ความแตกต่าง 8 ประการ ระหว่าง จระเข้ กับ แอลลิเกเตอร์

อันนี้ถือว่าอ่านกันเป็นความรู้รอบตัว ถึงแม้ในไทยจะไม่มีเกเตอร์ (แอลลิเกเตอร์) ก็ตาม และเชื่อว่ามีน้าๆ หลายคนแยกไม่ถูกว่าอะไรคือ จระเข้ อะไรคือ เกเตอร์ ก็มันดูเหมือนกันซะขนาดนี้ วันนี้เลยเอาวิธีดูกัน เราจะแยกแยะรูปร่างทางกายภาพ รวมทั้งนิสัยของพวกมัน และถ้าคิดว่าเป็นความรู้ดี อย่าลืมแชร์ไปให้น้าๆ ท่านอื่นได้อ่านกันนะ

“ทั้งจระเข้ และ แอลิเกเตอร์ จัดอยู่ในไฟลัมเดียวกัน แต่มีวงศ์ (Family) ที่ต่างกัน โดย จระเข้ จัดอยู่ใน Crocodylidae ขณะที่ เกเตอร์ (คำย่อของแอลิเกเตอร์) จัดอยู่ใน Alligatoridae ทั้งจระเข้และเกเตอร์ เป็นสัตว์เลือดเย็นที่มีอุณหภูมิของร่างกายไม่คงที่คือจะเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิของสภาพแวดล้อม

นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทั้ง 2 จึงมักอาศัยอยู่ตามบึงหรือแหล่งน้ำที่มีอุณภูมิเฉลี่ยประมาณ 27 องศาเซลเซียส เพราะอุณหภูมิดังกล่าวจะทำให้มันสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเหมาะสม”

สรุปความแตกต่าง 8 ประการ

Advertisements
  1. รูปร่างของปาก : ช่วงปากของ “จระเข้” จะแหลมและดูเป็นรูปตัว V ส่วนของ “เกเตอร์” จะกว้างและดูเป็นรูปตัว U
  2. แหล่งอาศัย : เกเตอร์จะพบได้ที่สหรัฐอเมริกาและจีนเท่านั้น ส่วน จระเข้สามารถพบได้ทั่วโลก
  3. แหล่งน้ำที่พบ : สามารถพบจระเข้ได้ทั้งน้ำจืด-เค็ม ส่วน เกเตอร์จะชอบอยู่น้ำจืด
  4. ฟัน : เกเตอร์ และ จระเข้ มีฟันที่ต่างกัน โดยจระเข้แม้จะปิดปากอยู่ก็ยังเห็นทั้งฟันบน-ล่าง ส่วนเกเตอร์จะเห็นน้อยกว่ามาก จนแทบไม่เห็น
  5. ขนาด : จระเข้เมื่อโตเต็มไว จะมีขนาดใหญ่กว่าเกเตอร์
  6. สี : โดยทั่วไปจระเข้จะมีสีอ่อนกว่า ส่วนเกเตอร์จะสีเข้มไปทางดำ
  7. ความเร็ว : ทั้งบนบก และในน้ำ จระเข้จะเคลื่อนที่ได้ช้ากว่าเกเตอร์
  8. พฤติกรรม : จระเข้มีความก้าวร้าวกว่า ส่วนเกเตอร์ดูจะเชื่องกว่า

เอาล่ะนี่คือข้อสรุปของ “ความแตกต่าง 8 ประการระหว่าง จระเข้ กับ เกเตอร์” ต่อไปผมจะลงลึกกว่านี่อีกนิด เพื่อให้น้าๆ ได้เข้าพวกมันมากขึ้น

1. จระเข้และเกเตอร์ มีรูปร่างของปากที่ต่างกัน

คิดว่าคงเป็นสิ่งที่ดูง่ายสุด เพื่อจะแยกความแตกต่างของทั้งสอง เพราะช่วงปากของ “จระเข้” จะแหลมและดูเป็นรูปตัว V ส่วนของ “เกเตอร์” จะกว้างและดูเป็นรูปตัว U

คาดว่าสาเหตุที่มีช่วงปากที่ต่างกัน เพราะอาหารที่กินต่างกัน โดยเหยื่อส่วนใหญ่ของ “เกเตอร์” จะเป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่น เต่า หอยและปลา ปากของมันจึงออกแบบมาให้สามารถรับแรงกดได้ดี ในขณะที่ “จระเข้” เหยื่อส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ที่มีทั้งขนาดเล็กไปจนถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมขนาดใหญ่ ทำให้ปากของมันถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรงและออกแรงกัดได้มากเป็นพิเศษ

2. จระเข้และเกเตอร์ อาศัยอยู่ที่ไหน?

เกเตอร์จะอาศัยอยู่เฉพาะในสหรัฐอเมริกา ทางตะวันออกเฉียงใต้ และทางภาคตะวันออกของจีน ในขณะที่จระเข้สามารถพบได้ทั่วโลก ในแอฟริกา ออสเตรเลีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และอเมริกากลาง

Advertisements

หากเราอาศัยอยู่ในอเมริกา จะมีโอกาสได้เจอกับเกเตอร์ มากกว่าจระเข้ แม้ว่าจะมีจระเข้สายพันธุ์อเมริกาก็ตาม ก็ยังมีจำนวนน้อยกว่า เมื่อเทียบกับเกเตอร์ ส่วนในประเทศไทยจะได้พบเฉพาะจระเข้เท่านั้น

“ในสหรัฐฯ มีเกเตอร์ มากกว่า 3 ล้านตัวในธรรมชาติ ในขณะที่มีจระเข้น้อยกว่า 2 พันตัว”

3. แหล่งน้ำที่พบ น้ำจืด หรือ น้ำเค็ม

Advertisements

จระเข้มีต่อมพิเศษที่ลิ้น ซึ่งขับเกลือส่วนเกินออกจากร่างกาย หมายความว่าพวกมันสามารถใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ในทะเล ส่วนเกเตอร์ก็มีต่อมเหล่านี้เช่นกัน แต่ไม่ได้มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับจระเข้ ดังนั้นพวกมันจึงมักอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด แม้ว่าบางครั้งจะพบได้ในน้ำกร่อยก็ตาม

4. พวกมันมีฟันที่ต่างกัน

เมื่อปากของพวกมันปิด เกเตอร์และจระเข้จะแยกออกจากกันได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเกเตอร์จะมองไม่เห็นฟันล่าง ในขณะที่จระเข้สามารถมองเห็นได้เสมอ

5. จระเข้ มีขนาดใหญ่กว่า เกเตอร์

ต้องบอกว่าจระเข้ สามารถโตได้ใหญ่กว่าเกเตอร์ แต่จะพบเห็นได้ยาก เพราะจระเข้ขนาดใหญ่มากๆ ส่วนใหญ่เป็นจระเข้น้ำเค็ม หรือจระเข้ที่อยู่แม่น้ำไนล์ โดยจระเข้โตเต็มวัยสามารถเติบโตได้ยาวประมาณ 19 ฟุต ในขณะที่เกเตอร์มีความยาวสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 14 ฟุต

6. สีของพวกมันแตกต่างกัน

Advertisements

ถือเป็นความแตกต่างทางกายภาพที่เห็นได้ชัดระหว่างสายพันธุ์ทั้งสอง โดย จระเข้จะมีลำตัวเป็นสีเหลืองอมเทา และบางทีมีลายด้วย ในขณะที่ เกเตอร์ จะมีลำตัวเป็นสีดำอมน้ำตาล หรือบางทีออกดำไปเลย

Advertisements

7. ตัวไหนวิ่ง-ว่ายน้ำ ได้เร็วกว่ากัน

(บนพื้นดิน) ทั้ง จระเข้ และเกเตอร์ สามารถเดินได้อย่างรวดเร็วบนบก แต่พวกมันทำได้ในระยะทางสั้นๆ เท่านั้น พวกมันทั้งสองสามารถ “วิ่ง” ได้ แต่จะทำได้เมื่อถูกคุกคามเท่านั้น และไม่นานอีกด้วย

จระเข้อาจทำได้ 9 ไมล์ต่อชั่วโมง (14 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ในขณะที่เกเตอร์ อาจมีความเร็วประมาณ 11 ไมล์ต่อชั่วโมง (18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

(ในน้ำ) พวกมันทั้งว่องไวและรวดเร็วในน้ำ มันสามารถใช้หางที่ยาวและมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง เพื่อขับเคลื่อนร่างกายไปข้างหน้า เมื่อจระเข้ว่ายน้ำพวกมันอาจถึงความเร็วประมาณ 9 ไมล์ต่อชั่วโมง (15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ในขณะที่เกเตอร์อาจมีความเร็วถึง 20 ไมล์ต่อชั่วโมง (32 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) หมายความว่าเกเตอร์เร็วกว่าจระเข้ทั้งบนบกและในน้ำ

8. ชนิดไหน ก้าวร้าวกว่ากัน

แม้ว่าเกเตอร์จะเป็นอันตราย แต่พวกมันก็ค่อนข้างขี้อาย เมื่อเทียบกับจระเข้ โดยทั่วไปแล้วเกเตอร์จะพยายามหลบหนี หากมนุษย์เข้าใกล้มัน มันจะมุ่งหน้าไปยังน้ำใกล้ที่สุด

“เหตุผลเดียวที่เกเตอร์จะโจมตีมนุษย์ คือถ้าพวกมันถูกรบกวนกระตุ้นหรือปกป้องลูกของมันโดยไม่คาดคิด”

เกเตอร์กลัวมนุษย์โดยสัญชาตญาณ แต่สามารถสูญเสียความกลัวบางอย่างไปได้ เมื่อสัมผัสหรือเจอกันเป็นประจำ ยกเว้นในสภาวะที่มีการควบคุมการให้อาหาร พวกมันมักจะมีความคิดที่ไม่ดี เนื่องจากพวกมันจะสูญเสียความกลัวและมองว่ามนุษย์เป็นแหล่งอาหารแทน (นั้นเพราะมันหิว) นอกจากนี้พวกมันยังสามารถเข้าใจผิดว่าเด็กเล็ก หรือสุนัขเป็นเหยื่อ

“จระเข้ มีอารมณ์ร้ายมากกว่า และมีแนวโน้มที่จะทำร้ายมนุษย์มากกว่าเช่นกัน แม้เรื่องนี้จะไม่ได้รับการพิสูจน์ก็ตาม”

โดยทั่วไปแล้วจระเข้น้ำเค็มของออสเตรเลีย ถือเป็นจระเข้ที่อันตรายที่สุดในโลก รองลงมาจากจระเข้ไนล์ ในทางกลับกันจระเข้อเมริกันเป็นหนึ่งในประเภทขี้อายมากกว่า พวกมันไม่ค่อยโจมตีมนุษย์

“รู้หรือไม่ว่า? การเสียชีวิตของมนุษย์เนื่องจาก “จระเข้ / เกเตอร์” นั้นมีน้อยมากๆ โดยค่าเฉลี่ยเพียง 1 คน ต่อ 3 ปีเท่านั้น (ในสหรัฐฯ) นับเป็นตัวเลขที่ต่ำมาก เมื่อคุณพิจารณาจำนวนคนและ จระเข้ / เกเตอร์ ที่มีอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ความจริงคือคุณมีแนวโน้มที่จะตายเพราะโดย สุนัข ผึ้ง ตัวต่อ แมงมุม งูหางกระดิ่ง สิงโตภูเขา หรือฉลาม มากกว่าซะอีก”

เอาล่ะเท่านี้น้าๆ ก็คงรู้จัก จระเข้ กับ เกเตอร์ มากขึ้นกันแล้ว เอาจริงๆ พอรู้แบบนี้ก็จะสามารถแยกความแตกต่างได้ไม่ยาก เป็นที่น่าเสียดายที่บ้านเราไม่มีเกเตอร์ จระเข้ไทยแท้หายาก และส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ฟาร์ม หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับน้าๆ ถ้าชอบอย่าลืมแชร์ไปให้น้าๆ ท่านอื่นได้อ่านกันนะ

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements