม่น้ำอย่างต่อเนื่อง

Advertisements

แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อต้องขาดเงินสำหรับการดำเนินแผนให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และยังขาดการประสานงานในระดับท้องถิ่น ที่สำคัญสินบนที่โรงงานต่างๆ จ่ายเพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังมีการพังทลายของดินต้นน้ำจากการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งทำให้การหมักหมมของแม่น้ำตอนล่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ด้วยการเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วและเข้าถึงง่าย ตอนนี้การบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาล จึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังมีที่ปรึกษาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เพื่อแนะนำการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นตั้งแต่ต้นน้ำ และการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ในท้องถิ่น และยังมีการกฎหมายต่อต้านพลาสติกก็เริ่มมีผลบังคับใช้

แต่ถึงอย่างงั้นแม่น้ำจีตารุม ก็ยังคงเป็นแม่น้ำที่สกปรกที่สุดในโลกอยู่ มันคงต้องใช้เวลาในการทำความสะอาดและฟื้นฟูไปอีกหลายสิบปี แต่ก็หวังว่าสักวันหนึ่งชื่อแม่น้ำที่สกปรกที่สุดในโลก จะถูกนำออกไปจากแม่น้ำสายนี้

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements
Advertisements