ไม่มีผู้ป่วยทางจิต เอเลี่ยน หรือซอมบี้ตามท้องถนนในเมืองแห่งนี้ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้มันน่าขนลุกน้อยลง เครื่องกีดขวางที่ช่วยไม่ให้คนขับหลงเข้าไปตามถนนที่อาจจะทรุดถล่มลงมาและควันพิษร้ายแรง เมืองแห่งนี้เคยเป็นบ้านของผู้คนหลายพันคนซึ่งสร้างอยู่บนเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่
สำหรับเกมเมอร์หลายคนอาจจะรู้สึกคุ้นกับชื่อเมืองนี้ เพราะมันเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเมืองไซเลนต์ฮิลล์ (Silent Hill) เมืองจากเกมสยองขวัญสุดฮิตในชื่อเดียวกัน เพียงแต่ควันพวกนี้ไม่ได้มีสัตว์ประหลาดออกมาแต่มันเป็นอันตรายกับสิ่งมีชีวิตเช่นกัน
1. ไฟในเมืองยังคงครุกรุนอยู่ตลอดเวลา
นานเท่าไรที่ไฟใต้เมืองนี้ยังคงเผาไหม้อยู่ ตั้งแต่ปี 1962 จนปัจจุบันมันยังไม่มีทีท่าว่าจะดับ ทางหลวงหมายเลข 61 เป็นเส้นทางหลักเข้าสู่ตัวเมืองที่รกร้างก็ปิดไปแล้ว ที่น่ากลัวคือป้ายเตือนส่วนมากหายไปแล้ว สิ่งเตือนที่ยังพอเหลือคือป้ายเตือนที่ติดบนต้นไม้ที่มีคำว่า “ไฟ” ..จากการสำรวจสอบพบว่าอุณหภูมิที่ลึกไปเพียง 6 เมตรจากพื้นดินนั้นสูงมากกว่า 500 องศาเซลเซียส
2. ควันที่พุ่งออกจากใต้พื้นดิน
ก่อนจะถึงตัวเมือง ภัยอันตรายอีกอย่างคือควันที่พุ่งขึ้นมา ทุกรอยแตกและรูบนพื้นมีควันพุ่งขึ้นมาตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีพิษจากคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เป็นอันตรายอีกด้วย
3. เมืองที่เกือบจะร้าง?
ก่อนที่ไฟนรกจะโผล่ขึ้นมา เมืองนี้มีประชากรเพียง 2761 คนเท่านั้น แต่ก็ยังเยอะเมื่อเทียบกับประชากรเพียง 10 คน จากสำมะโนประชากรในปี 2010 ตอนนี้มีคนอยู่น้อยลง มีผู้อาศัยเหลือ 7 คนในปี 2013 และ 5 คนในปี 2017 เมื่อผู้อยู่อาศัยคนสุดท้ายจากไป เมืองจะถูกรวบเข้ากับเขตอื่น
4. เมืองนี้อาจจะมีผีสิง?
นอกเหนือจากกองไฟใต้ดินที่อุณหภูมิสูงถึง 500 องศาเซลเซียส เมือง Centralia อาจมีผีสิงด้วย ผู้มาเยือนเมืองบางคนได้ยินเสียงแปลกๆ ตามท้องถนน มีบางคนเคยได้ยินเสียงแปลกๆ จากใต้ดินด้วยซ้ำ
5. ไฟเริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้น
แม้ไฟจะโหมกระหน่ำมาตั้งแต่ปี 1962 แต่มันไม่มีทีท่าจะช้าลงเลย ไฟขยายตัวเพิ่มขึ้น 75 ฟุตต่อปี ชาวเมือง Mount Carmel ที่อยู่ไม่ไกลกันเริ่มกังวลว่าในอนาคตเมืองพวกเขาที่อาจจะเจอชะตากรรมเดียวกัน แต่นักวิจัยที่เฝ้าติดตามก็ยืนยันว่า มันจะไม่กลายเป็นแบบ Cnetralia อีกแห่ง อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในเร็วๆ นี้
6. โพรงควันกำลังเพิ่มขึ้น
ในวันวาเลนไทน์ปี 1981 เด็กชายอายุ 12 ปี ตกลงไปในหลุมที่สวนหลังบ้านของคุณยาย ตามรายงานเด็กชายค่อยๆ เคลื่อนตัวต่ำผ่านโคลนจนกระทั้งอยู่ลึก 2 เมตรในรูที่เต็มไปด้วยคาร์บอนมอนอกไซด์ นับว่าโชคดีที่มีคนอยู่ตรงนั้น ถ้าเด็กคนนี้อยู่คนเดียวเค้าไม่รอดแน่นอน
7. Centralia เป็นเหมือนประตูนรก
นอกจากจะเป็นต้นแบบให้เมืองหมอกสยองอย่าง Silent Hill แล้ว มันยังเหมือนประตูนรกอีกด้วย ตำรวจท้องที่ยังคอยจับและปรับพวกวัยรุ่นที่มาพ่นสีบนพื้นถนนทางหลวงร้างแห่งนี้ แต่จริงๆ แล้วเมืองทั้งเมืองกำลังถูกพ่นไปด้วยกำมะถัน
8. เมืองกำลังค่อยๆ ทำลายตัวเอง
ตัวที่เร่งปฏิกิริยาสำหรับไฟใต้ดินนั้นเป็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน แต่สาเหตุหลักคิดว่ามาจากประกายไฟที่แพร่ไปยังเหมืองถ่านหิน ทำให้เกิดเปลวไฟที่ไม่สิ้นสุด เหมืองแห่งนี้เคยเป็นแหล่งเลี้ยงชีพสำคัญของชาวเมือง แต่ก็เป็นจุดที่ทำให้กลายเป็นเมืองผีสิงเช่นกัน เมื่อควันพิษแพร่ออกไป พื้นดินเริ่มยุบตัวลง ทำให้เมืองค่อยๆ จมลงสู่ขุมนรกที่ละนิด
9. ก๊าซพิษที่ทำลายพืชและสิ่งมีชีวิตรอบๆ
ควันไฟนอกจากจะทำลายถนนและบ้านเรือน มันยังทำให้ต้นไม้ตายด้วย ทำให้บริเวณนี้เหมือนกับดินแดนมรณะที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ อยู่ได้ และเนื่องจากมีควันพิษออกมาอย่างต่อเนื่อง เป็นไปได้ที่คุณจะขาดอากาศหายใจ แม้จะอยู่เขตรอบนอกก็ตาม ถ้าต้องการเข้าใกล้จริงๆ ควรจะใส่หน้ากากออกซิเจนด้วย
10. ยิ่งใกล้เมืองเท่าไรถนนยิ่งแย่ลงเท่านั้น
ทางหลวง 61 ที่มุ่งหน้าสู่เมือง ในที่สุดได้ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการในปี 1990 หลังจากพื้นดินเปิดออกและเริ่มยุบ มันยากที่จะซ่อม ยิ่งใกล้เมืองเท่าไร ถนนยิ่งแย่ลงเท่านั้น และต้องระมัดระวังเพราะอาจจะตกลงไปในหลุมนรกที่เกิดใหม่ก็ได้
11. รัฐบาลอาจจะเป็นต้นเหตุ?
หากไฟไหม้ครั้งนี้น่าสงสัย คุณอาจจะดีใจที่ทราบว่าไม่ใช่แค่คุณคนเดียว มีหลายคนคิดว่ารัฐบาลและเอกชนบางเจ้าเป็นเหตุทำให้เกิดไฟพวกนี้พวกเขาต้องการซื้อที่ดินในราคาที่ต่ำ ชาวเมืองเชื่อว่าการดับไฟพวกนั้นไม่ได้ผลจนผิดปกติ สุดท้ายพวกเข้าต้องย้ายออกจากเมืองของพวกเขาไป และไม่มีใครอยู่ได้แม้แต่คนเดียว