“ทั้งจระเข้ และ แอลิเกเตอร์ จัดอยู่ในไฟลัมเดียวกัน แต่มีวงศ์ (Family) ที่ต่างกัน โดย จระเข้ จัดอยู่ใน Crocodylidae ขณะที่ เกเตอร์ (คำย่อของแอลิเกเตอร์) จัดอยู่ใน Alligatoridae ทั้งจระเข้และเกเตอร์ เป็นสัตว์เลือดเย็นที่มีอุณหภูมิของร่างกายไม่คงที่คือจะเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิของสภาพแวดล้อม
นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทั้ง 2 จึงมักอาศัยอยู่ตามบึงหรือแหล่งน้ำที่มีอุณภูมิเฉลี่ยประมาณ 27 องศาเซลเซียส เพราะอุณหภูมิดังกล่าวจะทำให้มันสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเหมาะสม”
สรุปความแตกต่าง 8 ประการ
- รูปร่างของปาก : ช่วงปากของ “จระเข้” จะแหลมและดูเป็นรูปตัว V ส่วนของ “เกเตอร์” จะกว้างและดูเป็นรูปตัว U
- แหล่งอาศัย : เกเตอร์จะพบได้ที่สหรัฐอเมริกาและจีนเท่านั้น ส่วน จระเข้สามารถพบได้ทั่วโลก
- แหล่งน้ำที่พบ : สามารถพบจระเข้ได้ทั้งน้ำจืด-เค็ม ส่วน เกเตอร์จะชอบอยู่น้ำจืด
- ฟัน : เกเตอร์ และ จระเข้ มีฟันที่ต่างกัน โดยจระเข้แม้จะปิดปากอยู่ก็ยังเห็นทั้งฟันบน-ล่าง ส่วนเกเตอร์จะเห็นน้อยกว่ามาก จนแทบไม่เห็น
- ขนาด : จระเข้เมื่อโตเต็มไว จะมีขนาดใหญ่กว่าเกเตอร์
- สี : โดยทั่วไปจระเข้จะมีสีอ่อนกว่า ส่วนเกเตอร์จะสีเข้มไปทางดำ
- ความเร็ว : ทั้งบนบก และในน้ำ จระเข้จะเคลื่อนที่ได้ช้ากว่าเกเตอร์
- พฤติกรรม : จระเข้มีความก้าวร้าวกว่า ส่วนเกเตอร์ดูจะเชื่องกว่า
เอาล่ะนี่คือข้อสรุปของ “ความแตกต่าง 8 ประการระหว่าง จระเข้ กับ เกเตอร์” ต่อไปผมจะลงลึกกว่านี่อีกนิด เพื่อให้น้าๆ ได้เข้าพวกมันมากขึ้น
1. จระเข้และเกเตอร์ มีรูปร่างของปากที่ต่างกัน
คิดว่าคงเป็นสิ่งที่ดูง่ายสุด เพื่อจะแยกความแตกต่างของทั้งสอง เพราะช่วงปากของ “จระเข้” จะแหลมและดูเป็นรูปตัว V ส่วนของ “เกเตอร์” จะกว้างและดูเป็นรูปตัว U
คาดว่าสาเหตุที่มีช่วงปากที่ต่างกัน เพราะอาหารที่กินต่างกัน โดยเหยื่อส่วนใหญ่ของ “เกเตอร์” จะเป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่น เต่า หอยและปลา ปากของมันจึงออกแบบมาให้สามารถรับแรงกดได้ดี ในขณะที่ “จระเข้” เหยื่อส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ที่มีทั้งขนาดเล็กไปจนถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมขนาดใหญ่ ทำให้ปากของมันถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรงและออกแรงกัดได้มากเป็นพิเศษ
2. จระเข้และเกเตอร์ อาศัยอยู่ที่ไหน?
เกเตอร์จะอาศัยอยู่เฉพาะในสหรัฐอเมริกา ทางตะวันออกเฉียงใต้ และทางภาคตะวันออกของจีน ในขณะที่จระเข้สามารถพบได้ทั่วโลก ในแอฟริกา ออสเตรเลีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และอเมริกากลาง
หากเราอาศัยอยู่ในอเมริกา จะมีโอกาสได้เจอกับเกเตอร์ มากกว่าจระเข้ แม้ว่าจะมีจระเข้สายพันธุ์อเมริกาก็ตาม ก็ยังมีจำนวนน้อยกว่า เมื่อเทียบกับเกเตอร์ ส่วนในประเทศไทยจะได้พบเฉพาะจระเข้เท่านั้น
“ในสหรัฐฯ มีเกเตอร์ มากกว่า 3 ล้านตัวในธรรมชาติ ในขณะที่มีจระเข้น้อยกว่า 2 พันตัว”
3. แหล่งน้ำที่พบ น้ำจืด หรือ น้ำเค็ม
จระเข้มีต่อมพิเศษที่ลิ้น ซึ่งขับเกลือส่วนเกินออกจากร่างกาย หมายความว่าพวกมันสามารถใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ในทะเล ส่วนเกเตอร์ก็มีต่อมเหล่านี้เช่นกัน แต่ไม่ได้มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับจระเข้ ดังนั้นพวกมันจึงมักอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด แม้ว่าบางครั้งจะพบได้ในน้ำกร่อยก็ตาม
4. พวกมันมีฟันที่ต่างกัน
เมื่อปากของพวกมันปิด เกเตอร์และจระเข้จะแยกออกจากกันได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเกเตอร์จะมองไม่เห็นฟันล่าง ในขณะที่จระเข้สามารถมองเห็นได้เสมอ
5. จระเข้ มีขนาดใหญ่กว่า เกเตอร์
ต้องบอกว่าจระเข้ สามารถโตได้ใหญ่กว่าเกเตอร์ แต่จะพบเห็นได้ยาก เพราะจระเข้ขนาดใหญ่มากๆ ส่วนใหญ่เป็นจระเข้น้ำเค็ม หรือจระเข้ที่อยู่แม่น้ำไนล์ โดยจระเข้โตเต็มวัยสามารถเติบโตได้ยาวประมาณ 19 ฟุต ในขณะที่เกเตอร์มีความยาวสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 14 ฟุต
6. สีของพวกมันแตกต่างกัน
ถือเป็นความแตกต่างทางกายภาพที่เห็นได้ชัดระหว่างสายพันธุ์ทั้งสอง โดย จระเข้จะมีลำตัวเป็นสีเหลืองอมเทา และบางทีมีลายด้วย ในขณะที่ เกเตอร์ จะมีลำตัวเป็นสีดำอมน้ำตาล หรือบางทีออกดำไปเลย
7. ตัวไหนวิ่ง-ว่ายน้ำ ได้เร็วกว่ากัน
(บนพื้นดิน) ทั้ง จระเข้ และเกเตอร์ สามารถเดินได้อย่างรวดเร็วบนบก แต่พวกมันทำได้ในระยะทางสั้นๆ เท่านั้น พวกมันทั้งสองสามารถ “วิ่ง” ได้ แต่จะทำได้เมื่อถูกคุกคามเท่านั้น และไม่นานอีกด้วย
จระเข้อาจทำได้ 9 ไมล์ต่อชั่วโมง (14 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ในขณะที่เกเตอร์ อาจมีความเร็วประมาณ 11 ไมล์ต่อชั่วโมง (18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
(ในน้ำ) พวกมันทั้งว่องไวและรวดเร็วในน้ำ มันสามารถใช้หางที่ยาวและมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง เพื่อขับเคลื่อนร่างกายไปข้างหน้า เมื่อจระเข้ว่ายน้ำพวกมันอาจถึงความเร็วประมาณ 9 ไมล์ต่อชั่วโมง (15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ในขณะที่เกเตอร์อาจมีความเร็วถึง 20 ไมล์ต่อชั่วโมง (32 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) หมายความว่าเกเตอร์เร็วกว่าจระเข้ทั้งบนบกและในน้ำ
8. ชนิดไหน ก้าวร้าวกว่ากัน
แม้ว่าเกเตอร์จะเป็นอันตราย แต่พวกมันก็ค่อนข้างขี้อาย เมื่อเทียบกับจระเข้ โดยทั่วไปแล้วเกเตอร์จะพยายามหลบหนี หากมนุษย์เข้าใกล้มัน มันจะมุ่งหน้าไปยังน้ำใกล้ที่สุด
“เหตุผลเดียวที่เกเตอร์จะโจมตีมนุษย์ คือถ้าพวกมันถูกรบกวนกระตุ้นหรือปกป้องลูกของมันโดยไม่คาดคิด”
เกเตอร์กลัวมนุษย์โดยสัญชาตญาณ แต่สามารถสูญเสียความกลัวบางอย่างไปได้ เมื่อสัมผัสหรือเจอกันเป็นประจำ ยกเว้นในสภาวะที่มีการควบคุมการให้อาหาร พวกมันมักจะมีความคิดที่ไม่ดี เนื่องจากพวกมันจะสูญเสียความกลัวและมองว่ามนุษย์เป็นแหล่งอาหารแทน (นั้นเพราะมันหิว) นอกจากนี้พวกมันยังสามารถเข้าใจผิดว่าเด็กเล็ก หรือสุนัขเป็นเหยื่อ
“จระเข้ มีอารมณ์ร้ายมากกว่า และมีแนวโน้มที่จะทำร้ายมนุษย์มากกว่าเช่นกัน แม้เรื่องนี้จะไม่ได้รับการพิสูจน์ก็ตาม”
โดยทั่วไปแล้วจระเข้น้ำเค็มของออสเตรเลีย ถือเป็นจระเข้ที่อันตรายที่สุดในโลก รองลงมาจากจระเข้ไนล์ ในทางกลับกันจระเข้อเมริกันเป็นหนึ่งในประเภทขี้อายมากกว่า พวกมันไม่ค่อยโจมตีมนุษย์
“รู้หรือไม่ว่า? การเสียชีวิตของมนุษย์เนื่องจาก “จระเข้ / เกเตอร์” นั้นมีน้อยมากๆ โดยค่าเฉลี่ยเพียง 1 คน ต่อ 3 ปีเท่านั้น (ในสหรัฐฯ) นับเป็นตัวเลขที่ต่ำมาก เมื่อคุณพิจารณาจำนวนคนและ จระเข้ / เกเตอร์ ที่มีอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ความจริงคือคุณมีแนวโน้มที่จะตายเพราะโดย สุนัข ผึ้ง ตัวต่อ แมงมุม งูหางกระดิ่ง สิงโตภูเขา หรือฉลาม มากกว่าซะอีก”
เอาล่ะเท่านี้น้าๆ ก็คงรู้จัก จระเข้ กับ เกเตอร์ มากขึ้นกันแล้ว เอาจริงๆ พอรู้แบบนี้ก็จะสามารถแยกความแตกต่างได้ไม่ยาก เป็นที่น่าเสียดายที่บ้านเราไม่มีเกเตอร์ จระเข้ไทยแท้หายาก และส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ฟาร์ม หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับน้าๆ ถ้าชอบอย่าลืมแชร์ไปให้น้าๆ ท่านอื่นได้อ่านกันนะ