1. เขตสงวนทางทะเล Ross Sea
Ross Sea Marine Reserve ที่แห่งนี้เป็นเขตสงวนทางทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ครอบคลุมถึง 598,000 ตารางไมล์ นั้นหมายความว่าเขตสงวนแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าประเทศไทย 3 เท่า! (ประเทศไทยมีพื้นที่ 198,120 ตารางไมล์ ) เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งใหม่ล่าสุดซึ่งก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม 2016
“มีรายงานจากเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิกว่า เป็นทะเลที่อุดมด้วยสารอาหารมากที่สุดในแอนตาร์กติก ซึ่งนำไปสู่แพลงก์ตอนจำนวนมหาศาล รองรับปลา แมวน้ำ เพนกวิน และวาฬจำนวนมาก อาจมีสัตว์มากถึง 16,000 ชนิด หลายชนิดปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นโดยเฉพาะ”
2. อุทยานธรรมชาติทางทะเลคอรัล
Natural Park of the Coral Sea อุทยานธรรมชาติทางทะเลคอรัล เป็นอีกแห่งที่มีขนาดใหญ่มากเช่นกัน มันมีขนาดใหญ่กว่าประเทศไทย 3 เท่า หรือก็คือ มีเนื้อที่ 501,930 ตารางไมล์ เล็กกว่า Ross Sea นิดเดียว อยู่ในพื้นที่ของประเทศนิวแคลิโดเนีย ติดดินแดนของฝรั่งเศส นอกชายฝั่งออสเตรเลีย เป็นอุทยานธรรมชาติที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 น่านน้ำแห่งนี้มีปะการังวงกลมขยายออกไปมากกว่า 600 ไมล์ เป็นบ้านของปะการังทะเลถึง 25 สายพันธุ์ สัตว์ทะเลอีก 48 และปลาฉลาม 19 ชนิด มีนกและสายพันธุ์ของเต่าทะเลอีกมากมาย
“นิตยสารไทม์ รายงานว่า ประเทศนิวแคลิโดเนีย ไม่มีกองทัพเรือเป็นของตัวเอง ต้องอาศัยเรือฝรั่งเศสจำนวนหนึ่งในการลาดตระเวนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าเท็กซัสถึง 2 เท่า ท้ายที่สุดแล้วคืออะไร? มันจะเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำได้อีกหรือไม่? หากไม่มีตำรวจมากพอ?”
3. อนุสรณ์สถานแห่งชาติทางทะเล Pacific Remote Islands
Pacific Remote Islands Marine National Monument ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของฮาวาย ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 2009 ภายใต้ประธานาธิบดีบุช และในปี 2014 ประธานาธิบดีโอบามาขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 490,000 ตารางไมล์ (ขึ้นจากเดิมถึง 6 เท่า)
“อนุสรณ์สถานแห่งชาติทางทะเล Pacific Remote Islands ประกอบด้วยเกาะสามเกาะ (Howland, Baker และ Jarvis), เกาะปะการังสามแห่ง (Johnston, Wake และ Palmyra) และแนวปะการัง Kingman”
4. อนุสรณ์สถานแห่งชาติทางทะเล Papahānaumokuākea
Papahānaumokuākea Marine National Monument อีกหนึ่งความร่วมมือกัน ของประธานาธิบดีบุชและ ประธานาธิบดีโอบามา คืออนุสรณ์สถานแห่งชาติทางทะเล Papahānaumokuākea มันเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่ได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ และใหญ่ที่สุดในสหรัฐ ซึ่งตั้งขึ้นในเดือนมิถุนายน 2006 และขยายพื้นที่ในปี 2016 เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ 582,578 ตารางไมล์ ในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้ฮาวาย
“แนวปะการังที่กว้างขวางนี้เป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตมากกว่า 7,000 สายพันธุ์ และหนึ่งในสี่จะพบได้เฉพาะในฮาวาย นกทะเล 14 ล้านตัวจาก 22 ชนิด ผสมพันธุ์และทำรังที่นั่น นอกจากนี้ “Papahānaumokuākea Marine National Monument” ยังขึ้นทะเบียนทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก” อีกด้วย”
5. พื้นที่คุ้มครองทางทะเลของจอร์เจียใต้
South Georgia Marine Protected Area เกาะจอร์เจียใต้ และหมู่เกาะแซนด์วิชใต้ (South Sandwich Islands) เป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร ประมาณ 800 ไมล์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ หมู่เกาะภูเขาไฟขนาดเล็กห่างไกลเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่คุ้มครองทางทะเล (MPA) ที่มีพื้นที่มากกว่า 413,000 ตารางไมล์
มากกว่าครึ่งหนึ่งของเกาะจอร์เจียใต้ ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งอย่างถาวร จึงไม่มีผู้อยู่อาศัย แต่พื้นที่นี้มีความสำคัญเนื่องจากเป็น “สภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเก่าแก่และอุดมสมบูรณ์ ซึ่งรองรับประชากรนกทะเล และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลจำนวนมาก รวมถึงสายพันธุ์ที่ถูกคุกคามจากทั่วโลก เช่น นกอัลบาทรอส
6. อุทยานแห่งชาติกรีนแลนด์
Greenland National Park กรีนแลนด์มีสิทธิที่จะอวดอ้างว่าเป็น อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันมีขนาด 375,000 ตารางไมล์ ใหญ่กว่าปากีสถาน ใหญ่กว่าเวเนซุเอลา ใหญ่กว่าฝรั่งเศส อันที่จริงมีเพียง 30 ชาติบนโลก ที่ใหญ่กว่าสวนสาธารณะแห่งเดียวนี้
อุทยานแห่งชาติกรีนแลนด์ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ใช่อุทยานแห่งชาติแบบดั้งเดิมเช่น Yellowstone เพราะมันไม่มีคนอาศัยอยู่ในพื้นที่ ในช่วงฤดูหนาวโดยทั่วไปคุณจะพบกับเจ้าหน้าที่อุทยานหลายสิบคน และนักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศจำนวนหนึ่ง ในอุทยานแห่งชาติกรีนแลนด์ตะวันออกเฉียงเหนือพร้อมกับสุนัข 110 ตัวของพวกเขาเพียงเท่านี้
7. พื้นที่คุ้มครองทางทะเลชากอส
Chagos Marine Protected Area เป็นหมู่เกาะของกลุ่มหินปะการังรูป 7 อะทอลล์ (seven atolls) 55 หมู่เกาะเล็กๆ ในมหาสมุทรอินเดียประมาณ 310 ไมล์ทางใต้ของประเทศมัลดีฟส์ มีพื้นที่ 397,678 ตารางไมล์ ถูกกำหนดให้เป็นเขตสงวนทางทะเล ในปี 2010 เพราะมีปะการังใหญ่ที่สุดในโลก “The Great Chagos Bank” พร้อมกับบางส่วนของระบบแนวปะการังที่ดีต่อโลก
