ปลากัดเป็นปลาท้องถิ่นในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะในไทย ปกติมักจะอยู่ตามแหล่งน้ำนิ่งที่ไม่ลึกมากนักหรือตามลำธาร มันหายใจโดยการฮุบอากาศโดยตรงเหมือนกับพวกปลาช่อน ทำให้มันอยู่ในน้ำที่มีออกซิเจนต่ำได้
ด้วยฉายา “Siamese Fighting Fish” หรือปลานักสู้แห่งสยาม ปลาชนิดนี้เริ่มเป็นที่นิยมเลี้ยงในไทยช่วงศตวรรษที่ 19 โดยมักเลี้ยงในการกัดกันเพื่อการพนัน และได้เผยแพร่เลี้ยงในสหรัฐอเมริกาช่วงต้นศตวรรษที่ 20
ในปัจจุบันนั้นปลากัดได้รับการผสมออกมาให้มีสีสันสวยงาม และบางตัวมีมูลค่าหลายพันหลายหมื่น ปลากัดนั้นมีอายุอยู่ได้ 2-4 ปีในที่เลี้ยง และก่อนที่จะเริ่มเลี้ยง มาทำความเข้าใจเรื่องพวกนี้กัน
1. ปลากัดไม่ต้องการพื้นที่เยอะ?
หนึ่งในความเชื่อมาอย่างยาวนานว่าปลากัดนั้นไม่ต้องการพื้นที่เยอะ เรามักจะเห็นปลากัดที่เลี้ยงอยู่ขวดโหลเล็กๆ มาตั้งแต่เด็กแล้วตามร้านขายปลา ซึ่งจริงๆ แล้วมาจากการที่ร้านขายปลาจะได้ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะและมันสามารถหายใจทางอากาศได้
แต่จริงๆแล้วถ้าเลี้ยงที่กว้างกว่าจะดีมากเพราะปลาจะได้ไม่เครียดและมีที่ให้หลบได้ โดยตู้ที่เหมาะสมสุดที่จะเลี้ยงปลากัด 1 ตัวควรมีขนาดประมาณ 12 นิ้ว หรือใหญ่กว่านั้นก็ได้แต่น้ำก็ไม่ควรลึกเกิน 12 นิ้ว
2. ปลากัดไม่ต้องการที่กรองหรือฮีทเตอร์?
ปลากัดนั้นเป็นปลาเขตร้อน อุณหภูมิควรอยู่ที่ระหว่าง 25-30 องศา ซึ่งถ้าบ้านคุณอบอุ่นก็ไม่เป็นไร เครื่องกรองนั้นก็เป็นยิ่งสำคัญ มันช่วยในการกรองของเสียในตู้ทำให้น้ำไม่ขุ่นเร็วและทำให้น้ำสะอาด แต่อย่างไงก็ตามกรองต้องเหมาะกับขนาดตู้ด้วย เพราะถ้ากรองที่แรงเกินไปอาจทำให้ครีบปลาเสียหายได้
3.ปลากัด ต้องอยู่ตัวเดียว?
ปลากัดนั้นถ้าตัวผู้ไม่สามารถอยู่ร่วมกับปลากัดตัวผู้ด้วยกันได้ ส่วนตัวเมียนั้นสามารถอยู่กันหลายตัวได้แต่กับปลาอื่นนั้นเป็นอีกเรื่องมันสามารถอยู่ร่วมกับปลาชนิดอื่นที่มีขนาดเท่ากันหรือใหญ่กว่าที่ไม่ก้าวร้าวหรือดุร้ายได้ ปลากัดนั้นถ้ากับปลาชนิดอื่นมันจะไม่ดุร้ายด้วย แต่กับปลาขนาดเล็กกว่ามากนั้นก็ไม่ควรเลี้ยงร่วมกับมัน
Advertisements
4. ปลากัดกินพืช?
ปกติมักเห็นปลากัดที่ขายในโหลขนาดเล็กพร้อมต้นไม้น้ำ แต่ปลากัดนั้นจริงๆ เป็นปลากินเนื้อ อาหารสำหรับมันคือพวกลูกน้ำ หนอนแดง หรืออาหารสำเร็จรูป
เราควรให้วันละครั้ง ไม่งั้นอาจทำให้ปลาท้องอืด และควรให้พอดีจำนวนไม่งั้นอาจทำให้น้ำเสียได้เร็ว
5.ปลากัดเป็นปลาขี้เกียจ?
หลายคนที่เลี้ยงปลากัดพบว่ามันไม่ค่อยตื่นตัว ซึ่งสาเหตุหลักๆ จริงๆ มาจากที่เลี้ยง ซึ่งที่เลี้ยงขนาดเล็กนั้นทำให้มันไม่ค่อยสบายตัว แต่ถ้าลงตู้ที่ใหญ่ขึ้นที่มีพืชน้ำพร้อมจะทำให้มันดูดีขึ้นและกระปรี้กระเปร่า ขึ้นอย่างมาก ซึ่งสภาพแวดล้อมที่ดีย่อมส่งผลต่อการเจริญเติบโตและสีสันของมันอีกด้วย
